วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รุกหนักป่าแจ้ห่มเหี้ยน นายทุนจ้างชาวบ้านในพื้นที่ตัดไม้สร้างบ้านเรือนเก่าอำพรางกว่า


รุกหนักป่าแจ้ห่มเหี้ยน นายทุนจ้างชาวบ้านในพื้นที่ตัดไม้สร้างบ้านเรือนเก่าอำพรางกว่า 15 หลัง เตรียมส่งออกข้ามชาติ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดกว่า 4,800 แผ่นเหลี่ยม มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท   ผู้ว่าฯเผยสาวไม่ถึงตัวนายทุนเพราะไม่ใช่คนในพื้นที่ ขณะที่ กอ.รมน.ปัดตอบคำถามเรื่องนักการเมืองมีเอี่ยวหรือไม่ เร่งขยายผลหาตัวบงการใหญ่

            เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.57 ที่บริเวณสำนักงานหน่วยป้องกันและรักษาป่า ลป.ที่ 36 ไผ่งาม ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ  ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้เถื่อนไม่ว่าจะเป็น ไม้ประดู ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้ชิงชัน ไม้สักที่แปรรูปแล้ว และยังไม่ได้แปรรูป รวมทั้งไม้ซุง ที่ตรวจยึดมาได้จากพื้นที่บ้านไผ่งาม ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง นำมาเก็บรักษาที่หน่วยรักษาป่าแห่งนี้ เพื่อให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

หลังจากที่เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา  พ.อ.พงศ์เพชร เกตุศุภะ หน. ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในฯ นายชีวภาพ ชีวะธรรม นักวิชาการชำนาญการป่าไม้  นายสุเทพ พุทธชา ผอ.ส่วนป้องกันสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง กอ.รมน.จังหวัดลำปาง กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 ประตูผา พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบ และจับกุมไม้เถื่อนในพื้นที่ ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง โดยสามารถตรวจยึดบ้านที่ปลูกเพื่ออำพรางไม้เถื่อนและบ้านเถื่อนซุกซ่อนตามบ้านและป่าละเมาะต่างๆ ถึง 15 หลัง และไม่มีเจ้าของบ้านมาแสดงตัวแต่อย่างใด  จึงนำของกลางทั้งหมดมาเก็บรักษาและดำเนินคดีทางกฎหมายทันที โดยมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 40 ล้านบาท

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ กอ.รมน.ได้รับร้องเรียนว่ามีการลักลอบตัดไม้ชิงชันและไม้ประดู่ในเขตภาคเหนือ ลักลอบนำส่งต่างประเทศ ซึ่งจากการขยายผลการจับกุมจากป่าสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน  จนทราบว่าที่บ้านไผ่งาม ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เป็นจุดพักไม้ และนำกำลังเข้าตรวจสอบดังกล่าว  

ชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่ เปิดเผยว่า ได้ซื้อไม้แผ่นจากชาวบ้านแผ่นละ 50 บาท รวบรวมไว้ให้ลูกสาวไปสร้างบ้านที่ต่างจังหวัด พร้อมนำสำเนาทะเบียนบ้านมายืนยันว่ามีบ้านเลขที่ถูกต้อง แต่ตรวจสอบพบว่าไม้แต่ละแผ่นไม่มีหลักฐานการซื้อที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการอำพรางไม้เพื่อรอขนย้ายออกขาย เนื่องจากลักษณะการตีแปะข้างฝาด้วยตะปูตัวเดียวและนำไม้แผ่นเล็กมาปูเป็นพื้นบ้าน โดยการนำไม้มาตีแปะเป็นบ้าน ซึ่งจะอำพรางง่ายกว่าการนำมากองไว้ ดูจากสภาพบ้านแล้วไม่เจตนาอยู่อาศัยได้จริง เมื่อมีออเดอร์สั่งเข้ามาก็รื้อนำไปขาย เห็นได้ชัดว่าเป็นการตั้งใจอำพรางโดยปลูกสร้างเป็นไม้เรือนเก่า

แหล่งข่าวระบุว่า การปลูกสร้างบ้านดังกล่าว โดยการมีการขอบ้านเลขที่และมีทะเบียนบ้านนั้น จะต้องผ่านการรับรองจากผู้ใหญ่บ้าน จึงจะสามารถขอทะเบียนบ้านได้ ซึ่งดูจากสภาพของการสร้างบ้านแล้วก็จะทราบดีว่าไม่ได้สร้างเพื่ออยู่อาศัย ดังนั้น การออกทะเบียนบ้านจะได้รับการรู้เห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง  ซึ่งเป็นที่มาของการรับส่วยต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมามีการรับส่วยจริงแต่ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้จ่ายและใครเป็นผู้รับ จึงไม่สามารถจับตัวการใหญ่ได้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.อ.พงศ์เพชร เกตุศุภะ หน. ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษฯ ว่ามีนักการเมืองท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ แต่ได้รับการปฏิเสธไม่ตอบคำถามในประเด็นดังกล่าว ส่วนนายทุนที่บงการอยู่เบื้องหลังนั้นอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุม

ด้านนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ตอนนี้สนธิกำลัง ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง เข้าไปดูแลในพื้นที่รุกป่าเพื่อทำการเกษตร และพื้นที่ตัดไม้เพื่อส่งขายนายทุน ซึ่งทำมาต่อเนื่อง และมีคณะทำงานด้านนี้ มีการประชุมเพื่อหาข่าว ปัญหานี้มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงก่อนมีการบุกรุกมากในพื้นที่ อ.งาว  แต่ตอนนี้เกิดที่ อ.แจ้ห่ม โดยทางฝ่ายปกครองก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมตรวจยึดไม้ที่พบว่ามีการปลูกสร้างบ้านอำพรางไว้ สำหรับปัญหาที่พบคือ ไม่สามารถจับกุมนายทุนใหญ่ได้แม้แต่ครั้งเดียว เนื่องจากนายทุนอยู่นอกพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนายหน้าที่เข้ามาว่าจ้างชาวบ้าน  แต่ถ้าเจอหลักฐานก็จะดำเนินการจับกุมทันที

สำหรับการเข้าตรวจยึดไม้ของเจ้าหน้าที่ กรอ.มน. ร่วมกับทหาร ตำรวจ และป่าไม้ในพื้นที่ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจยึด 2 คดี ยึดไม้กระยาเลยแปรรูป 76 แผ่น และอายัดทรัพย์ 1 ราย เป็นบ้าน 4 หลัง เป็นไม้กระยาเลย 72 ท่อน ที่อำพรางไว้เป็นเสาบ้าน และไม้กระยาเลยแปรรูป 2,096 แผ่นเหลี่ยม ที่ตีแปะไว้เป็นพื้นและฝาบ้าน ส่วนวันที่ 11 มิ.ย.57 ได้ตรวจยึดทั้งหมด 9 คดี ของกลางเป็นไม้สักท่อน 11 ท่อน  ไม้สักแปรรูป 524 แผ่นเหลี่ยม  ไม้กระยาเลย 36 ท่อน ไม้กระยาเลยแปรรูป 593 แผ่นเหลี่ยม  และได้อายัดบ้านอำพราง 3 หลัง เป็นไม้สักท่อน 13 ท่อน สร้างเป็นเสาบ้าน ไม้สักแปรรูป 318 แผ่นเหลี่ยม เป็นพื้นและฝาบ้าน  ไม้กระยาเลย 44 ท่อน อำพรางเป็นเสาบ้าน และไม้กระยาเลยแปรรูป 1,275 แผ่นเหลี่ยม ตีแปะเป็นฝาและพื้นบ้าน  รวม 2 วัน ตรวจยึดไม้ได้ทั้งหมด 4,882 แผ่นเหลี่ยม  176 ท่อน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าเข้าไปตรวจสอบ และทำการตรวจยึดไม้ที่มีการลักลอบนำมาซุกซ่อนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการนำเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯพร้อมเจ้าหน้าที่ได้บินสำรวจพื้นที่เป้าหมาย และพิกัดจุดทางอากาศก่อนที่จะให้กำลังภาคพื้นที่เข้าไปจัดการทันที

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 982 ประจำวันที่  13 - 19 มิถุนายน 2557)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์