วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

รักร้ายกว่าเกลียด


เมื่อความรักแปรรูปเป็นความเกลียด อานุภาพการทำลายล้างมันร้ายแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่บอมบ์ฮิโรชิมาถึงร้อยเท่าพันเท่า โดยเฉพาะเรื่องราวความรักในครอบครัว นับจากยุค หมออธิป กับนวลฉวี จนกระทั่งยุค หมอวิสุทธิ์ กับหมอผัสพร  ทั้งสองหมอนั้นเป็นการสั่งฆ่า และฆ่าด้วยมือตัวเอง ที่อธิบายด้วยเหตุผลใด คนนอกก็อาจไม่เข้าใจเท่ากับคนที่เผชิญชะตากรรมด้วยตนเอง เช่นเดียวกับกรณีของหมอนิ่ม พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ  ที่ถูกกล่าวหาว่าหยิบยื่นความตายให้กับ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พนิชย์ผาติ สามีตัวเอง ที่อย่างน้อยย่อมมีความผูกพันทางใจกันมาก่อน

กรณี หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อาจารย์หมอที่มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง มีคนไข้เชื่อถือศรัทธามากมาย มีอุปนิสัยเรียบร้อย ใจเย็น แต่กลับพลิกผันแล่หั่นเนื้อเมียทีละชิ้นๆ เป็นเวลานานนับชั่วโมง เพื่อทำลายหลักฐาน เป็นไปได้อย่างไร คนโดยทั่วไปไม่รีรอที่จะตัดสินว่าหมอวิสุทธิ์เป็นฆาตกรเหี้ยมโหด ทำร้ายและฆ่าได้แม้กระทั่งเมียตัวเอง แต่มีไม่มากคนที่จะเชื่อว่าชนวนที่ก่อให้เกิดเหตุอาจเป็นเพราะความบีบคั้นจากหมอผัสพรที่มากเกินกว่าจะรับได้

หากฟังคำอธิบายกรณีของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ จากสุรางค์ ดวงจินดา แม่ยายของเขาที่มีส่วนพัวพันในการจ้างวานฆ่า

สงสารลูกสาวที่ถูกทำร้ายมาทั้งหมด 6 ปีเต็ม ถึงขั้นที่ว่ามีการเอาปืนมาขู่ และหลานที่อายุได้ 2 ขวบจะถูกตีอยู่บ่อยครั้ง หากไม่ทำตามที่นายจักรกฤษณ์บอก พอหมอนิ่มเข้าไปห้ามก็จะถูกเอาไฟจี้ ฉันในฐานะคนเป็นแม่ยอมไม่ได้ที่เห็นลูกสาวถูกทำร้ายทุกวัน จึงบอกให้ทั้งคู่เลิกกัน แต่ทั้งสองคนไม่ยอมเลิกและให้เหตุผลว่ารักลูกและไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก ฉันก็ยอมและทนมานานกว่า 6 ปี จนกระทั่งแม่ของเอ็กซ์เข้าแจ้งความและเอ็กซ์ถูกดำเนินคดี ฉันคิดว่าเมื่อหลุดคดีแล้วเอ็กซ์จะทำตัวดีขึ้น แต่ยังก็ยังทำตัวเหมือนเดิม และร้ายขึ้นทุกวัน จนกระทั่งก่อนที่จะเข้ามาแจ้งความได้ทำร้ายร่างกายหมอนิ่มจนแท้งลูก

และเมื่อความคิดเช่นนี้เกิดขึ้น การวางแผนที่จะฆ่าเอ็กซ์ ก็ดำเนินไป โดยหมอนิ่มมีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วย โดยการบอกพิกัดการเดินทางของเอ็กซ์

ในทางคดี การจ้างวานฆ่าอดีตมือปืนทีมชาติครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องบันดาลโทสะ ด้วยเหตุที่ถูกข่มเหงน้ำใจอย่างร้ายแรง ซึ่งต่างจากคดีอาจารย์นิด้า ที่ฆ่าเมียโดยกระหน่ำไม้กอล์ฟ โดยอ้างเหตุบันดาลโทสะ คดีนั้นอาจารย์ลงมือทำร้ายในทันที ศาลตัดสินว่ากระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แต่รอการลงโทษ แต่ด้วยถ้อยคำของนางสุรางค์ ดวงจินดา ที่ว่าอดทนดูลูกสาวถูกทำร้ายมาถึง 6 ปี จนกระทั่งทนไม่ไหว ไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากการฆ่า นี่จึงเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

การฆ่าเกิดขึ้นแล้ว ความผิดสำเร็จแล้ว หมอนิ่มเป็นอิสรภาพจากการถูกทำร้ายจากเอ็กซ์ ตลอดไปทั้งชีวิต แต่อิสรภาพที่แลกมาด้วยการทำให้คนๆหนึ่งสูญหายไปจากโลกนั้น อาจทำให้หมอนิ่มต้องสูญเสียอิสรภาพไปตลอดชีวิตเช่นกัน

ในชีวิตคนๆหนึ่ง เราไม่อาจบอกได้ว่า ผิดหรือถูก เพราะถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น เราอาจคิดไม่ต่างกัน แต่ชีวิตๆหนึ่ง ไม่มีใครมีสิทธิที่จะตัดสินว่าอีกชีวิตหนึ่งไม่ควรอยู่อีกต่อไป เมื่อความรักแปรรูปเป็นความเกลียด สุดท้ายก็อยู่ที่เราจะจัดการความรู้สึกนั้นอย่างไร

เดินออกมา หรือทำลายมันให้สิ้น!


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 950 วันที่ 15 - 21 พฤศจิกายน 2556)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์