รวบผู้คุมหัวกะทิ สั่งยาบ้าข้างกำแพงคุก

จับผู้คุมเรือนจำลำปาง ของกลางคามือยาบ้า 7 เม็ด สารภาพเอาไว้เสพเอง

สายตำรวจจมูกไว รู้ว่าจะมีเอเย่นต์ค้ายาบ้า เอายามาโยนไว้ข้างกำแพงเรือนจำลำปาง ส่งซิกให้ รอง.ผกก.สส.นำกำลังไปซุ่มดูเห็นผู้คุมเดินออกมาหยิบห่อยาบ้าข้างกำแพง เข้าล็อคตัวเจอของกลางคามือ สารภาพจะเอาไปเสพเอง

เมื่อเวลา 21.00น.วันที่ 29 พ.ย.2556 พ.ต.ท.วิภาค แสงศศิธร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองลำปาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งไปดักซุ่มอยู่ที่บริเวณข้างกำแพงเรือนจำกลางลำปาง ถนนพหลโยธิน ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง หลังได้รับรายงานจากสายว่า จะมีคนนำเอายาบ้ามาโยนทิ้งไว้เพื่อรอให้คนมาหยิบไป ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ฯก็พบเห็นชายคนหนึ่ง ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาด้วยความสูงแล้วเลี้ยวเข้าใปในซอยข้างร้านเบตงมินิมาร์ท ซึ่งอยู่ติดกำแพงเรือนจำทิศใต้ จากนั้นก็โยนสิ่งของบางอย่างทิ้งเอาไว้ข้างกำแพง แล้วรีบขับขี่รถหายไปทางซอยด้านหลังร้าน ซึ่งสามารถทะลุออกไปทางชุมชนบ้านศรีเกิดทันที เจ้าหน้าที่ฯจึงได้ซุ่มดักรอต่อไปเพื่อต้องการที่จะทราบว่าจะมีใครออกมาหยิบห่อสิ่งของต้องสงสัยดังกล่าวอีกหรือไม่ และไม่นานนักก็พบเห็นชายคนหนึ่งเดินออกมาจากทางบ้านพักของเรือนจำกลาง ตรงเข้าหยิบห่อของแล้วหันหลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้านพักตามเดิม เจ้าหน้าที่จึงออกจากที่ซ่อนตรงเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ ทราบต่อมาชายคนดังกล่าวชื่อนายวชิระ บริภัคกุล อายุ 35 ปี มีตำแหน่งเป็นนักทัณฑวิทยา ปฏิบัติงานการควบคุมผู้ต้องโทษชาย บ้านเดิมอยู่เลขที่ 31/62 ถ.สุเรนท์ ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง โดยที่ในมือของนายวชิระยังกำสิ่งของต้องสงสัยอยู่ด้วย มือนำมาเปิดดูพบเป็นยาบ้าจำนวน 7 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้คุมตัวมาทำการสอบสวน

โดยผู้คุมแตกแถวยอมรับสารภาพว่า ได้มีการโทรศัพท์สั่งยาบ้าจากเอเย่นต์รายหนึ่งให้นำมาโยงทิ้งไว้ให้ข้างกำแพงเรือนจำกลางลำปาง เพื่อที่ต้องจะเอามาไว้เสพเอง และไม่ได้มีการเกี่ยวข้องกับนักโทษคนไหนในเรือนจำทั้งสิ้น หลังทำการสอบสวนในเบื้องต้นแล้ว รอง.ผกก.สส.จึงส่งตัวต่อให้ ร.ต.ท.ณรงค์ อินตา พนังงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แต่จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่หน้าที่ตำรวจในเชิงลึกทราบว่า นายวชิระ มีส่วนรู้เห็นและคอยเป็นมือ เป็นเท้าให้กับผู้ต้องขังรายหนึ่งในเรือนจำกลางลำปาง โดยจะมีหน้าที่คอยไปรับยาบ้าจากคนที่นำมาทิ้งไว้ให้ข้างเรือนจำแล้วเอาไปส่งให้ผู้ต้องขังรายดังกล่าวในเรือนจำอีกทอดหนึ่ง ซึ่งนายวชิระ เคยกระทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสายลับเข้าคอยประกบ เพื่อหาข่าวจนกระทั่งได้รับรายงานวันที่ผู้คุมแตกแถวจะออกไปรับยาบ้าอีก จึงได้นำกำลังมาดักซุ่มเพื่อดูพฤติกรรม และสามารถจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังทราบว่านายวชิระ เรียนจบถึงระดับปริญญาโท และสามารถสอบเข้าบรรจุเป็นนักทัณฑวิทยา ได้เป็นอันดับหนึ่งของรุ่นเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมานี้เอง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 955  6 - 12 ธันวาคม 2556)