วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ส.ส.นำแดงลำปาง ฉีกแถลง กปปส.


ส.ส.ลำปางนำเสื้อแดงฉีกแถลงการณ์ กปปส. ยันรัฐบาลไม่ยุบสภา  เพราะยุบก็แก้ปัญหาไม่ได้ วอนประชาชนเข้าใจ เนื่องจากรัฐบาลพยายามหาทางออกด้วยความอดทน  เชื่อทางออกที่ดีที่สุดคือการเจรจา

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 3 ธ.ค.56 กลุ่มคนเสื้อแดง จ.ลำปาง ได้จัด เวทีปราศรัยในหัวข้ออำนาจนอกระบบ ที่สวนสาธารณะเขลางค์นคร  อ.เมือง จ.ลำปาง  โดยมี น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์  ส.ส.เขต 3 และนายสมโภช สายเทพ ส.ส.เขต 1 สังกัดพรรคเพื่อไทย  พร้อมนักการเมืองท้องถิ่น และกลุ่มคนเสื้อแดงลำปาง ประมาณ 200 คน  รวมตัวกันแสดงจุดยืนไม่ยอมรับแถลงการณ์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ (กปปส.)เนื่องจากขัดกับหลักประชาธิปไตยและไร้ความชอบธรรม  โดย ส.ส.ทั้ง 3 คนได้พลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกระทำของผู้ชุมนุมในนาม กปปส.  จากนั้นจึงได้ร่วมกัน  ฉีกหนังสือแถลงการณ์ ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ  เลขาธิการ กปปส.  เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และต่อต้านอำนาจนอกระบบ จากนั้นได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนจะแยกย้ายกันกลับอย่างสงบ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปางคอยดูแลความสงบเรียบร้อย

น.ส.ตวงรัตน์  โล่ห์สุนทร  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังจากปราศรัยว่า  ในวันนี้ เป็นการทำความเข้าใจในทางการเมืองกับพี่น้องประชาชนจังหวัดลำปาง ให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่ารัฐบาลนายกรัฐมนตรี คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำงานอย่างเต็มที่  และมีความอดทนอย่างมากต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยใช้หลักการทำความเข้าใจและการเจรจา ไม่มีความรุนแรงใดๆ  ไม่มีการปะทะ บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต กับพี่น้องประชาชนที่ชุมนุม  เมื่อวันก่อน นายโคธม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาสันติวิธีและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รวบรวมนักวิชาการที่อยู่ในสายกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใด ได้ออกมาแสดงความเห็นในการประสานให้กับทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางฝ่ายนายกรัฐมนตรี เคยประกาศแล้วว่า ยินดีดำเนินการร่วมหาทางออกทุกประตู ตนจึงคิดว่า ต้องสอบถามไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่าพร้อมที่จะร่วมเจรจากับรัฐบาลหรือไม่ เพื่อประเทศบ้านเมืองของเราจะได้กลับมาสงบสุขและดำเนินการพัฒนาในทุกๆ ด้านต่อไปได้ 

“ปัญหาทางการเมืองในขณะนี้ต้องใช้ความอดทน รัฐบาลต้องรักษาสภาพการชุมนุมไม่ให้มีความรุนแรง รักษาสถานภาพในการบริหาร ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมเองก็พยายามกดดันรัฐบาลด้วยการเข้าไปยึดสถานที่ราชการ หรือยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) ทั้งหมดนี้รัฐบาลต้องอาศัยความอดทน และให้พี่น้องคนไทย ช่วยกันตัดสินว่าสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมทำลงไป ถูกต้องหรือไม่ หากประชาชนหรือสังคมเห็นว่าไม่ถูกต้อง กระแสกดดันก็จะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม ล่าถอยกลับไปเอง”  น.ส.ตวงรัตน์ กล่าว

ด้านนายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์  ส.ส.ลำปาง  เปิดเผยต่อว่า  ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมกัน ได้ข้อสรุปว่าขณะนี้ควรจะต้องใช้หลักการเจรจา เพราะวัตถุประสงค์และเป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะแกนนำ ที่ประกาศว่าจะตั้งสภาประชาชน แต่สภาประชาชนที่กล่าวมานั้น ไม่มีตัวบทกฎหมายใดมารองรับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ชัดเจนและดำเนินการต่อไม่ได้ในระบอบประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีก็ได้แถลงการณ์ไปแล้วว่า สภาประชาชนนั้นไม่มีกฎหมายใดๆ รองรับ จึงต้องใช้วิธีเจรจา โดยมีคนกลางมาช่วยในการร่วมเจรจา  และสำหรับการยุบสภา ตนคิดว่าไม่ใช่ทางออก เพราะหากเลือกตั้งใหม่พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง ก็ต้องมีฝ่ายคัดค้านมาชุมนุม มาประท้วง ซึ่งก็ไม่จบและไม่ใช่ทางออกที่ดี ตนคิดว่า การเจรจาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้

เมื่อสอบถามถึงการแบ่งแยกกันเป็นหลายกลุ่มในพื้นที่ จ.ลำปาง  น.ส.ตวงรัตน์ กล่าวว่า พี่น้องในจังหวัดลำปาง ทราบว่ามีหลายกลุ่ม หลากหลายความคิดเห็น  ต้องบอกว่าพลังบริสุทธิ์ของคนเสื้อแดงเป็นพลังที่เข้มแข็ง ถึงจะมีหลายกลุ่ม แต่อุดมการณ์เป็นเรื่องเดียวกัน คือปกป้องประชาธิปไตยและรักความยุติธรรม ถึงแม้จะมีความไม่เข้าใจกันบ้างในการทำงาน แต่ก็ขอให้เข้าใจเป้าหมายสูงสุดว่าการต่อสู้ของพวกเราคืออะไร นี่คือสิ่งที่จะยึดและเชื่อมโยงพวกเราไว้ด้วยกัน หากมีเรื่องสำคัญๆ เช่นการออกมาแสดงความคิดเห็นชุมนุม ต่างๆ คิดว่าทุกกลุ่มจะพร้อมเดินไปด้วยกันสู้ไปด้วยกัน ในฐานะ คนเสื้อแดงลำปางเดียวกัน

นายจรัสฤทธิ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในส่วนจังหวัดลำปางมีพี่น้องประชาชนที่มีความเห็นที่แตกต่างทางความคิดหลายกลุ่ม ความเห็นต่างในระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี แต่สุดท้ายคือ ทุกอย่างต้องอยู่ในกฎกติกา กฎหมายบ้านเมือง  แต่เนื่องจากพี่น้องคนลำปาง เป็นคนมีจิตใจดี เป็นคนน่ารัก คิดว่าเรื่องความรุนแรงนั้นคงไม่มี  แต่ความเห็นต่างของประชาชน หากมีการชุมนุมแบบสันติในกรอบรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องของสิทธิในระบอบประชาธิปไตย

ด้านนายสมโภช สายเทพ ส.ส.เขต 1  ได้ตอบข้อซักถามในกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เคยเห็นหน้า ส.ส.ในพื้นที่ว่า  ขอเรียนไปยังพี่น้องชาวลำปางว่า ในการทำงานของตนนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่กรุงเทพฯ เพราะต้องเข้าร่วมการประชุมต่างๆ ทั้งการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประชุมพรรค ประชุมร่วมกับวุฒิสภา  จะมีเวลากลับบ้านในช่วงเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น  แต่ในระยะหลังมีกฎหมายและเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณา ซึ่งการประชุมยืดเยื้อใช้เวลานานก็ต้องอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่หากว่างจากการประชุมสภาฯ ก็จะกลับยังพื้นที่จังหวัดลำปางทันที  ซึ่งก็ได้นำเรียนไปยังพี่น้องประชาชนที่ได้พบเสมอว่า ส.ส. 1 คน ต่อประชากร 1.7 แสนคน บางทีเวลามีงานตามชุมชน ก็จะมีงานพร้อมๆ กัน ตนเองต้องเดินทางไปร่วมงานหลายที่ แต่จะไปทุกทีก็ไม่สะดวกเพราะเวลาจำกัด จึงต้องเฉลี่ยเวลาไปในแต่ละงาน ทำให้พี่น้องประชาชนอาจจะไม่ได้พบเห็นตน  แต่พยายามออกพบปะพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่                 


ส.ส. ลำปาง พยายามผลักดัน ส่งเสริมและหาช่องทางแก้ไขคือ เรื่องราคาแก๊ส การค้าการส่งออก ในอุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง เรื่องพี่น้องชาวเกษตรกร เรื่องข้าราชการบำนาญ ทุกอย่างที่จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนคนลำปาง ส.ส. ทุกคนพยายามอย่างยิ่งที่จะผลักดัน และทำงานเต็มที่ นายสมโภชน์ กล่าว.

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 955  6 - 12 ธันวาคม 2556) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์