หอปูมลำปางเงียบเหงา
มีคนเข้าชมวันละไม่เกิน 10 คน ตะลึงคนลำปางจำนวนมากยังไม่รู้จัก
แนะเทศบาลรุกประชาสัมพันธ์ให้คนมาเที่ยว เพราะเป็นประโยชน์ของคนลำปาง ขณะที่ กองทุนพัฒนาไฟฟ้าหนุนงบ 15 ล้าน ลุยปรับภูมิทัศน์ศาลากลางหลังเก่ารองรับมิวเซียมและศาลหลักเมือง
ส่วนงบจัดตั้งมิวเซียม 25 ล้านยังค้างคา ลุ้นบอร์ด
สบร.อนุมัติรับไปดำเนินการ
จากที่หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์
ได้นำเสนอข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งโครงการโครงการพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง
หรือ มิวเซียมลำปาง เมื่อช่วงเดือน ส.ค.2556 ที่ผ่านมา โดย นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปางในขณะนั้น
ได้ลงนามในหนังสือส่งมอบพันธกิจของมิวเซียมลำปางให้ทางสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติหรือ
สพร.แล้ว และรอเรื่องเข้าที่ประชุมใหญ่ของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์กรมหาชน)
แต่ผ่านไปนานกว่า 9 เดือนแล้วมิวเซียมลำปางยังคงหยุดนิ่ง
จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางเทศบาลได้เข้ามาดำเนินการปรับภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าอาคารศาลากลางหลังเก่า
ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดตั้งมิวเซียมลำปาง
ตั้งแต่อนุสาวรีย์สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 ไปจนถึงศาลหลักเมือง ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าว
นายชัยศรี
สัชฌะไชย รองนายกเทศมนตรี รักษาการนายกเทศมนตรีนครลำปาง เปิดเผยว่า ขณะที่ได้มีการปรับภูมิทัศน์ด้านหน้าศาลากลางเก่า
โดยใช้งบประมาณของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าจำนวน 15 ล้านบาท เมื่อปรับภูมิทัศน์ออกมาแล้วจะสวยงามมาก
รวมไปถึงบริเวณศาลหลักเมืองที่ยังอยู่ระหว่างการประชุมหารือในการปรับปรุงอยู่
ส่วนอาคารที่จะจัดทำมิวเซียมนั้นเดิมทียังติดขัดในเรื่องของงบประมาณ
แต่ภายหลังได้พูดคุยกันถึงปัญหาดังกล่าว ก็พอจะตกลงกันได้และหาแนวทางในการหางบประมาณ
ซึ่งทางจังหวัดก็บอกว่าน่าจะทำให้เป็นภาพรวมทั้งหมด ทั้งมิวเซียมลำปาง
ศาลหลักเมือง โดยปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม
พร้อมกับตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่เข้ามาดูแลในส่วนนี้
ซึ่งจะทำให้จุดนี้เป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงามของจังหวัดลำปาง ตอนนี้เท่าที่ทราบงบ 25
ล้านบาทยังไม่ได้ตกไป แต่เป็นการชะลอชั่วคราว เพื่อรอทาง สบร.อนุมัติ
ด้านเจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง(มิวเซียมลำปาง)
เปิดเผยว่า
เรื่องการจัดตั้งมิวเซียมลำปางตอนนี้ยังคงชะลออยู่
เพราะอยู่ระหว่างรอโอนภารกิจให้ทางสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติรับดูแล
ซึ่งต้องเข้าประชุมบอร์ดใหญ่ของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์กรมหาชน) หรือ สบร. โดยได้มีการเสนอเรื่องเข้าไป 2
ครั้งแล้วแต่ยังไม่ได้มีการประชุมบอร์ดแต่อย่างใด
อาจเนื่องมาจากสถานการณ์บ้านเมืองไม่สงบ เรื่องจึงยังค้างคาอยู่
เมื่อสอบถามถึงกรณีที่เรื่องผ่านและไม่ผ่านบอร์ด
สบร. จะเป็นอย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ฯ กล่าวว่า หากผ่านการอนุมัติของบอร์ด สบร.แล้ว
ทาง สพร.จะเข้ามาดูแลได้ทั้งหมดในการจัดหางบประมาณต่างๆ แต่ถ้าบอร์ด สบร.ไม่อนุมัติ ทราบว่าทางเทศบาลยังคงจะดำเนินการจัดตั้งมิวเซียมอยู่
ซึ่งอาจจะไม่ใหญ่มากเหมือนที่ทาง สพร.เข้ามาดำเนินการ
แต่จะยังคงไว้เพื่อให้เป็นสถานที่บอกเล่าเรื่องราวของ จ.ลำปาง ส่วนงบประมาณดำเนินการต่างๆทางจังหวัดและเทศบาลจะต้องหามาจัดการทั้งหมด
นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังได้เข้าตรวจสอบหอปูมละกอน
เทศบาลนครลำปาง ที่จัดตั้งขึ้นเป็นมิวเซียมขนาดเล็กบอกเล่าเรื่องราวต่างๆของ
จ.ลำปาง ตั้งอยู่บริเวณข่วงนคร ห้าแยกหอนาฬิกา
ซึ่งจากการเข้าเยี่ยมชมพบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา
ภายในห้องจัดแสดงมีระบบบางอย่างที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำอยู่หอปูมละกอนทราบว่ามีผู้คนเข้าชมไม่มากนัก
เช่น ระหว่างที่ 6-7 พ.ค.57 มียอดเข้าชมวันละประมาณ 10 คน บางวันที่คนเข้าชมเพียง 2 คน
และยังมีอีกหลายวันที่ไม่มีคนเข้าชมเลย ในขณะที่ห้องจัดการแสดงจะต้องเปิดไฟ
เพื่อแสดงแสงสีเสียง และเปิดเครื่องปรับอากาศในห้องอยู่ตลอดเวลา
เมื่อได้สอบถามไปยังประชาชนทั่วไปในหลายกลุ่มอาชีพว่ารู้จักหอปูมละกอนลำปางหรือไม่
ใน 10 คน รู้จักหอปูมละกอนเพียง 2 คนเท่านั้น
โดยคนแรกรู้จักเพราะเคยส่งลูกไปร่วมกิจกรรมการประกวดวาดภาพระบายสีที่จัดขึ้นที่หอปูมละกอน
จึงมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม
ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นรู้จักผ่านทางเฟสบุ๊ก
เพราะมีเพื่อนทำงานอยู่ที่เทศบาลนครลำปาง แต่ตนเองไม่เคยเข้าชมด้านในแต่อย่างใดเพราะยังไม่มีโอกาส
ซึ่งได้แนะนำว่าอยากจะให้มีการประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้จะได้มีคนเข้าไปเที่ยวชมมากขึ้น
สำหรับคนที่เคยรู้จักหอปูมละกอนและเคยเข้าชมรายหนึ่ง
กล่าวว่า เทศบาลทำได้ดี ที่มีการนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ
จ.ลำปาง แต่ดูแล้วขาดการประชาสัมพันธ์ คิดว่าไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวชม น่าจะทำเป็นจุดจอดรถม้า
เวลานักท่องเที่ยวขึ้นรถม้ารอบเมือง ให้แวะดูหอปูมละกอนด้วย จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับลำปางอีกมากมาย
ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยัง
น.ส.อุษา สมคิด ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา
เทศบาลนครลำปาง ที่ดูแลในเรื่องหอปูมละกอนดังกล่าว ทราบว่า
ระบบที่ชำรุดภายในห้องจัดแสดงนั้น
จะเป็นโปรแกรมที่ต้องให้ทางบริษัทรับเหมาเข้ามาดำเนินการ เนื่องจากช่างในท้องถิ่นไม่สามารถแก้ไขได้
ตอนนี้ได้ติดต่อกับทางบริษัทให้ทำการประเมินราคาเพื่อจัดทำโปรแกรมใหม่แล้ว
ในส่วนของหอปูมละกอนไม่ได้มีการตั้งงบประมาณบำรุงรักษาไว้โดยเฉพาะ
เมื่อมีการชำรุดเสียหายก็จะต้องขอเบิกงบประมาณซ่อมเป็นครั้งๆไป
สำหรับยอดผู้เข้าชมในแต่ละเดือนนั้นได้มีการเก็บรวมรวบอยู่เช่นกัน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักศึกษาที่เข้ามาศึกษาดูงาน
เนื่องจากหอปูมละกอนเป็นแหล่งเรียนรู้บอกเล่าเรื่องราวของ จ.ลำปางได้เป็นอย่างดี
ทางสำนักศึกษาฯได้มีการประชาสัมพันธ์ไปตามสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อช่วงเดือนเม.ย. 57 ที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมอยู่ที่ 180 คน ซึ่งทุกเดือนจะมีปริมาณใกล้เคียงกัน
ส่วนในเรื่องของค่าไฟที่จะต้องเสียไปในแต่ละเดือนนั้น คิดว่าเป็นเงินไม่มาก
หากมองว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่คนลำปางและนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ตลอดเวลา
ด้านนางนพวรรณ
ธนะสุวัตถิ์ รองนายกเทศมนตรี
ดูแลรับผิดชอบงานสำนักการศึกษา เทศบาลนครลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางเทศบาลได้เตรียมกิจกรรมที่จะจัดเพื่อให้คนลำปางได้มีส่วนร่วมในการเข้าชมหอปูมละกอน
ซึ่งในช่วงนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซมระบบโปรแกรมต่างๆให้เรียบร้อยก่อน แต่อย่างไรก็ตามประชาชนสามารถเข้าชมได้ตามปกติในวันจันทร์ถึงศุกร์
ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ซึ่งภายในจะมีการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆแยกเป็นโซน เช่น
โถงจิตวิญญาณ
เมืองพันปีที่มีเจ้าชีวิต
สังคมอินเตอร์ สีสันจากบางกอก
เป็นต้น
อยากให้คนลำปางเข้ามาเที่ยวชมกันให้มาก เนื่องจากเป็นประโยชน์ที่จะได้รู้ความเป็นมาของ
จ.ลำปาง และยังนำเรื่องราวไปบอกเล่าให้ลูกหลานได้เรียนรู้อีกด้วย
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 978 ประจำวันที่ 16 - 22 พฤษภาคม 2557)