ส.ส.ลำปางนำเสื้อแดงฉีกแถลงการณ์
กปปส. ยันรัฐบาลไม่ยุบสภา
เพราะยุบก็แก้ปัญหาไม่ได้ วอนประชาชนเข้าใจ เนื่องจากรัฐบาลพยายามหาทางออกด้วยความอดทน เชื่อทางออกที่ดีที่สุดคือการเจรจา
เมื่อเวลา
19.30 น. วันที่ 3 ธ.ค.56 กลุ่มคนเสื้อแดง จ.ลำปาง ได้จัด เวทีปราศรัยในหัวข้ออำนาจนอกระบบ
ที่สวนสาธารณะเขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง โดยมี น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ ส.ส.เขต 3
และนายสมโภช สายเทพ ส.ส.เขต 1 สังกัดพรรคเพื่อไทย
พร้อมนักการเมืองท้องถิ่น และกลุ่มคนเสื้อแดงลำปาง ประมาณ 200 คน รวมตัวกันแสดงจุดยืนไม่ยอมรับแถลงการณ์ของนายสุเทพ
เทือกสุบรรณ
เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หรือ (กปปส.)เนื่องจากขัดกับหลักประชาธิปไตยและไร้ความชอบธรรม โดย ส.ส.ทั้ง 3 คนได้พลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกระทำของผู้ชุมนุมในนาม
กปปส. จากนั้นจึงได้ร่วมกัน ฉีกหนังสือแถลงการณ์ ของนายสุเทพ
เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
และต่อต้านอำนาจนอกระบบ จากนั้นได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ก่อนจะแยกย้ายกันกลับอย่างสงบ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.เมืองลำปางคอยดูแลความสงบเรียบร้อย
น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังจากปราศรัยว่า ในวันนี้ เป็นการทำความเข้าใจในทางการเมืองกับพี่น้องประชาชนจังหวัดลำปาง
ให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่ารัฐบาลนายกรัฐมนตรี คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ทำงานอย่างเต็มที่ และมีความอดทนอย่างมากต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน
โดยใช้หลักการทำความเข้าใจและการเจรจา ไม่มีความรุนแรงใดๆ ไม่มีการปะทะ บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต กับพี่น้องประชาชนที่ชุมนุม
เมื่อวันก่อน นายโคธม อารียา
ผอ.ศูนย์ศึกษาสันติวิธีและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รวบรวมนักวิชาการที่อยู่ในสายกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใด
ได้ออกมาแสดงความเห็นในการประสานให้กับทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางฝ่ายนายกรัฐมนตรี
เคยประกาศแล้วว่า ยินดีดำเนินการร่วมหาทางออกทุกประตู ตนจึงคิดว่า
ต้องสอบถามไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่าพร้อมที่จะร่วมเจรจากับรัฐบาลหรือไม่ เพื่อประเทศบ้านเมืองของเราจะได้กลับมาสงบสุขและดำเนินการพัฒนาในทุกๆ
ด้านต่อไปได้
“ปัญหาทางการเมืองในขณะนี้ต้องใช้ความอดทน
รัฐบาลต้องรักษาสภาพการชุมนุมไม่ให้มีความรุนแรง รักษาสถานภาพในการบริหาร
ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมเองก็พยายามกดดันรัฐบาลด้วยการเข้าไปยึดสถานที่ราชการ
หรือยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น)
ทั้งหมดนี้รัฐบาลต้องอาศัยความอดทน และให้พี่น้องคนไทย
ช่วยกันตัดสินว่าสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมทำลงไป ถูกต้องหรือไม่
หากประชาชนหรือสังคมเห็นว่าไม่ถูกต้อง กระแสกดดันก็จะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม
ล่าถอยกลับไปเอง” น.ส.ตวงรัตน์ กล่าว
ด้านนายจรัสฤทธิ์
จันทรสุรินทร์ ส.ส.ลำปาง เปิดเผยต่อว่า ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมกัน ได้ข้อสรุปว่าขณะนี้ควรจะต้องใช้หลักการเจรจา
เพราะวัตถุประสงค์และเป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะแกนนำ ที่ประกาศว่าจะตั้งสภาประชาชน
แต่สภาประชาชนที่กล่าวมานั้น ไม่มีตัวบทกฎหมายใดมารองรับ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ชัดเจนและดำเนินการต่อไม่ได้ในระบอบประชาธิปไตย
นายกรัฐมนตรีก็ได้แถลงการณ์ไปแล้วว่า สภาประชาชนนั้นไม่มีกฎหมายใดๆ รองรับ
จึงต้องใช้วิธีเจรจา โดยมีคนกลางมาช่วยในการร่วมเจรจา และสำหรับการยุบสภา ตนคิดว่าไม่ใช่ทางออก
เพราะหากเลือกตั้งใหม่พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง ก็ต้องมีฝ่ายคัดค้านมาชุมนุม
มาประท้วง ซึ่งก็ไม่จบและไม่ใช่ทางออกที่ดี ตนคิดว่า
การเจรจาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้
เมื่อสอบถามถึงการแบ่งแยกกันเป็นหลายกลุ่มในพื้นที่
จ.ลำปาง น.ส.ตวงรัตน์ กล่าวว่า พี่น้องในจังหวัดลำปาง
ทราบว่ามีหลายกลุ่ม หลากหลายความคิดเห็น ต้องบอกว่าพลังบริสุทธิ์ของคนเสื้อแดงเป็นพลังที่เข้มแข็ง
ถึงจะมีหลายกลุ่ม แต่อุดมการณ์เป็นเรื่องเดียวกัน คือปกป้องประชาธิปไตยและรักความยุติธรรม
ถึงแม้จะมีความไม่เข้าใจกันบ้างในการทำงาน แต่ก็ขอให้เข้าใจเป้าหมายสูงสุดว่าการต่อสู้ของพวกเราคืออะไร
นี่คือสิ่งที่จะยึดและเชื่อมโยงพวกเราไว้ด้วยกัน หากมีเรื่องสำคัญๆ
เช่นการออกมาแสดงความคิดเห็นชุมนุม ต่างๆ คิดว่าทุกกลุ่มจะพร้อมเดินไปด้วยกันสู้ไปด้วยกัน
ในฐานะ คนเสื้อแดงลำปางเดียวกัน
นายจรัสฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า
ในส่วนจังหวัดลำปางมีพี่น้องประชาชนที่มีความเห็นที่แตกต่างทางความคิดหลายกลุ่ม
ความเห็นต่างในระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี แต่สุดท้ายคือ
ทุกอย่างต้องอยู่ในกฎกติกา กฎหมายบ้านเมือง แต่เนื่องจากพี่น้องคนลำปาง เป็นคนมีจิตใจดี
เป็นคนน่ารัก คิดว่าเรื่องความรุนแรงนั้นคงไม่มี
แต่ความเห็นต่างของประชาชน หากมีการชุมนุมแบบสันติในกรอบรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องของสิทธิในระบอบประชาธิปไตย
ด้านนายสมโภช
สายเทพ ส.ส.เขต 1 ได้ตอบข้อซักถามในกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เคยเห็นหน้า
ส.ส.ในพื้นที่ว่า ขอเรียนไปยังพี่น้องชาวลำปางว่า
ในการทำงานของตนนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่กรุงเทพฯ เพราะต้องเข้าร่วมการประชุมต่างๆ
ทั้งการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประชุมพรรค ประชุมร่วมกับวุฒิสภา จะมีเวลากลับบ้านในช่วงเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น แต่ในระยะหลังมีกฎหมายและเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณา
ซึ่งการประชุมยืดเยื้อใช้เวลานานก็ต้องอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่หากว่างจากการประชุมสภาฯ
ก็จะกลับยังพื้นที่จังหวัดลำปางทันที ซึ่งก็ได้นำเรียนไปยังพี่น้องประชาชนที่ได้พบเสมอว่า
ส.ส. 1 คน ต่อประชากร 1.7 แสนคน บางทีเวลามีงานตามชุมชน ก็จะมีงานพร้อมๆ กัน ตนเองต้องเดินทางไปร่วมงานหลายที่
แต่จะไปทุกทีก็ไม่สะดวกเพราะเวลาจำกัด จึงต้องเฉลี่ยเวลาไปในแต่ละงาน
ทำให้พี่น้องประชาชนอาจจะไม่ได้พบเห็นตน
แต่พยายามออกพบปะพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่
ส.ส.
ลำปาง พยายามผลักดัน ส่งเสริมและหาช่องทางแก้ไขคือ เรื่องราคาแก๊ส การค้าการส่งออก
ในอุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง เรื่องพี่น้องชาวเกษตรกร เรื่องข้าราชการบำนาญ
ทุกอย่างที่จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนคนลำปาง ส.ส.
ทุกคนพยายามอย่างยิ่งที่จะผลักดัน และทำงานเต็มที่ นายสมโภชน์ กล่าว.
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 955 6 - 12 ธันวาคม 2556)