มอดไม้ลอบตัดต้นประดู่
อายุมากกว่า 100 ปี ใหญ่ถึง 3 คนโอบ ทั้งที่ทำพิธีบวชป่าแล้ว
อยู่ห่างถนนสายหลักไม่ถึง 100 เมตร
ยังโค่นตัดเป็นท่อนๆซักลากออกไปได้บางส่วน และยังพบว่าไม้มะค่าขนาด 5 คนโอบกำลังจะถูกโค่นเหมือนกันแต่ทหารพรานลานตระเวนมาพบก่อนที่มอดไม้จะหลบหนีไป
นอกจากนั้นยังได้เข้าตรวจสอบบ้านนาสัก อ.แม่เมาะ ยึดไม้กระยาเลยแปรรูปกว่า 70 แผ่น
เมื่อวันที่
3 เม.ย. 57 ที่บริเวณภายในป่าอนุรักษ์
ของสวนป่าแม่ทรายคำ แปลงปลูกป่าปี 2519 ถ.สายลำปาง-แจ้ห่ม
ระหว่างกิโลเมตรที่ 32-33 บ้านวังเงิน หมู่ 14 ต.นิคมพัฒนา อ.เมือง จ.ลำปาง ลึกเข้าไปในป่าห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน
นำโดย จ.ส.อ.อินจันทร์ หม่องน้อย รอง หน.
ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วกรมทหารพรานที่ 31 กองทัพภาคที่ 3 พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ สวนป่าแม่ทรายคำ ตำรวจ ศปทส.ภาค 5 เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบ สภาพไม้ประดู่
เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.30 เมตร อายุมากว่า 100 ปี ขนาดใหญ่ถึงสามคนโอบ ที่ถูกตัดโค่นล้มลงและตัดเป็นท่อนเรียงรายกันอยู่เพื่อรอการชักลากออกจากป่า
เบื้องต้นพบร่องรอยกลุ่มมอดไม้ได้ชักลากไม้ออกป่าไปได้แล้วถึงสองท่อนที่มีขนาดใหญ่
คาดว่าน่าจะใช้ช่วงเวลาที่กำลังเจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนเวร ส่วนไม้ท่อนที่เหลือ
อยู่ระหว่างกำลังจะชักลากแต่เจ้าหน้าที่มาตรวจพบก่อน
กลุ่มมอดไม้จึงพากันหลบหนีเข้าป่าหายไป
เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบ
สวน สภ.ทุ่งฝายดำเนินการตามกฎหมาย
เบื้องต้น นายเกรียงศักดิ์ พยุงแสนกุล หน.สวนป่าแม่ทรายคำ
เปิดเผยว่า ต้นประดู่ที่ถูกตัดโค่นในครั้งนี้เป็นต้นไม้ที่ทางสวนป่าและกลุ่มชาวบ้านที่มีใจอนุรักษ์ป่าได้ทำพิธีบวชไปแล้ว
และจัดให้เป็นต้นไม้อนุรักษ์ โดยมีต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่อีกหลายต้น
แต่กลุ่มมอดไม้กลุ่มนี้ยังเหิมเกริมเข้ามาลักลอบตัด คาดว่าอาศัยช่วงจังหวะเจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนกำลังเข้ามาตัดทิ้งไว้แล้วทยอยชักลากออกจากป่า
ซึ่งจะได้มีการสืบหาข่าวในพื้นที่ว่าไม่ดังกล่าวไปอยู่จุดไหน เพราะคาดว่าจะไปได้ไม่ไกลเนื่องจากไม้มีขนาดใหญ่มาก
ส่วนต้นไม้ที่เหลืออีกหลายต้นที่มีอายุมากว่า 200-300 ปีไม่ว่าจะเป็น
มะค่าโมง ประดู่และอื่นๆ จะได้มีการวางมาตรการที่เข้มงวดกวดขันต่อไป แต่ติดที่กำลังในพื้นที่มีเพียง
6 นาย ที่ต้องดูแลผืนป่ามากถึง 2 หมื่นกว่าไร่
จึงต้องขอกำลังทหารพรานเข้ามาช่วยเหลือในการตรวจตราและขอความร่วมมือชาวบ้านในพื้นที่แจ้งเบาะแสด้วย
เพื่อที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีจนถึงที่สุด
และก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่
2 เม.ย.57 เวลา13.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารพราน
ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วกรมทหารพรานที่ 31 กองทัพภาคที่ 3 นำโดย ร.ต.สมนึก วงศ์สาไฮ
หน.ชุดฯ
ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการลับลอบตัดไม้ทำลายป่าในป่าละเมาะข้างลำห้วยเหียน
ในเขตพื้นที่ บ้านนาสัก หมู่ที่ 4 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จึงสั่งการให้
จ.ส.อ.อินจันทร์ หม่องน้อย รอง หน.ชุดฯนำกำลังเข้าตรวจสอบพร้อมกันนั้นได้ประสาน
ไปยัง นายวุฒิพงศ์ แก้วปาเพย ปลัดอาวุโส อำเภอแม่เมาะ พ.ต.ท.จิตภณ สมหมาย หัวหน้าชุดตำรวจศูนย์ป้องกัน
ปราบปรามการตัดไม้ทำลาย ป่าทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5
ร.ต.ต.ธนงศักดิ์ ไกลถิ่น รอง สวป.หน.ฯ
นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยป่าไม้สายที่
1 ลำปาง ตำรวจ สภ.แม่เมาะ และเจ้าหน้าที่
กอ.รมน.จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.18 (แม่เมาะ) เข้าร่วมตรวจสอบ
พื้นที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงพบว่ากลุ่มมอดไม้ได้ตั้งงานแปรรูปไม้เถื่อน อยู่ 1 หลัง
ซึ่งกำลังแปรรูปไม้ไปแล้วจำนวนหนึ่งเมื่อกลุ่มมอดไม้เห็นเจ้าหน้าที่
ได้ทิ้งของกลางทั้งหมดวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
ซึ่งแม้เจ้าหน้าที่จะพยายามวิ่งตามไล่จับแต่กลุ่มมอดไม้อาศัยความชำราญในพื้นที่หลบหนีไปได้หมด
จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบอุปกรณ์ในการแปรรูไม้ครบชุด ประกอบด้วย
แม่เลื่อย 1 โรง ใบเลื่อยขนาด 32 นิ้ว 1 ใบ เครื่องยนต์ในการแปรรูปไม้ 1 ตัว
ไม้กระยาเลย 20 ท่อน ไม้แปรรูป 63 แผ่น รถเข็นที่ใช้ในการชักลากไม้เถื่อน 1
คันและอุปกรณ์อื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 971 ประจำวันที่ 4 - 10 เมษายน 2557)