วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ปตท. เล็งลำปาง ศูนย์ใหญ่โลจิสติกส์



นายไชยันต์ ปราบนคร ผู้จัดการฝ่ายคลังปิโตรเลียมส่วนภูมิภาค บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวลานนาโพสต์ในโอกาสเดินทามาร่วมพิธีเปิดงาน ค่ายเยาวชนก๋องปู่จา ปีที่ 12 ณ คลังปิโตรเลียมลำปาง ปตท. เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2557 ว่า ตามที่ ปตท.ได้ร่วมกับจังหวัดลำปางและสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปางจัดโครงการค่ายเยาวชน ปตท.อนุรักษ์ประเพณีตีก๋องปู่จา มาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 12 นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่ ปตท.มีส่วนร่วมในการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นให้อยู่คู่กับชาวลำปาง เพราะก๋องปู่จาของลำปาง มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ต้องรักษาไว้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมด้านความรับผิดชอบสังคมอื่นๆอีก เช่นการสร้างสวนสุขภาพ พื้นที่ 21 ไร่ติดกับคลังปิโตรเลียมลำปางให้เป็นที่พักผ่อนและออกกำลังกาย โครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้ความรู้ด้านความปลอดภัยในการใช้ก๊าซหุงต้มในครัวเรือน ทุนการศึกษาและอื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม

"ในด้านของการดำเนินงานและให้บริการของคลังปิโตเลียมลำปางยังมุ่งเน้นการตอบสนอง 

นโยบายTAGNOC  (Technological Advanced and Green National Oil Company)คือมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติที่มีความก้าวหน้าทางวิทยาการใช้เทคโนโลยีและพลังงานที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ซึ่งนโยบายนี้เชื่อมโยงทุกส่วนทั้งภาคธุรกิจและสังคมสิ่งแวดล้อมให้อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน" 

นอกจากนี้ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของแนวทางการให้บริการของคลังปิโตรเลียมลำปาง ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการก้าวเข้าสู่อาเซียน และแนวทางการพัฒนาศักยภาพของจังหวัดลำปางให้เป็นศูนย์กลางคมนาคม และการขนส่งหรือโลจิสติกส์ ของภาคเหนือกับเส้นทางสายอาเซียน ซึ่งเรื่องนี้ นายไชยันต์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมีความเห็นว่าในอนาคตลำปางจะเป็นศูนย์กลางที่น่าสนใจ เพราะโดยภูมิศาสตร์เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงหลายจังหวัดในภาคเหนือ เช่นเดียวกับที่ตั้งของคลังปิโตรเลียมลำปางซึ่งตั้งขึ้นตามแนวยุทธศาสตร์การทหารที่อาศัยหลักภูมิศาสตร์ สะดวกต่อการคมนาคมขนส่ง แต่ด้วยความเจริญทำให้เกิดชุมชนหนาแน่นใกล้เขตคลังฯ เหมือนว่าปัจจุบันคลังตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนหนาแน่น แต่ด้วยระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลที่ ปตท.ให้ความสำคัญทุกตารางนิ้ว ทำให้คลังฯเป็นศูนย์กลางการเก็บน้ำมันและก๊าซที่มีความปลอดภัยสูงเปิดกว้างให้ประชาชนและทุกฝ่ายเข้ามาดูระบบได้อย่างมั่นใจ 

"ปตท.เป็นหน่วยงานขั้นปฏิบัติ แต่นโยบายและการกำหนดราคาถูกกำหนดโดยกระทรวงพลังงาน และกระทรวงพาณิชย์ ดังนั้นในฐานะผู้ให้บริการเราให้ความสำคัญทุกเรื่องโยเฉพาะ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับชุมชนและสิ่วแวดล้อม ในอนาคต ระยะยาว ผมเชื่อว่า ทางบอร์ดระดับนโยบายจะมีการศึกษาพิจารณาการย้ายคลังปิโตรเลียมลำปาง เพราะขณะนี้เริ่มมีการศึกษาเส้นทางการวางท่อจากจังหวัดสระบุรี มาที่กำแพงเพชร เพื่อรองรับการสำรองพลังงานมายังภาคเหนือ ซึ่งเป็นแผนระดับนโยบาย ยังอยู่ในขั้นศึกษา สำรวจ ในส่วนของลำปาง ก็ยังมีการศึกษาที่เกี่ยวข้องหลายด้าน รวมถึงโครงการสถานีจ่ายพลังงานขนาดใหญ่ ที่จะรองรับการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ลำปาง ทางปตท.ก็พอจะได้รับทราบข้อมูลจากจังหวัดลำปางบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลความชัดเจนของนโยบาย จังหวัดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนอย่างไร จึงจะมีผลการพิจารณาระดับนโยบายของปตท.ในอนาคตให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน" นายไชยันต์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในกรณีนี้ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และหารืออย่างไม่เป็นทางการถึงแนวทางการผลักดันให้เกิดสถานีจ่ายพลังงาน ทั้งน้ำมัน ก๊าซ LPG และ NGV เพื่อรองรับศูนย์กลางโลจิสติกส์ หรือขนส่งทางบกที่ลำปางรองรับโอกาสจากการเปิดประชาคมอาเซียน โดยสถานีจ่ายพลังงานขนาดใหญ่ จะต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 20 ไร่ ส่วนคลังปิโตรเลียมในอนาคต ในภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จังหวัดใด จะต้องมีพื้นที่รองรับอย่างน้อย 200 ไร่ เพื่อใช้สำหรับระบบคลัง ระบบความปลอดภัยและการสร้างระบบธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบคลังฯ 

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังเป็นกระเด็นที่อยู่ในความสนใจของคนลำปาง เนื่องจากยังมีการตั้งข้อสังเกตในด้านความปลอดภัยของคลังปิโตรเลียมซึ่งทาง ปตท.ระบุว่า หากฝ่ายใดมีข้อมูลหรือสงสัยและต้องการสอบข้อมูลด้านระบบความปลอดภัยในคลังปิโตรเลียมทาง ปตท.ยินดีเปิดให้เข้าชมระบบความปลอดภัยทุกส่วนเพื่อยืนยันว่า ความปลอดภัยสูงสุดแม้ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนก็ตาม 


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 985 ประจำวันที่ 4 - 10 กรกฎาคม 2557)

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์