วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผบ.เรือนจำเข้ม เพิ่มกฎเหล้กสกัดยา


ผู้บัญชาการเรือนจำคนใหม่เข้ม ออกระเบียบเพิ่มคุมเข้มทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ห้ามนำของใช้ส่วนตัวเข้าภายในเด็ดขาด หวังลดปัญหานำยาเสพติดและสิ่งของต้องห้าม พร้อมของบประมาณจากกรมราชทัณฑ์ 500,000 บาท เพิ่มตาข่ายสูงรอบเรือนจำ ป้องกันการโยนสิ่งของจากภายนอก และทยอยติดตั้งกล้อง cctv เพิ่ม เชื่อป้องกันปัญหาได้ในระดับหนึ่ง

ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ข่าวการโยนสิ่งของและลักลอบนำยาบ้าเข้าไปภายในเรือนจำกลางลำปาง มีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวลานนาโพสต์จึงได้สอบถามมาตรการป้องกันต่างๆ ไปยัง นายคัมภีร์ อนุรักษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางลำปาง ซึ่งเปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่เข้ามารับงานเมื่อ 10 มี.ค. 57 ที่ผ่านมา พบว่ามีการลักลอบโยนสิ่งของต้องห้าม เช่น ยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งที่ตรวจพบทางประตูเข้ามาเรือนจำหลายครั้ง  มาตรการป้องกันสิ่งของต้องห้ามเหล่านี้มีมาโดยตลอด  อันดับแรกคือการตรวจค้นข้าราชการ ผู้ต้องขัง บุคคลภายนอก ซึ่งทำอยู่เป็นประจำ  นอกจากนั้นได้มีการตรวจสิ่งของที่ถือติดมือมา ตรวจยานพาหนะที่ขนอาหาร วัสดุที่ทำไปฝึกอาชีพต่างๆ เข้าไปด้านในอย่างละเอียด

ผู้บัญชาการเรือนจำกลางลำปาง กล่าวต่อไปว่า หลังจากพบปัญหาบ่อยขึ้น ได้มีการเพิ่มมาตรการใหม่เข้าไปอีกหลายข้อด้วยกัน โดยได้กำชับให้มีการห้ามเจ้าหน้าที่หิ้วสิ่งของเข้าไปด้านในเรือนจำโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว อาหาร เว้นแต่สิ่งของที่เป็นของทางราชการที่ต้องนำไปปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องลงรายละเอียดและตรวจค้นก่อนนำเข้า  โดยจะให้ผู้ต้องขังแดนหญิงปรุงอาหารเลี้ยงเจ้าหน้าที่เวรยาม เพื่อป้องกันการซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปกับอาหาร และสิ่งของที่นำเข้าไป ที่ประตูจะมีกล้องถ่ายภาพของที่ได้รับอนุญาตเข้าไปด้านในไว้ทั้งหมด   รวมทั้งออกระเบียบห้ามเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีหน้าที่ภายในเรือนจำเข้าออกโดยพลการ ต้องขออนุญาตหรือเข้าไปในหน้าที่ราชการเท่านั้น  และในเรื่องของการฝากขายของในร้านสวัสดิการเรือนจำ จะมีการเข้มงวดขึ้น ซึ่งจะต้องแจ้งรายการที่ส่งเข้าไปด้านในทุกรายการ จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าส่งเข้าไปตามรายการที่แจ้งจริงหรือไม่

สำหรับมาตรการป้องกันการโยนสิ่งของผิดกฎหมายข้ามกำแพงนั้น ตอนนี้ได้งบประมาณจากกรมราชทัณฑ์มาเสริมตาข่ายสูงขึ้นไปประมาณ 500,000 บาท  ซึ่งทำไปแล้ว 2 ด้าน อยู่ระหว่างทำด้านที่ 3  โดยจะต่อความสูงขึ้นไปอีกประมาณ 5 เมตร คาดว่าจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ส่วนที่เป็นปัญหาในตอนนี้คือ กล้องวงจรปิดของเรือนจำมีไม่เพียงพอ เพราะขาดงบประมาณในการติดตั้ง  ทางเรือนจำจะต้องติดตั้งกล้องให้มากขึ้นทั้ง  4 ด้านอย่างต่ำ 10 ตัวขึ้นไป จะเริ่มชุดแรกด้วยงบประมาณของเรือนจำเอง คาดว่าชุดละประมาณ 50,000 บาท อาจจะเริ่มได้ก่อน 5 ชุด ให้สามารถตรวจสอบในแต่ละจุดได้ ส่วนที่เหลือก็ต้องรองบประมาณจากกรมฯ เพราะต้องใช้งบประมาณสูง ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะดำเนินการเสร็จเมื่อไร เพราะทางกรมฯก็ต้องพิจารณาให้งบประมาณเรือนจำหลายแห่ง จึงต้องเริ่มทำตามงบประมาณอยู่ไปก่อน

นายคัมภีร์ ยังได้กล่าวถึงมาตรการในส่วนของผู้ต้องขังว่า  จากการที่ยาเสพติดเข้าสู่เรือนจำเพราะด้านในมีความต้องการจึงพยายามหาเข้ามา โดยภายในสั่งการหรือลักลอบติดต่อกันทางโทรศัพท์ การเยี่ยมญาติก็เป็นการส่งข้อความกันได้ เป็นโค้ดหรือรหัสต่างๆที่รู้กันเองในกลุ่ม ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบได้  โทรศัพท์จึงสำคัญที่จะเป็นตัวเชื่อมในการสั่งของ ปัจจุบันก็ใช้วิธีการเครดิตกันโดยไม่จ่ายเงินสด  ผู้ต้องขังก็จะหาวิธีการนำเข้า โดยการโยน หรือการนำเข้าทางทวารหนักตามที่เป็นข่าว ซึ่งส่วนใหญ่ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำก็ได้รับแจ้งข่าวมาก่อนว่าจะมีการนำเข้า ดังนั้นจึงจะมุ่งเน้นไปยังผู้ต้องขังที่ออกไปด้านนอก ทั้งนักโทษชั้นดีที่ออกไปทำงาน นักโทษที่ไปขึ้นศาล หรือนักโทษที่รับเข้ามาใหม่  โดยมีผู้ต้องขังบางคนได้รับการประกันตัวกลับบ้าน และกลับมาศาลเพื่อรับฟังการตัดสิน ซึ่งรู้ตัวอยู่แล้วว่าจะโดนเข้าเรือนจำแน่ ก็ยัดทวารมาจากบ้านเลยก็มี   วิธีการก็คือจะตรวจสอบลักษณะการเต้นของหัวใจ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญตรวจสอบ และใช้วิธีทางจิตวิทยา ซึ่งผู้ต้องขังบางคนก็รับ บางคนก็ไม่รับ หากไม่รับสารภาพก็จะนำส่งไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาล โดยทางโรงพยาบาลได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

สำหรับการขยายผล ได้มีการสอบสวนหาความจริง แต่ได้คำตอบเหมือนๆกันคือเจอในถังขยะในห้องขัง โดยไม่เคยบอกระบุชื่อบุคคลเลย จึงไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ ตัวนักโทษเองก็จะโดนโทษเพิ่มในการละเมิดอำนาจศาล ส่วนการนำตัวไปศาลนั้นทางเรือนจำมีหน้าที่เพียงจัดรถและคนขับ โดยจะมีตำรวจควบคุมตัวไป และมีตำรวจศาลดูแลที่ห้องควบคุมใต้ถุนศาล ทางเรือนจำก็ยอมรับว่าไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ซื่อสัตย์กันหมดทุกคน ตามที่เห็นในข่าวว่ามีการจับและไล่ออกไปหลายคน เพราะฉะนั้นหน่วยงานอื่นก็อาจจะเป็นเช่นเดียวกัน นายคัมภีร์ กล่าว


ผู้บัญชาการเรือนจำลำปาง ยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า  การออกมาตรการเหล่านี้มีทั้งผลตอบรับที่ดีและไม่ดี เจ้าหน้าที่ที่เสียประโยชน์ก็จะคับข้องใจบ้าง แต่สักวันคงจะเข้าใจเพราะทำเพื่อประโยชน์ของทางราชการ                                                                                                                                                        


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 979 ประจำวันที่  30 พฤษภาคม - 5 มิถุนายน  2557)                                                                                                                                                                                                                                                                                                                 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์