วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ใบสั่ง? กกต.เชือดหมอภูมิ



ถ้าเขานินทากันว่า เหตุที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ได้ใบเหลือง จนต้องพักยาวในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ทั้งที่ผ่านช่วงเวลาเลือกตั้งมาเนิ่นนาน  และผู้สมัครที่เป็นแคนดิเดทล้วนถูกร้องด้วยกัน แต่ไม่มีการพิจารณา เพราะมี กกต.บางคน ต้องการให้เห็นว่า กกต.ไม่เลือกปฎิบัติ  ตามที่คนเสิ้อแดงกล่าวหา  จึงจำเป็นต้องเชือด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เรื่องราวของหมอภูมิ กิตติภูมิ นามวงศ์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง  ก็คงดำเนินไปในท่วงทำนองเดียวกัน

เป็นการเคลื่อนไปในลักษณะที่กล่าวได้ว่า กกต.ชุดนี้  สนุกสนานกับการแจกใบเหลือง ใบแดง โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลใดอธิบาย

หมอภูมิถูกร้องเรียน ใน กกต.ชุดก่อน และกกต.ยกคำร้อง ครั้นผ่านมาถึง กกต.ชุด นายศุภชัย สมเจริญ โดยไม่คาดฝัน กกต.ชุดนี้ เกิดแข็งขันขึ้นมา ค้นเอาข้อร้องเรียนหมอภูมิ ในประเด็นสัญญาว่าจะให้ทุนการศึกษา มาพิจารณาใหม่ และให้ใบแดงอย่างฉับไว นี่จึงเป็นเรื่องที่ชวนสงสัยว่าจะมีใบสั่งจากผู้ใด ถึงกกต.หรือไม่  หรืออาจจะเป็นการพิจารณาในชั้นอนุกรรมการซึ่งอาจเปิดช่องให้มีการแทรกแซงโดยง่าย “ม้าสีหมอก” ตั้งคำถาม 1 ใน 5 เสือ กกต.ที่มีโอกาสพบกันวันหนึ่ง คำตอบคือ เรื่องเช่นนี้มีขึ้นได้อย่างไร  แปลว่า หากกระบวนการพิจารณาโปร่งใส ตรงไปตรงมา ก็ไม่ควรมีใบแดงจาก กกต.เพราะเป็นการผิดขั้นตอนปกติ ที่ กกต.จะต้องไม่นำเรื่องที่ยุติไปแล้วมาพิจารณาซ้ำอีก

แน่นอนว่า อาจมีบางแง่มุมที่เราไม่รู้  ข้อมูลเท่าที่ปรากฏอาจผิดพลาด คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง  กระบวนการพิจารณาก่อนที่ กกต.จะประหารหมอภูมิด้วยใบแดงนั้น อาจเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และขั้นตอนแล้ว แต่ถ้าเป็นตรงกันข้าม หมอภูมิก็จะมีประเด็นข้อต่อสู้ที่สามารถหักล้างคำสั่ง กกต.ได้ เมื่อคดีไปสู่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งเป็นศาลที่จะพิจารณาวินิจฉัยความผิดของหมอภูมิ  นั่นแปลว่าศาลอาจสั่งเพิกถอนใบแดงหมอภูมิ และเขาก็จะกลับมานั่งในตำแหน่งเดิมอย่างสง่างามอีกครั้ง

เส้นทางเดินของหมอภูมิ ใช่ว่าจะโปรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะกว่าจะหักโค่นคู่แข่ง ที่เคยปลดเขาออกจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี แล้วได้รับการขานชื่อในตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครลำปาง  ก็ทุ่มเททั้งกายและใจให้กับสนามเลือกตั้งครั้งนี้ ศึกษาข้อกฎหมาย วิธีการป้องกันการถูกสอยจากตำแหน่ง อย่างรอบคอบ รัดกุม แม้แต่ประเด็นสำคัญที่ กกต.ใช้เป็นฐานความผิดในการออกใบแดง หมอภูมิก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะผ่านไปได้

แต่ในโลกความเป็นจริง การใช้ การตีความกฎหมายไม่ได้เป็นไปเพื่อความเป็นธรรม หากเป็นการตีความที่จะรับใช้อำนาจ หรือผลประโยชน์ทางการเมือง กฎหมายจึงมิใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับทุกสิ่ง อำนาจและเส้นสายต่างหากที่สำคัญกว่า อำนาจคือความถูกต้อง โดยไม่ต้องถามหาเหตุผล ดังนั้น กรณีของถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)  หากเขาไม่ต่อสู้ หรือเรียกร้องความเป็นธรรม ถวิลก็จะถูกดองเอาไว้จนกว่าจะเกษียณ

 เรื่องของ ดร.กิตติภูมิ นามวงศ์ หรือหมอภูมิ ก็ไม่แตกต่างกัน มองอย่างสุดขั้วนี่ก็อาจเป็นเกมอำนาจชนิดหนึ่ง ที่ยืนยันว่า อำนาจเท่านั้นที่จะดลบันดาลได้ทุกสิ่ง เพียงแต่เป็นการใช้อำนาจผ่านองค์กรอิสระ ที่สามารถชี้เป็นชี้ตายให้นักการเมือง หรือพูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า อาจมีใบสั่งจากมุมมืดมุมใดมุมหนึ่ง ที่ไม่ได้เปิดเผยตัวเหมือนเลขานุการศาลปกครอง ที่กำลังชะตาขาด จากการส่งหนังสือขอตำแหน่งให้ตำรวจที่เขาให้การสนับสนุน

ถึงนาทีนี้ คู่แข่งยังลิงโลดไม่ได้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 5 อาจคืนตำแหน่งให้หมอภูมิ ถ้าพยานหลักฐานยังไม่หนักแน่นเพียงพอ และถึงวันนั้นหมอภูมิจะกลับมาอีกครั้ง แต่ถ้ามีสิ่งใดที่เราไม่รู้ซุกซ่อนอยู่มีน้ำหนักเพียงพอสำหรับที่จะชี้ถูก ชี้ผิดหมอภูมิก็ปิดประตูลั่นดาลไปได้สำหรับตำแหน่งนายกฯเทศบาลนครลำปาง



(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 976 ประจำวันที่  2 - 8 พฤษภาคม 2557)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์