ผอ.สำนักชลประทานที่
2 ฟันธงปีนี้ฤดูแล้งเอาอยู่ ปลูกพืชได้เต็มที่ 7
หมื่นไร่ พร้อมมีน้ำอีก 50 ล้านลูกบาศก์เมตรช่วยเหลือแม่น้ำวังตอนล่างจนถึง จ.ตาก ปลื้มบริหารจัดการน้ำได้ดี
นายไชยชงค์
จงอาสาชาติ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 2 ลำปาง เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของ 2
เขื่อนใหญ่ในช่วงฤดูแล้งของปี 2557 ว่า ในเขตชลประทานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กิ่วลม
แม่วัง กิ่วคอหมา รับรองว่ามีน้ำเพียงพอในช่วงฤดูแล้งนี้ สามารถใช้อุปโภคบริโภค ใช้ในการเกษตร
และการรักษาระบบนิเวศน์ รวมทั้งด้านประปาได้ตลอด ซึ่งตอนนี้เรามีน้ำที่เหลือใช้สามารถนำมาหนุนเสริมได้ระหว่างเดือนมี.ค.-เม.ย.อีก
50 ล้าน ลบ.ม. เพื่อส่งไปช่วยเหลือแม่น้ำวังทางตอนล่าง
ตั้งแต่ อ.เมือง เกาะคา สบปราบ แม่พริก
และเถิน ไปจนถึง จ.ตาก ซึ่งจะมีฝายเป็นสถานีสูบน้ำเป็นระยะ 80 กว่าแห่ง เมื่อมีการร้องขอก็จะปล่อยน้ำลงมา สองฝั่งแม่น้ำวังด้านใต้ของเขื่อนกิ่วลมจะไม่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างแน่นอน
แต่สิ่งสำคัญคือต้องขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรว่าจะต้องกำหนดพื้นที่ที่ทำการเกษตรให้แน่นอน เพราะการเกษตรต้องใช้น้ำเยอะ
หากปลูกพืชเกินกว่าพื้นที่กำหนดอาจจะประสบปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม ใน 2
เดือนนี้ประกันได้ว่าน้ำเพียงพอ
พร้อมกันนี้ได้ประสานไปทางจังหวัดแล้วหากมีพื้นที่นอกเขตชลประทานที่ขาดแคลนน้ำหรือประสบปัญหาภัยแล้งทั้งสองริมฝั่งแม่น้ำวัง
ชลประทานจะปล่อยน้ำลงมาช่วยได้
“ลำปางโชคดีที่มีเขื่อนกิ่วคอหมาทำให้น้ำมีเหลือเฟือ
ที่ผ่านมาชลประทานได้บริหารจัดการน้ำ โดยการติดตามเรื่องฝนและฤดูกาลมาตั้งแต่ช่วงเดือน
ส.ค.-ต.ค.ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ประมาณการณ์ไว้แล้วว่าต้องแล้งยาว
จึงสั่งให้เขื่อนกิ่วคอหมาเก็บกักน้ำเต็มที่ ปรากฏว่าคาดการณ์ใกล้เคียงจึงมีน้ำจึงเพียงพอ
ซึ่งพื้นที่เขตชลประทานที่กิ่วลมและกิ่วคอหมาดูแลอยู่ สามารถปลูกพืชได้เต็ม 70,000
ไร่” นายชัยยงค์ กล่าว
ด้านนายฤทัย
พัชรานุรักษ์
ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 83.037 ล้าน
ลบ.ม. จากความจุ 106.22 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 78.21 เปอร์เซ็นต์ ของการกักเก็บน้ำในอ่าง
ส่วนเขื่อนกิ่วคอหมา ที่อยู่ถัดไป ขณะนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 137.487 ล้าน
ลบ.ม. จากความจุ 170.228 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 80.74 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งถือว่าระดับน้ำในเขื่อนมีเพียงพอใช้ในฤดูแล้งในปีนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีสำรองที่จะเหลือไว้สนับสนุน ลุ่มน้ำวังด้านท้ายอีก 50 ล้าน ลบ.ม.
เพื่อช่วยเหลืออุปโภคบริโภคและรักษาแม่น้ำวังอีกด้วย
นอกจากนี้ทางโครงการฯยังคงให้การสนับสนุนโครงการฝายแม่วังอีกด้วย
นอกจากนี้เขื่อนขนาดกลางและเขื่อนขนาดเล็กก็ยังพอมีน้ำสนับสนุน ซึ่งคาดว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำคงจะไม่รุนแรง
แต่ต้องอยู่ในส่วนของโครงการเท่านั้น
นอกจากนี้ฝากเตือนไปยังพี่น้องเกษตรกรทุกคนห้ามเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกอย่างเด็ดขาด
เพราะจะทำให้ปัญหาอื่นๆตามมาทันที
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 970 ประจำวันที่ 21 - 27 มีนาคม 2557)