วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลำปางเริ่มขายลอตเตอรี่ใบละ 80 บาท ประชาชนแห่ซื้อ ขณะที่บรรดาแม่ค้าครวญ


กำไรหด 1 เล่มได้แค่ 500 กว่าบาท ถ้าขายไม่หมดก็ขาดทุน ระบุลอตเตอรี่รับซื้อจากยี่ปั๊วขายใบละ 90 ยังได้กำไรเยอะกว่า   เผยมีโควตาเท่าไรก็ขายเท่านั้น วอน คสช.จัดสรร โควตาให้มากกว่านี้ถึงจะขายในราคา 80 บาทได้ ขณะที่นักเสี่ยงโชคก็เข้าใจดีหลายคนยินยอมจ่ายในราคา 90-100 บาท

หลังจากที่ คสช.มีนโยบายสั่งคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา 80 บาท ให้มีผลตั้งแต่งวดวันที่ 16 ก.ค.57 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ออกตรวจว่ามีการขายจริงหรือไม่ หากพบว่าไม่จำหน่ายสลากในราคา 80 บาท หรือมีการขายส่ง จะถูกตัดโควตาทันที หากพบว่าไม่ให้ความร่วมมือจะกำหนดมาตรการที่เข้มข้นขึ้น 

บรรยากาศการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ จ.ลำปาง  วันที่ 2 ก.ค.57  พบว่า มีแม่ค้าบางรายเริ่มจำหน่ายสลากกินแบ่งฯในราคา 80 บาทแล้ว โดยที่ปิดป้ายราคา 80 บาทไว้หน้าร้าน ทำให้ประชาชนนักเสี่ยงโชคทั้งหลายต่างเดินทางมาเลือกซื้อเลขที่ตัวเองต้องการ ตามแผงขายทั่วไปกันอย่างคึกคัก และที่แผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ชื่อ บ้านล็อตเตอรี่ ที่ตั้งขายภายในใต้ถุน ลานจอดรถ ห้างบิ๊กซีลำปาง มีนางพัชรี วิชัยอริยุทธ์ หรือ เจ๊อี๊ด เป็นเจ้าของร้านจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่ ในพื้นที่ จ.ลำปาง ก็ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง ของ คสช.ที่ประกาศออกมา คือจำหน่วยสลากฯโควตา ในราคา 80 บาท ทำให้ประชาชนต่างทยอยเข้ามาเลือกซื้อกันอย่างคึกคัก  แต่บางคนที่มาเสี่ยงโชคไม่สามารถเลือกซื้อหาเลขที่ตัวเองต้องการได้เพราะสลากฯมีจำนวนจำกัด ทำให้หลายคนผิดหวังไป แต่หากอยากได้เลขที่ตัวเองต้องการ ก็จะมีสลากฯอีกราคาหนึ่งที่แพงขึ้นไปอีก ซึ่งหลายคนก็ยินยอม เพราะต้องการที่จะเสี่ยงโชคตามเลขที่ตนเองต้องการ

นางพัชรี วิชัยอริยุทธ์ เจ้าของแผงดังกล่าว ได้นำหลักฐานใบเสร็จต่างๆถึงการรับสลากกินแบ่งรัฐบาล มาเปิดเผยว่า ตนเอง ได้รับโควตาจากเสมียนตราและคลังจังหวัดลำปางรวม 7 เล่มครึ่ง หรือจำนวน 750 ใบ มาในราคาต้นทุน 74 บาท นำมาขายในราคา 80 บาท ตามประกาศ คสช.  แต่สลากฯเพียงแค่นี้ไม่เพียงพอต่อลูกค้าที่ต้องการเลือกซื้อ และไม่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพ เสียค่าลูกจ้าง เสียค่าเช่าที่เช่าแผงขายหวย ตนจึงได้เดินทางไปรับสลากฯ ซึ่งเป็นเลขที่หลายคนต้องการจากยี่ปั๊ว ที่ กทม.มาในราคา 80 กว่าบาท ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายต่างๆมากมายทั้งค่าเดินทางการกินอยู่อีกและหากมาขายในราคา 80 บาท คงจะอยู่ไม่ได้ จึงต้องขายในราคาที่สูงขึ้นเป็นใบละ 90 บาท  แต่ถ้าเป็นหวยชุดจะขายอยู่ที่ใบละ 100 บาท แต่จะไม่แบ่งขายเพราะจะผิดกฎหมาย หากใครต้องการหวยชุดก็ต้องซื้อเป็นชุดละ 3 ใบไป ดังนั้นจึงฝากเรื่องไปถึงประธาน คสช.พิจารณา ให้โควต้าหวย แก่ ผู้ค้าหวยจริงให้มากกว่านี้ถึงจะขายในราคา 80 บาทและก็จะสามารถประกอบอาชีพนี้ได้ ทั้งนี้นักเสี่ยงโชคก็เข้าใจดีกับการซื้อหวยในราคาแบบนี้

นางสุวรรณา แม่ค้าสลากฯรายย่อยอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองมีทั้งโควตาจากจังหวัดรวม 10 เล่ม และที่รับซื้อมาจากยี่ปั๊วจำนวนหนึ่ง ในส่วนที่ได้รับโควตาก็นำมาขายใบละ 80 บาท แต่ก็ไม่ได้กำไรมากเพราะรับมาใบละ 74.40 บาทแล้ว เล่มหนึ่งถ้าขายหมดก็ได้กำไรแค่ 500 กว่าบาท แต่ถ้าขาดไม่หมดต้องยอมขาดทุน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสลากก็จะเหลือ เพราะสลากโควตานั้นไม่มีเลขที่กลุ่มลูกค้าต้องการ  ในส่วนที่รับจากยี่ปั๊วมาขายใบละ 90 บาทนั้น ก็อยู่ที่ราคาซื้อ บางใบได้กำไร 7-8 บาท หรือบางใบก็ได้กำไรแค่ 1 บาทก็มี ผู้ขายสลากฯนั้นไม่ได้ร่ำรวย มีกำไรไม่มาก  อยากให้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แก้ที่ปลายเหตุ ทำให้ผู้ค้าได้รับความเดือดร้อน

ต่อมาวันที่ 3 ก.ค. 57 จังหวัดลำปางได้เปิดจุดจำหน่ายลอตเตอรี่ในราคา 80 บาท ที่บริเวณหน้ามุขศาลากลางจังหวัดลำปาง ตามนโยบายที่ทาง คสช.กำหนด แต่ก็มีผู้ค้ามาตั้งขายบางรายเท่านั้น เพราะต่างก็มีแผงขายของตัวเองอยู่ในตัวอำเภอเมือง  ซึ่งบรรยากาศในช่วงเช้ามีประชาชนให้ความสนใจมาซื้อลอตเตอรี่กันคึกคัก แต่ช่วงบ่ายค่อนข้างเงียบเหงา แม้ว่าจะเป็นสถานที่ราชการที่มีคนทำงานอยู่เป็นจำนวนมากก็ตาม 

ด้านเจ้าหน้าที่เสมียนตราจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ได้มีการการตั้งจุดจำหน่ายลอตเตอรี่ให้กับผู้ค้าบริเวณด้านหน้ามุขศาลากลางจังหวัด แต่เนื่องจากศาลากลางอยู่นอกเมือง จึงไม่ค่อยมีผู้ค้ามาวางจำหน่ายเพราะต้องเดินทางไกล ประกอบกับประชาชนที่มาติดต่อราชการก็มีไม่มากนัก จะมีเพียงบรรดาข้าราชการที่ทำงานอยู่เท่านั้นที่เดินเข้าออก จึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา  สำหรับโควตาที่เสมียนตรารับมาจากกองสลากนั้น มีจำนวน 1,500 กว่าเล่ม จัดสรรให้กับผู้ค้าในจังหวัดลำปาง 386 ราย  ส่วนโควตาสำหรับคนพิการมีอยู่ประมาณ 20 ราย ซึ่งจะได้รับในราคาเท่ากับผู้ค้าทั่วไป

ขณะที่นายอนุชา สุขสงวน คลังจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่สำนักงานคลังจังหวัดลำปางได้มานั้นมีอยู่ 256 เล่ม จัดสรรให้ผู้ค้า 75 คน โดยจะได้คนละประมาณ 2 เล่มครึ่ง สำหรับคนพิการที่จัดสรรให้มีจำนวน 4 คนเท่านั้น ซึ่งทางคลังจังหวัดจะให้ผู้ค้าที่ต้องการรับโควตามาลงทะเบียนไว้ หากมีผู้ค้าเก่าเสียชีวิตก็จะจัดสรรโควตาให้คนใหม่ตามลำดับที่มาลงทะเบียน โดยจะดูในส่วนของคนพิการก่อน  สำหรับการจัดจุดจำหน่ายสลากฯนั้น ทางคลังจังหวัดก็ได้มีหนังสือไปยังผู้ค้าที่ได้รับโควตาเช่นกัน อยู่ที่ความสมัครใจว่าจะมาจำหน่ายที่ศาลากลางหรือไม่ 

ทั้งนี้   โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ทางจังหวัดได้จัดสรรให้กับผู้ค้านั้นอยู่ที่ราคาใบละ 74.40 บาท ซึ่งเดิมหากขายในราคาใบละ 100 บาท ก็จะได้กำไรอยู่ใบละ 25.6 บาท 1 เล่มมีกำไรอยู่ 2,560 บาท ซึ่งผู้ค้าจะต้องขายสลากฯให้ได้ 49-50 ใบ จึงจะได้ทุนคืน ส่วนสลากฯอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือก็จะเป็นกำไรทั้งหมดที่ได้  แต่เมื่อมีนโยบายจำหน่ายในราคาใบละ 80 บาท  ผู้ค้าจะต้องขายสลากฯให้ได้จำนวน 93 ใบ จึงจะได้ทุนคืน และมีกำไรเพียง 560 บาทเท่านั้น  สำหรับสลากฯที่รับซื้อมาจากยี่ปั๊วนั้น ผู้ค้ารายหนึ่งเปิดเผยว่าซื้อมาในราคาใบละ 82 บาท ซึ่งหากนำมาขายในราคา 90 บาท จะได้กำไรใบละ 8 บาท ต่อเล่มเท่ากับ 800 บาท ถึงแม้จะซื้อมาแพงกว่าสลากฯโควตา แต่ก็ยังได้กำไรมากกว่าอยู่ดี กลุ่มผู้ค้าจึงต้องการให้ทาง คสช.แก้ปัญหาให้ถูกจุด ซึ่งมาจากกองสลากโดยตรง หากสามารถรับสลากฯมาในราคาใบละ 70 บาทได้ และนำมาขายใบละ 80 บาท ก็อาจทำให้กลุ่มผู้ค้าอยู่รอดได้

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 985 ประจำวันที่ 4 - 10 กรกฎาคม 2557)
 


Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์