วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

ตกใจเจอด่านตรวจ ทิ้งยาบ้า 4 แสนเม็ดซิ่งรถหนี


ตำรวจเกาะคาพบกระเป๋าเดินทางปริศนาทิ้งข้างทาง เปิดดูตะลึงพบยาบ้า 4 แสนกว่าเม็ด เฮโรอีนอีก 800 กรัม มีทั้งของเครือข่ายยี่เซ ไทยใหญ่ และว้า  เตรียมออกหมายจับผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.57 เวลาประมาณ 23.30 น. ขณะที่ ร.ต.ท.ปรีชา คำศรีใจ รอง สว.ปป.สภ.เกาะคา หัวหน้าจุดตรวจ พร้อมด้วย ร.ต.ต.นพดล ปันทา รอง สวป. และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ร่วมกันตั้งจุดตรวจ จุดสกัด บริเวณจุดตรวจหลังเทิร์น ถ.ลำปาง-กรุงเทพฯ ขาล่อง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมาย ได้มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ตธ 8468 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาจึงได้เรียกตรวจรถยนต์คันดังกล่าว  โดยมีนายสิทธิชัย สร้างสิริมงคล อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 9 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เป็นคนขับได้แสดงท่าทางพิรุธ  เมื่อค้นตามร่างกายพบเพียงโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง  จึงได้เชิญตัวมาตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย แต่ไม่พบทั้งสิ่งของผิดกฎหมายและสารเสพติดแต่อย่างใด   โดยเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าช่วงที่นายสิทธิชัยได้ขอเข้าห้องน้ำได้คุยโทรศัพท์อยู่พักหนึ่งและรีบวางสายไป  แต่ก็ต้องปล่อยตัวนายสิทธิชัยไปเนื่องจากไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย   ทั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบนายสิทธิชัยอยู่นั้น ได้มีรถยนต์เก๋งสันนิษฐานว่าเป็นรถยี่ห้อโตโยต้าวีออสคันหนึ่งขับตามมาห่างๆ และจอดข้างทางไม่ยอมขับผ่านด่าน เมื่อเจ้าหน้าที่จะเดินเข้าไปหาก็ได้รีบออกรถและกลับรถไปตามเส้นทางขาเข้าเมืองลำปางทันที  จากนั้น ร.ต.ต.นพดล ปันทา จึงได้เดินไปตรวจสอบจุดที่รถเก๋งจอดก่อนหน้านี้ ก็พบว่าบริเวณร่องน้ำข้างทางมีกระเป๋าเดินทางล้อลากขนาดใหญ่ตกอยู่ เมื่อตรวจสอบภายในพบห่อยาบ้าจำนวนมาก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาเช้าวันที่ 14 มี.ค.พ.ต.อ.พิศุปกรณ์ น้อยปักษา ผกก.สภ.เกาะคา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบจุดที่พบกระเป๋าอย่างละเอียดอีกครั้ง จนกระทั่งพบกระเป๋าเดินทางอีก 1 ใบถูกลากเข้าไปทิ้งไว้ในป่าข้างทาง ห่างจากจุดแรกไมมากนัก ภายในมีกระเป๋าเดินทางใบเล็กอยู่อีก 1 ใบ บรรจุยาบ้าอยู่เต็มกระเป๋า เมื่อทำการตรวจนับทั้งหมดพบว่ามียาบ้าทั้งหมด 442,000 เม็ด และเฮโรอีนอัดแท่งจำนวน 2 แท่งน้ำหนัก 800 กรัม 

จากนั้นเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5  พร้อมด้วยนายฤทธิพงษ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  พ.ต.อ.พิศุปกรณ์ น้อยปักษา ผกก.สภ.เกาะคา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 442,000 เม็ด และเฮโรอีนอัดแท่งน้ำหนัก 800 กรัม ที่ด้านหน้า สภ.เกาะคา ซึ่งยาเสพติดที่จับกุมได้ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท

พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว กล่าวว่า ยาบ้าที่พบในครั้งนี้มาจากแหล่งที่มาถึง 3 แหล่งด้วยกันซึ่งยาบ้าที่มีสัญลักษณ์เป็นตรามือจะเป็นเครือข่ายพันโทยี่เซ  ตรา 999 OK เป็นของกลุ่มไทยใหญ่ และตราสิงโตเหยียบลูกโลกจะเป็นของกลุ่มว้า ซึ่งเป็นยาเสพติดที่แพร่ระบาดอยู่แถบจังหวัดตะเข็บชายแดน ถึงแม้จะจับกุมได้จำนวนมากและต่อเนื่อง แต่ทางกลุ่มผลิตก็ยังไม่เกรงกลัวและคาดว่าผลิตเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองเท่า จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตภาคเหนือว่าจะต้องเข้มงวดในการตรวจสอบการลำเลียงยาเสพติดไม่ให้ผ่านออกไปได้  สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้พอจะสืบทราบแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ออกหมายจับและนำตัวมาขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด

ต่อมาวันที่ 15 มี.ค.2557  เวลาประมาณ 02.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้จับกุมตัว นายบุญมี นะรินทร์  อยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ 11 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และนายแดง มองเมิง ที่อยู่ 2/ช  หมู่ 11 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า ประมาณ 102,000 เม็ด ถนนไฮเวย์ลำปาง - เชียงใหม่ ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง นำตัวมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และรับตัวไปดำเนินคดีที่ บช.ปส. ความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย


และวันที่ 16 มี.ค.57 ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 จับขบวนการค้ายาบ้าจากชาวเขาเผ่าเย้า ยึดยาบ้า 1 แสนเม็ด ขณะเตรียมส่งเอเย่นต์ในพระนครศรีอยุธยา โดยสามารถจับกุม นายอำพล ธิการ     และนางณฤมลณ์ สุตินคำ ได้บริเวณปั๊มบางจาก สาขาพิชัย ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง  พร้อมยาบ้า 1 แสนเม็ด หลังสืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติด เตรียมลักลอบขนส่งยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายภายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะพระนครศรีอยุธยา ที่ยาบ้ากำลังขาดแคลน โดยชุดสืบสวนติดต่อล่อซื้อและนัดรับส่งของในพื้นที่จังหวัดลำปาง ก่อนผู้ต้องหาทั้งสองคนจะขับรถยนต์ยี่ห้ออิซูซุ ทะเบียน บพ 4777ลำปาง จึงแสดงตัวเข้าจับกุม  สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพรับจ้างขนส่งยาบ้าได้ค่าจ้างครั้งละ 2 แสนบาท สำหรับยาบ้าล๊อตดังกล่าว เป็นของชาวเขาเผ่าเย้า ในพื้นที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 970 ประจำวันที่ 21 - 27 มีนาคม 2557)  
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์