วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อภิสิทธิ์ชน คนข่าว !?


อภิสิทธิ์ชนคนข่าว ที่ชัดเจนอีกเรื่องหนึ่ง คือการรับเชิญไปดูงาน ทำข่าว หรือนัยแอบแฝงคือไปเที่ยว โดยไม่ต้องจ่ายเงิน เหตุผลก็คือ การเป็นคนทำงานที่อาจให้คุณ ให้โทษกับใครก็ได้ หรือเชื่อว่ามีอิทธิฤทธิ์ อิทธิพล ต่อสังคม เหตุผลอื่นนอกจากนี้ไม่มี

ดังนั้น นอกจากนักข่าวอาชีพ ที่ได้รับเชิญเป็นวิถีปกติแล้ว คนที่ไม่ได้เป็นนักข่าวโดยอาชีพ หรือหลุดออกนอกวงโคจรข่าวไปแล้ว ก็ต่างปรารถนาจะไขว่คว้า เมื่อมีโอกาสมาถึง ในขณะเดียวกันคนเชิญก็อยากได้นักข่าวไปประดับโปรแกรมให้ดูคึกคัก แต่ก็ต้องเลือกสรรกันพอสมควร เพื่อให้ได้นักข่าวตัวจริง เพื่อที่จะกลับมาเขียนถึงผู้สนับสนุนได้จริงจัง จำนวนฉบับที่เขียนถึงย่อมเป็นผลงานของฝ่ายประชาสัมพันธ์ หรือฝ่ายสื่อสารองค์กร ที่จะเอาไปเป็นหน้า เป็นตา เมื่อต้องรายงานเจ้านาย แต่..ในความสัมพันธ์ระหว่างคนข่าว กับคนเชิญก็มีบางแง่มุมที่น่าประหลาดใจ

คนเชิญบางคน เชิญนักข่าวผ่านสมาคมวิชาชีพ โดยไม่ได้เข้าใจว่าสมาคมวิชาชีพนั้น เขามีไว้เพื่อให้คนอาชีพเดียวกันมารวมกัน ทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ร่วมกัน ไม่ได้มีไว้เพื่อให้คำอนุญาตว่านักข่าวคนไหน ควรไป หรือไม่ควรไป เพราะคนที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการอนุมัติคือต้นสังกัดที่นักข่าวนั้นสังกัดอยู่

เรื่องทำนองนี้ ไม่ใช่ตึงไปจนขาด หรือหย่อนเกินไป ไปเที่ยว ไปทำข่าว คงพอรับได้ เพราะถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับแหล่งข่าวรูปแบบหนึ่ง ส่วนเรื่องนักข่าวผี ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องถามผู้เชิญ หรือผู้ถูกเชิญว่ามาจากเหตุผลความเกรงใจ หรือเล่นกลกันอย่างไร จากคนที่ถูกมองข้ามไปจึงตีวงเข้าโค้งสุดท้ายกลับมาได้

ในหลักการมาตรฐานของการรับเชิญไปทำข่าวต่างประเทศขององค์กรสื่อ บางแห่งได้เขียนไว้ชัดเจน เพื่อให้นักข่าวรู้หน้าที่ และแหล่งข่าวเข้าใจว่า จะต้องปฎิบัติอย่างไรในการเชิญให้ถูกต้องตามธรรมเนียมปฎิบัติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะสิทธิพิเศษและผลประโยชน์ทับซ้อน หรือ Conflict of Interest เช่น  ปรากฎการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เมื่อรัฐสภาเชิญนักข่าวทั้งตัวจริง และตัวปลอมที่แอบแฝงมาในคราบนักข่าว ไปเที่ยวและดูฟุตบอลอังกฤษ

ผู้บังคับบัญชาโดยตรงหรือบรรณาธิการจะเป็นผู้ตัดสินใจ และมอบหมายให้นักข่าวเดินทางไปทำข่าวหรือสารคดีในต่างประเทศตามคำเชิญของแหล่งข่าวตามความเหมาะสม นักข่าวไม่สามารถตกลงรับเชิญได้ นี่ไม่เกี่ยวกับสมาคมวิชาชีพใด แม้กระทั่งตัวนักข่าวเอง

นักข่าวจะเรียกร้อง ขอร้อง หรือตั้งเงื่อนไข เพื่อให้องค์กร บริษัท หรือหน่วยงานภายนอก ส่งคำเชิญมาที่ตัวเองไม่ได้เด็ดขาด หรือเก็บหมายงานไว้จนใกล้วันเดินทางแล้วค่อยแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อให้ตัวเองได้รับเลือกไป ในทางตรงกันข้าม หัวหน้า หรือบรรณาธิการ จะถือสิทธิในการรับเชิญ ทั้งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือนักข่าวมีความเหมาะสมมากกว่า ก็ไม่ได้เช่นกัน

ในกรณีที่มีรายงานข่าวหรือบทความ หลังจากกลับจากการเดินทางแล้ว ต้องระบุไว้ชัดเจนท้ายบทความ หรือรายงานชิ้นนั้นว่า ข้อมูลได้มาจากที่ใด ใครเป็นผู้จัดการเดินทาง เพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสามารถแยกแยะได้ว่า เขาควรเชื่อถือข้อมูล ข่าวสารนั้นเพียงใด

นอกจากนั้น กองบรรณาธิการอาจมีกรรมการพิจารณาคัดเลือกคนไป เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดหรือหมุนเวียนอยู่เฉพาะนักข่าวสายใดสายหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งมีหนังสือตอบรับการเดินทาง โดยระบุข้อความชัดเจนว่า การเดินทางไปมิใช่คำมั่นสัญญา หรือข้อผูกมัดที่จะต้องกลับมาเขียนข่าว หรือบทความในภายหลัง

นี่เป็นหลักปฏิบัติ ที่ทั้งแหล่งข่าวและนักข่าวจะต้องรู้ และต้องให้การเคารพในบทบาทหน้าที่ซึ่งกันและกัน


โดยเฉพาะต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ว่า นักข่าวมิใช่อภิสิทธิ์ชน 

(ม้าสีหมอก ฉบับที่ 946 วันที่  4-10 ตุลตาคม 2556)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์