วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

เทศกาล สาดน้ำ


ทศกาลสาดน้ำ เพิ่งผ่านไปหมาดๆ เนื้อตัวยังไม่ทันแห้งดี ในระหว่างวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม กับโอกาสของความรื่นเริงบันเทิงใจอย่างสุดเหวี่ยง กับโอกาสใช้พื้นที่สาธารณะแสดงความรักใคร่กันอย่างถึงพริกถึงขิง กินเหล้าเมายาอย่างเมามาย แล้วกระทำอนาจารทั้งเต็มใจและจำใจ จบด้วยการทะเลาะวิวาท

ยังเป็นข้อถกเถียงกันว่า คุณค่าแท้จริงของการมีอยู่ของวันสงกรานต์คืออะไร เพราะไม่เพียงถนนข้าวสารในกรุงเทพ ข้าวเหนียวที่ขอนแก่น รอบคูเมืองที่เชียงใหม่ ถนนทิพย์ช้างที่ลำปาง ก็ไม่น้อยหน้าใคร

โชคดีที่ปีนี้ ไม่มีสาวประเภทสองเปลือยกาย เช่นที่พิษณุโลก หรือชายหนุ่มอวดของลับ แต่รถขนน้ำ ขนคน เวทีข้างทางที่สาวน้อยนุ่งห่มน้อยชิ้น หนุ่มน้อยบรรเลงสุรา ก็ยังเป็นฉากเดิมๆที่คุ้นตา ถ้าเทียบกับบรรยากาศปีใหม่สากล  ปีใหม่ไทยนี้มีวันหยุดยาวนานกว่า มีอารมณ์ความรู้สึกร่วมของคนไทยมากกว่า และแน่นอนว่าก็มีความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และเหตุทะเลาะวิวาทมากกว่า คนไทยได้ยินคำเตือนทุกปี ได้ยินเสียงเตือนตลอดเวลาว่า “เมาไม่ขับ” และก็มีสถิติความตายไว้เตือนทุกเทศกาลสงกรานต์ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความตาย

ถ้าไม่ประมาท ไม่ดื่มเหล้าจนขาดสติ ไม่รื่นเริงจนลืมตาย ชีวิตก็ยังเอาอยู่     

น่ายินดีที่เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงที่ทำให้คนตายคราวเดียวกันจำนวนมาก และปีนี้คนไทยก็มีโอกาสเฉลิมฉลองวันปีใหม่ไทยโดยไม่มีบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมือง มาก่อกวนความสงบสุข ไม่มีคนเสื้อมีสี นอกจากคนเสื้อสีลายดอก เพราะคู่ขัดแย้งทุกฝ่ายพักรบให้คนของตัวเองไปเทศกาลสงกรานต์

แต่ภาพเหล่านี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

สัญลักษณ์ของเทศกาลสงกรานต์ที่ควบคู่ไปกับภาพความรื่นเริงอย่างสุดเหวี่ยง ชนิดหลุดโลก ของคนไทย การดื่มสุรา ยาเมา เมื่อมีการดื่ม มีการบรรทุกคนจำนวนมากบนรถกระบะ หรือขับขี่มอเตอร์ไซด์โดยไม่สวมหมวกกันน็อค สภาพที่ดำรงอยู่เช่นนี้ คือหนทางแห่งความวิบัติ เป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่เคยหายไปในทุกครั้งที่สงกรานต์มาเยือน

ภาพการสาดน้ำเล่นสงกรานต์ การสรงน้ำพระ สรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ที่เคารพนับถือ อันเป็นภาพสะท้อนของความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้สูงวัย เป็นความงดงามทางจิตใจยากที่จะพบได้ในประเพณี วัฒนธรรมของสังคมอื่น แต่ในท่ามกลางวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป อาจทำให้ภาพความงดงามที่ทรงคุณค่าทางจิตใจเหล่านี้ลบเลือนไปด้วยความตายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในแต่ละปี จากฤทธิ์สุราเป็นประการสำคัญ

ในแต่ละปีผู้คนจำนวนมากซึ่งล้วนยังอยู่ในวัยทำงาน อยู่ในช่วงชีวิตที่ยังคงทำคุณประโยชน์ให้สังคมได้อีกมาก ออกจากบ้านไป และกลับมาในร่างที่ห่อคลุมด้วยผ้าขาว เราใช้วันสงกรานต์ไปอย่างขาดสติมากไปหรือไม่ นี่เป็นคำถาม

ถัดจากวันสงกรานต์ เป็นวันครอบครัว วันที่สัมพันธ์กับเทศกาลสงกรานต์ที่หลายคนอาจกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ได้กลับไปสู่ครอบครัวใหญ่อีกครั้ง สถาบันครอบครัวในวันนี้แตกแยก การดิ้นรนเพื่อยังชีวิตให้อยู่รอด อาจทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องห่างเหิน ขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน โดยพื้นฐานของครอบครัวก็มีความอ่อนไหว แปลกแยกแตกต่างกันอยู่แล้ว

วันครอบครัวที่กำหนดไว้ในช่วงต้นเทศกาลสงกรานต์ จึงเป็นโอกาสของคนที่มีชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ มีเงื่อนไขทางสังคม บีบรัดให้ต้องเอารัดเอาเปรียบกัน ได้กลับไปเยี่ยมผู้หลัก ผู้ใหญ่ ไปช่วยให้สถาบันครอบครัวมีคุณค่า มีความรักและความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน นอกเหนือจากรูปแบบ พิธีกรรม ที่อาจมิได้บ่งบอกคุณค่าของจิตใจอย่างแท้จริง

ในห้วงเวลาแห่งสงกรานต์ควรเป็นวันที่ทุกคนหวลคิดถึงคนที่เคยมีคุณต่อสังคม เวลาเพียงไม่กี่วัน จะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะส่งเสริมให้กำลังใจกับผู้สูงวัย ซึงเกือบจะเป็นพลเมืองชั้นสองของประเทศนี้ไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจไม่มั่นคงเพียงพอที่จะรักษาความเป็นตัวตนให้อยู่ในสังคมต่อไป เฉกเช่นครั้งยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว

เราผ่านช่วงเวลาสำคัญนี้มาแล้ว เพียงความสุขชั่วแล่นหรือไม่ เราลืมบางคนที่สำคัญยิ่งในชีวิตไปหรือไม่ อาจเป็นคำถามที่ยังต้องถามกันทุกครั้งที่สงกรานต์มาเยือน




(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 974 ประจำวันที่ 18 - 24 เมษายน 2557) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์