วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557

พ่ายนกหวีด 'บุญชู' ร้องกกต. คู่แข่งเจาะไข่แดงห้างฉัตร


บุญชู ผู้กล้าแห่งยุค พ่ายวราวุฒิ ทนายความชื่อดัง ศึกชิง ส.ว.ลำปาง  ทิ้งห่างกว่า 32,000 คะแนน  เชื่อเพราะพิษนกหวีด ประกอบกับร้างวงการนาน การเมืองเปลี่ยนขั้วรุนแรง ด้านผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ถึงเป้า มีเพียง  57.08%

- เลือก ส.ว.เงียบเหงา
การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 31 มี.ค.57 ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 08.00น. ถึงเวลา 15.00 น. หลังเปิดและปิดหีบเลือกตั้ง ส.ว. ของ จ.ลำปางบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา  ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เนื่องจาก จ.ลำปาง ได้มีการตั้งเป้าว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์มากถึง 70 % ทาง กกต.ลำปางได้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด  617,231 คน ตามหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 1,245 เลือกตั้ง แต่ในวันเลือกตั้งมีประชาชนออกไปใช้สิทธิ์กันอย่างบางตา สาเหตุก็น่าจะมาจากประชาชนเกิดความเบื่อหน่ายการเมือง หลังจากที่ทราบว่า การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อครั้งที่ผ่านมา ถูกตันสินให้เป็นโมฆะ อีกส่วนหนึ่งก็ไม่สนใจการเลือกตั้ง หรือแม้แต่บอกว่าไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ว.แต่อย่างใด แต่ทั้งนี้การเลือกตั้ง ส.ว.ของลำปางก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

- บุญชู พ่าย วราวุฒิ
และจากการสรุปผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเวลา 19.00น. ผู้ที่ได้คะแนนนำมาเป็นอันดับที่ หนึ่ง คือ  หมายเลข 1 นายวราวุฒิ หน่อคำ ได้คะแนนรวม 138,992 คะแนน  อันดับสอง นายบุญชูตรี ทอง หมายเลข 4 ได้ 106,755  คะแนน  อันดับสาม ด.ต.กิจชัยชนะ ปะละ หมายเลข 5 ได้ 22.038 คะแนน  หมายเลข 2 นายอำนวย เงินกระแชง ได้ 8,414 คะแนน  และ นายธนชัย พงษ์โสภาวิจิตร  หมายเลข 3 ได้ 7,092 คะแนน  

- ผู้ใช้สิทธิ์ไม่ถึงเป้า
สำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน จ.ลำปางทั้งหมดมี 616,513 คน มาใช้สิทธิ์ 351,906  คน เท่ากับ  57.08 % บัตรดี 283,291  ใบ เท่ากับ 80.50 % บัตรเสีย 20,185 ใบ เท่ากับ 5.74%  บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 48,430 ใบ เท่ากับ 13.76%   
           
-บุญชู ส่งทนายร้อง กกต.
ต่อมา วันที่ 31 มี.ค.56  เวลาประมาณ 12.30 น.ทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนายบุญชู ตรีทอง ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา เบอร์ 4  นำโดย นายโยธิน วิลาวัณย์  และนายจาตุรน บริจินดา ผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายบุญชู ตรีทอง เดินทางเข้าพบนายฐิติวัฒน์ สุดเจริญ หัวหน้างานสืบสวนสอบสวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดลำปาง เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.  พร้อมกับนำใบปลิว รูปถ่าย 30 ภาพ แผ่นซีดีบันทึกภาพถ่าย สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี และบันทึกข้อเท็จจริงจากผู้เห็นเหตุการณ์มาเป็นหลักฐานประกอบการร้องเรียน 

เจอใบปลิว รูปห้อยนกหวีดคู่เทพเทือก
ทั้งนี้  สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มี.ค.57 นายบุญชู ตรีทอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีรถยนต์ 4 คัน ขับไปตามถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม-วังเหนือ ได้โปรยใบปลิวตามถนนที่มีผู้คนสัญจรผ่านไปมา เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวได้มีการติดเครื่องขยายเสียงและติดป้ายพรรคการเมืองพรรคหนึ่งโปรยใบปลิววิ่งไปตามถนนสายดังกล่าวจึงถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน  โดยใบปลิวดังกล่าว มีรูปของนายบุญชู ตรีทอง ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา เบอร์ 4 ถ่ายภาพคู่กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. มีข้อความบรรยายว่า “RESTART THAILAND  ร่วมกันปฏิรูปเพื่อกำจัดระบอบทักษิณ”  โดยในวันที่ 29 มี.ค. 57  นายบุญชู ตรีทอง ได้มอบหมายให้ทีมทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.แจ้ห่ม จ.ลำปางแล้ว

-ลั่นถูกใส่ร้าย ได้รับความเกลียดชัง
นายบุญชู ตรีทอง  กล่าวว่า รูปถ่ายดังกล่าว ตนเองเคยถ่ายกับเลขาธิการ กปปส.มานานแล้ว เพราะตนเคยเป็นนักการเมือง ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาก่อน ซึ่งรูปนั้นได้ถ่ายในขณะที่ได้ออกไปร่วมแสดงการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม(ฉบับสุดซอย) อันเป็นการแสดงออกทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญในครั้งนั้น ร่วมกับผู้คนจำนวนมาก ไม่ได้เป็นความลับแต่ประการใด และหลังจากวันนั้นก็ไม่ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมใดๆกับกลุ่มการเมืองดังกล่าวอีก  การนำรูปถ่ายนั้นมาใส่ข้อความ “RESTART THAILAND  ร่วมกันปฏิรูปเพื่อกำจัดระบอบทักษิณจึงเป็นการใส่ข้อความอันเป็นเท็จ เป็นการกระทำเพื่อหวังมุ่งทำลายให้ตนในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งวุฒิสภา จ.ลำปาง ได้รับการเกลียดชังเสียชื่อเสียง เป็นเหตุให้ชาวบ้านเข้าใจผิด ทำให้มีผลกระทบโดยตรงต่อคะแนนนิยมของตนอย่างมากและแพร่หลายเป็นบริเวณกว้าง เพราะมีการกระทำเป็นกระบวนการหลายท้องที่ อันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม จึงยื่นร้องคัดค้านการเลือกตั้ง และจะได้ยื่นเรื่องไปยัง กกต.กลางต่อไป
           
- เชื่อบุญชูแพ้เพราะนกหวีด
ด้านแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้  เปิดเผยว่า การเมืองที่ลำปางปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทราบกันดี เพราะกระแสการเมืองที่ลำปางสำคัญมาก ส่วนหนึ่งในเมืองก็มีกลุ่มเสื้อเหลือง ฝ่ายของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ด้านนอกเมืองส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง  ประกอบกับสื่อได้เข้าไปครอบงำความคิดของชาวบ้านเมื่อเสพสื่อมากก็ฝังหัวไปกับฝ่ายได้ฝ่ายหนึ่ง  ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาการเมืองค่อนข้างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนแบ่งพรรคแบ่งพวกกันมากขึ้น

ส่วนของคุณบุญชู เชื่อว่าคนลำปางรักท่าน แต่มีเส้นกั้นอยู่ระหว่างความชอบกับความไม่ชอบ คนลำปางชอบในตัวคุณบุญชู เพราะเคยเป็น ส.ส. เป็นรัฐมนตรีมานาน ทำงานให้ลำปางมามาก ช่วยในเรื่องการศึกษาต่างๆ  แต่อีกส่วนหนึ่งก็มีความไม่ชอบ เมื่อมีภาพของคุณบุญชูที่ปรากฏคู่กับคุณสุเทพผ่านทางโซเชียลมีเดียร์แพร่กระจายไป  ทำให้ความไม่ชอบเกิดรุนแรงขึ้นและเป็นผลตามมา  ส่วนฐานเสียงของ ส.ส.ในพื้นที่ก็มีผลเชื่อมโยงกันไปทางการเมืองเช่นกัน เมื่อดูคะแนนของอำเภอทางตอนล่างคะแนนของคุณบุญชูหายไปหมด ซึ่งทางตอนล่างจะเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยเกือบทั้งหมด  หรือแม้กระทั่งเขต อ.ห้างฉัตรคุณบุญชูก็แพ้  เพราะคะแนนเหล่านี้ก็โยงกับทางพรรคการเมือง ซึ่งเป็นการเมืองแบบเลือกข้าง

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับคุณวราวุฒิ เป็นนักกฎหมายก็ถือว่าเหมาะสม เพราะสมาชิกวุฒิสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องมีประสบการณ์ด้านกฎหมาย ต้องติดตามการบริหารงานบ้านเมือง คุณวราวุฒิเป็นทนายความอาชีพต้องเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องกฎหมายอยู่แล้ว อาชีพที่ทำอยู่กับงาน ส.ว.ก็ไปด้วยกันได้

- ร้างวงการมีส่วนทำแพ้
อย่างไรก็ตาม นายบุญชู ตรีทอง นั้นต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาถือว่าเป็นนักการเมืองระดับชาติที่สำคัญคนหนึ่งของจังหวัดลำปาง มีคนรู้จักทั้งประเทศ ได้สร้างผลงานไว้มาก ยกตัวอย่างเช่น การก่อสร้างอาคารบุญชู โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย การบริจาคที่ดินก่อสร้าง ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง รวมถึงถนนหนทางต่างๆ ในพื้นที่ จากความกล้าคิดกล้าทำ จึงได้ฉายาว่าผู้กล้าแห่งยุคในตอนนั้น แต่หลังจากนั้นมาในช่วงเวลาหนึ่งนายบุญชู ได้ลดบทบาททางการเมืองในพื้นที่จังหวัดลำปางลง เหลือเพียงบทบาททางสังคมประปราย  จึงทำให้คนรุ่นหลังแทบจะไม่รู้จักคนชื่อบุญชู ตรีทอง จนแทบจะกลายเป็นตำนานไปแล้ว

จากการที่นายบุญชูกลับมาลงสนามเลือกตั้ง ส.ว.ในครั้งนี้ อดีตพื้นที่การเลือกตั้ง ส.ส. นายบุญชู เคยมีฐานการเมืองแน่นปึ้ก อยู่ในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร  อ.เมืองปาน และ อ.เมือง แต่หลังจากที่ลดบทบาททางการเมืองไปหลายปี เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน ฐานเสียงหัวคะแนนและคะแนนนิยมบางส่วนได้เปลี่ยนไป ซึ่งในการศึกครั้งนี้ถึงแม้ว่านายวราวุฒิ จะไร้ชื่อในระดับจังหวัด แต่ลึกๆแล้วมีเครือข่ายค่ายดังระดับประเทศให้กำลังใจมาอย่างลับๆ แถมกำชับมาว่าห้ามแพ้

- ฐานเสียง ส.ส.พื้นที่มีผลมาก
ซึ่งในข้อเท็จจริง ที่ผ่านมาจังหวัดลำปางมีพื้นที่ทางการเมืองใหญ่ๆอยู่สองเขตคือเขตเหนือที่มี อ. ห้างฉัตร เมืองปาน แจ้ห่ม วังเหนือ และอำเภอเมือง มีนายวาสิต พยัคฆบุตร และนา โพโรจน์ โล่ห์สุนทร เคลื่อนไหวทำแต้มทางการเมืองอย่างสม่ำเสมอดูแลฐานเสียงไม่มีขาดตกบกพร่อง ส่วนเขตใต้ที่เหลือทั้งหมดอยู่ในการดูแลของตระกูลจันทร์สุรินทร์ ที่นำโดยนายพินิจ จันทร์สุรินทร์  ผู้มีฉายาย่ำบะหินเป๋นน้ำ ส่งลูกชายสองคนเป็น ส.ส.ได้แบบไร้คู่แข่ง ถ้า 2 คนนี้เปิดพื้นที่ให้เบอร์ 1 หาเสียงอะไรคงง่ายขึ้น ส่วนบุญชูถ้าจะหวังพึ่งคะแนนจากคนชั้นกลางในเมืองว่ากันว่าก็มีเสียงแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายหนึ่งจะเดินหน้าปฏิรูปไม่ไปเลือกตั้ง  อีกส่วนหนึ่งก็อยากจะช่วยบุญชู และบางสีไม่เอาใครนอกจากคนของตัวเอง นอกจากนั้นยังมีบางส่วนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดไปโนโหวตอีกหลายหมื่น ซึ่งกลายเป็นผลดีกับผู้สมัครบางคนที่มีคะแนนตุนไว้อยู่แล้ว  ดังนั้นด้วยเหตุผลง่ายๆไม่กี่ข้อนี้ ก่อนเลือกตั้ง ส.ว. ผู้สันทัดกรณีทางการเมืองมองว่า โอกาสที่นายบุญชู จะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ยากพอสมควร เพราะแทบจะไม่มีพื้นที่ให้เล่น เพียงหวังพึ่งคะแนนนิยมผลงานเดิมๆก็คงไม่เป็นผล


ส่วนกรณีที่มีการนำภาพถ่ายที่ไปยืนคู่กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาแจกชาวบ้าน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คะแนนหายไป แต่ไม่น่าจะใช่ทั้งหมด และสาเหตุหลักที่แพ้น่าจะมาจากการร้างเวทีไปนาน และที่สำคัญอาจจะมองข้ามกันไปก็ คือ ชาวบ้านสมัยนี้เรียนรู้การบ้านการเมืองมากขึ้น รู้จักว่าใครเป็นใคร ได้อะไรจากตรงไหน จึงทำให้กลยุทธ์ในการหาเสียงบางอย่างใช้ไม่ได้ในยุคปัจจุบัน 


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 971 ประจำวันที่ 4 - 10 เมษายน 2557)   
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์