วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556

“ข้าวแต๋น” สแน็กพันธุ์ไทย โกอินเตอร์ โกยเงินล้าน


ท่ามกลางกระแสการแข่งขันผลิตภัณฑ์ขนมเคี้ยวในระดับอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ที่มีทุนหนา อัดโฆษณาดึงดาราชื่อดังทำการตลาด แต่สำหรับขนมท้องถิ่นต้นตำรับจากภูมิปัญญาอย่าง ข้าวแต๋นยังสามารถยืนหยัดชิงส่วนแบ่งการตลาด และยังแจ้งเกิดในตลาดต่างประเทศได้อีกด้วย

ข้าวแต๋น ขนมพื้นบ้านที่มีข้าวเหนียวเป็นวัตถุดิบหลัก นำมาผ่านการแปรรูปซึ่งเป็นการถนอมอาหารวิธีหนึ่ง หากแต่วันนี้ข้าวแต๋นก้าวขึ้นแท่นเป็นสแน็กแบบไทยๆที่สร้างรายได้หลักล้านให้แก่ผู้ประกอบการ โดยได้มีพัฒนาปรับโฉมทั้งรูปแบบ บรรจุภัณฑ์และรสชาติกลายเป็น ข้าวแต๋นสารพัดรส เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น

ชาญยุทธ  อินทร์พรหม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทวีพรรณ โพรดักส์ จำกัด และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวแต๋นทวีพรรณ เจ้าของผลิตภัณฑ์ข้าวแต๋นรุ่นที่ 2 กล่าวถึงผลกระทบจากการที่ค่าแรงเพิ่มขึ้น วัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ต่างปรับตัวขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแต่ข้าวแต๋นทวีพรรณยังยืนหยัดขายในราคาเดิม เพราะได้ออเดอร์จากต่างประเทศเพิ่มเข้ามา เราได้ทำตลาดส่งออกมาประมาณ 10 ปีแล้ว ซึ่งตอนนี้ตลาดในโซนประเทศยุโรปมียอดสั่งซื้อน้อยลงมาก เพราะยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจ อีกทั้งตลาดส่งออกไปยัง ใต้หวัน ฮ่องกง ขณะนี้เริ่มอิ่มตัวทำให้ยอดสั่งไม่เพิ่มขึ้น แต่น่าจับตามองคือ จีนซึ่งมีสั่งซื้อในปี 2556 สูงถึง 5 ล้าน และคาดว่าปีนี้จะโตอีกเท่าตัว

ด้วยความที่เราไม่หยุดนิ่ง เราได้พัฒนาข้าวแต๋นให้มีรสชาติถึง 50 รส โดยตลาดในประเทศหน้าที่ได้รับความนิยมยังคงเป็น น้ำอ้อย ธัญพืช หมูหยอง ในขณะที่ตลาดต่างประเทศ อย่าง ฮ่องกง จีน นิยมหน้าวาซาบิ สาหร่าย ต้มยำ กระเทียมพริกไทย นอกจากนี้เรายังพัฒนา รสแกงเขียวหวาน รสลำไย รสทุเรียนเพื่อบุกตลาดประเทศจีน

นายชาญยุทธ กล่าวต่อว่า ในปี 2557 ยอดการสั่งซื้อน่าจะโตขึ้น แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะกำลังการผลิตที่มีอยู่สามารถรองรับได้อีกมาก ทุกวันนี้เราใช้กำลังการผลิตเพียง 70% เท่านั้น ยังสามารถรองรับยอดสั่งได้อีกมาก โดยเราใช้เครื่องจักรในกระบวนการผลิต 30% ที่เหลือ 70% เป็นแรงงานคน ทุกวันนี้เรามีพนักงานในสายผลิต 80 คน ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวแต๋นทวีพรรณ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบหมื่นบาทต่อเดือน

สุธาณี  เยาวพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนสามัญข้าวแต๋นแม่บัวจันทร์ 2 เปิดเผยว่า ข้าวแต๋นแม่บัวจันทร์ เป็นการรวมตัวของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านทุ่งม่านเหนือ ต.บ้านเป้า อ.เมือง จ.ลำปาง ก่อตั้งเมื่อปี 2538 จากโรงงานเล็กๆที่ต้องอาศัยกำลังการผลิตในชุมชน ได้มีการพัฒนาเรื่องคุณภาพสินค้า และช่องทางการจัดจำหน่าย จนวันนี้มีโรงอบแห้งพลังแสงอาทิตย์ถึง 3 โดม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต

ข้าวแต๋นแม่บัวจันทร์ เปิดตลาดส่งออกมากว่า 8 ปี แล้ว โดยเน้นตลาดเอเชียและยุโรป ช่วงไตรมาสที่ 3 ทางเรากำลังได้ออเดอร์จากกลุ่มประเทศยุโรปเพิ่มขึ้นแต่กลับเจอปัญหาข่าวพบสารเคมีในข้าวไทยทำให้ลูกค้ายกเลิกการสั่งซื้อไปหลายราย เพราะไม่มั่นใจในคุณภาพข้าวไทย ซึ่งกระทบต่อเรามากนายสุธาณีกล่าว

ข้าวแต๋นแม่บัวจันทร์ ส่วนใหญ่จำหน่ายในประเทศถึง 85%  ส่งออกต่างประเทศ 15% แต่มีแผนจะบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพราะตั้งแต่ปี 55 ที่ได้ไปออกโร้คโชว์แสดงสินค้ากับกรมส่งออก ทำให้ข้าวแต๋นแม่บัวจันทร์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะได้ออเดอร์จาก จีน ญี่ปุ่น มากขึ้น นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะเปิดตลาดไปยัง ลาว พม่า และเวียดนามอีกด้วย โดยข้าวแต๋นที่ได้รับความนิยมมีหลายหน้า เช่น หน้าธัญพืช รวมรส วาซาบิ ต้มยำ ลิ้นจี่ และได้พัฒนารสชาติตามความต้องการของลูกค้า เช่น หน้าผลไม้ต่างๆอย่างทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ อีกทั้งยังทำข้าวแต๋นให้มีรูปร่างหลากหลายอย่างรูปหัวใจ รูปโดนัส


นายสุธาณีกล่าวต่อว่า ข้าวแต๋นแม่บัวจันทร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยคนทั้งสิ้น ใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีมาช่วยในการผลิตเพียง 5% เท่านั้น ที่เหลือเป็นงานฝีมือจากคนในพื้นที่ทั้งสิ้น หากนำเครื่องจักรมาใช้ในกระบวนการผลิตอาจจะทำให้เอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์หมดไป ซึ่งเมื่อสอบถามถึงแนวโน้มธุรกิจปี 57 ยายสุธาณีให้ความเห็นว่าคงต้องดูทิศทางนโยบายจากรัฐในเรื่องการพัฒนาข้าวและเพิ่มความน่าเชื่อถือเรื่องคุณภาพข้าวไทยก่อน เพราะต่างประเทศค่อนข้างละเอียดอ่อนกับเรื่องนี้มาก แต่คาดว่ายอดการผลิตไม่น้อยกว่าปีนี้แน่นอน

สำหรับการผลิตข้าวแต๋น ของชุมชนใน หมู่บ้านทุ่งม่านเหนือนั้น กว่าครึ่งหนึ่งของชุมชนมีรายได้จากการทำข้าวแต๋น จึงเป็นที่รู้จักกันในนามของหมู่บ้านข้าวแต๋น นอกจากทำการเกษตรแล้วอาชีพรองคือ การทำข้าวแต๋นน้ำแตงโม สร้างรายได้เฉลี่ย 300450 บาทต่อคนต่อวัน

นับเป็นอักหนึ่งตัวอย่างของการเติบโตทางธุรกิจ จากผลิตภัณฑ์ข้าวแต๋น ขนมพื้นบ้าน สามารถพัฒนาให้กลายเป็นสินค้าทำเงินเข้าสู่มือคนในท้องถิ่น

 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 948 วันที่ 18 - 24 ตุลาคม 2556) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์