ป่าไม้
เข้าตรวจยึดตรวจสอบอายัดบ้าน ที่ปลูกสร้างอำพราง กลางแปลงไร่มันสำปะหลัง
หลังพลเมืองดีแจ้งสร้างบ้านไม่เสร็จสักทีเห็นขนไม้มาอย่างต่อเนื่องนานหลายปี ขณะเดียวกันพบไม้ชิงชันกว่า
150 แผ่นเหลี่ยม ซุกป่าละเมาะ หมู่บ้านกล้วยม่วง ต.กล้วยแพะ
คาดเป็นไม้ที่ถูกลักลอบในป่า เขตติดต่อระหว่างอำเภอเมืองลำปางและอำเภอแจ้ห่ม
เตรียมขนย้ายออกนอกพื้นที่แต่เจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนักจึงนำมาซ่อนไว้
เมื่อวันที่
11 ก.ค. 57 กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มณฑลทหารบกที่ 32
ค่ายสุรศักดิ์มนตรี โดยการสั่งการของ พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต
ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.32 พ.อ.กวิน
ยาวิชัย หัวหน้ากองข่าว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.32 สั่งการให้ ร.ท.พสธร ถานี หัวหน้าชุดปฏิบัติการหน่วยทหารขนาดเล็กกองกำลัง
มทบ.32 นำ ชุดปฏิบัติการหน่วยทหารขนาดเล็กกองกำลัง 2 ชุด กองร้อยทหารสารวัตรมณฑลทหารบกที่ 32 1 ชุด
เจ้าหน้าที่ ป่าไม้ โดย นายมงคลกร เสรีกุลวิเวทย์ หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่
ลป.13 (บ้านแลง) นายประเสริฐ สันบุญเป็ง ปลัดอำเภอเมืองลำปาง
และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเสด็จ กว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบ
บริเวณป่าท้ายหมู่บ้าน กลางไร่ มันสำปะหลัง บ้านวังยวม หมู่ 10 ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ลำปาง พบว่ามีการนำไม้ประดู่ท่อน
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เซนติเมตร
แต่ละท่อนความยาวไม่ต่ำกว่า 6 เมตร ทั้งหมดรวม 16 ท่อน ฝังดินขึ้นเป็นโครงเสา เพื่อที่จะอำพรางก่อสร้างบ้าน
แต่ไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงยึดไม้ทั้งหมดทันที
จากนั้นก็เดินตรวจสอบบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร พบว่ามีการขึ้นโครงหลังคาบ้านและมีการเอาไม้มาตีแปะเป็นฝาบ้าน
บางส่วนมีการนำไม้ประดู่มาขึ้นโครงเสาข้างบ้านรอการต่อเติม
แต่ไม่พบผู้กระทำผิดคาดว่าคงจะไหวตัวหลบหนีไปได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ
จากนั้นจึงได้ประสานผู้ใหญ่บ้านวังยวม
ให้ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมด้วย และสอบถามถึงพื้นที่ดังกล่าวว่าใครเป็นผู้ครอบครอง
เบื้องต้นทราบว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่จับจอง มีการทำกิจการมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย
และมีญาตินักการเมืองท้องถิ่นเป็นเจ้าของ แต่ระหว่างนั้นไม่สามารถที่จะติดต่อได้
เพราะทั้งหมดประกอบอาชีพอยู่ กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตาม
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไม้จุดแรกทั้งหมด 16 ท่อนทันที
ส่วนจุดที่สองเจ้าหน้าที่ได้ยึดเพียงไม้ท่อนที่มีการขึ้นเสารอการต่อเติม
และไม้แปรรูปบางส่วนที่มีการตีแปะข้างฝาไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่
ลป.13 (บ้านแลง) เพื่อดำเนินการต่อไป
ต่อมาเวลา
17.00 น.วันเดียวกัน ร.ท.พสธร ถานี หัวหน้าชุดปฏิบัติการหน่วยทหารขนาดเล็กกองกำลัง
มทบ.32 นำ โดยการสั่งการของ พล.ต.อุกฤษณ์ อากาศวิภาต
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี
นำกำลังทหารและตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจกองกำกับการ 4 ปทส.พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 19 (แม่ทะ)
สนธิกำลังกว่า 30
นายเข้าตรวจค้นภายในป่าละเมาะท้ายหมู่บ้านกล้วยม่วง หมู่ 3
ต.กล้วยแพะ อ.เมือง จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีขบวนการค้าไม้
ได้นำไม้แปรรูปจำนวนมากมาซุกซ่อนไว้ภายในป่าละเมาะบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ
ซึ่งจุดดังกล่าวนั้นติดกับไร่มันสำปะหลัง
พบกองไม้จำนวน 4 กอง
ซึ่งแต่ละกองได้เอาผ้าใบมาคลุมและหักกิ่งไม้มาทับไว้เพื่ออำพรางไม่ให้ใครมาเห็น
เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็นไม้ชิงชันที่แปรรูปแล้วมีขนาดความยาวกว่า 2.50 เมตร จำนวน 155 ท่อน/เหลี่ยม
ซุกซ่อนอยู่บริเวณดังกล่าวและไม่มีผู้ใดมาแสดงตัวเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
จากการตรวจสอบโดยรอบยังพบมีร่องรอยการเข้าออกของรถยนต์ในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย
โดยสันนิษฐานว่าไม้ดังกล่าว น่าจะเป็นของขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ
ที่ลักลอบตัดมาจากพื้นที่เขตติดต่อระหว่าง อ.แจ้ห่ม และ อ.เมือง จ.ลำปาง ที่ถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างหนัก
อีกทั้งตลอดทั้งวันทางเจ้าหน้าทีได้เข้าพื้นที่กดดันในหมู่บ้านเป้าหมาย
และพบว่ามีการลักลอบเอาออกไปแล้วบางส่วน และคาดว่าน่าจะมาซุกซ่อนที่บริเวณจุดนี้
เพื่อเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่
สำหรับไม้ชิงชันเป็นไม้ตระกูลเดียวกับไม้พยูง
ซึ่งเอาไปทดแทนไม้พยุงได้
มีราคาซื้อขายกันในตลาดของประเทศเพื่อนบ้าน(จีน)กิโลกรัมละ 15,000 20,000 บาท แต่ในพื้นที่จะอยู่ที่ 2,00-4,000
บาท ทำให้มอดไม้ทะลักเข้ามาลักลอบตัดไม้ชิงชันในพื้นที่ภาคเหนือ
เพื่อเอาไปทดแทนไม้พยุงในพื้นที่ภาคอีสานที่หายากขึ้นเรื่อยๆ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 987 ประจำวันที่ 18 - 24 กรกฎาคม 2557)
