ความเป็นนายกฯ เริ่มนาทีแรกที่ศาลตัดสิน กิตติภูมิเผยเสียดายที่ประชาชนเสียโอกาส
กลับมาคราวนี้ต้องกวาดบ้านให้เรียบ โละทีมบริหารตามวิธี “ปลด ปรับ เปลี่ยน”
นายกิตติภูมิ
นามวงค์ เปิดบ้านจัดงานเลี้ยงอย่างครึกครื้น
หลังจากทราบผลการพิพากษาของศาล สั่งยกคำร้องคดีใบแดง
โดยมีกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น และประธานชุมชนต่างๆในเขตเทศบาลนครลำปาง
เดินทางมาแสดงความยินดีกันจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานและอบอุ่น
ลานนาโพสต์ติดตามความคืบหน้าของนายกิตติภูมิ
นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง
เมื่อทราบผลคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงใหม่ ยกฟ้องคดี
หลังจากที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปนานถึง 4 เดือน และได้กลับมาทำหน้าที่อย่างภาคภูมิอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า
ศาลตัดสินว่าอย่างไรบ้าง นายกิตติภูมิ
กล่าวว่า ได้มีสมาชิกสภาเทศบาลนคร ร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายการหาเสียง เรื่องทุนส่งเสริมการเรียน
แต่ กกต.ชุดนางสดศรี สัตยธรรม
ได้ยกคำร้องไปแล้ว แต่ได้มีการยื่นร้องไปอีกเป็นครั้งที่ 2
จึงมีการหยิบประเด็นนี้มาพิจารณาใหม่ ในการให้ใบแดงครั้งนี้
ศาลพิพากษาออกมาว่า
ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ผู้ร้องมีสิทธิร้องซ้ำได้ แต่ในการพิจารณาความได้ยึดเอาหลักสากล
ว่าเรื่องใด มูลเหตุใด เป็นเรื่องเดียวกัน ต้องรวมให้อยู่ในประเด็นเดียวกัน
เมื่อได้รับการตัดสินไปแล้วไม่ให้นำมาพิจารณาตัดสินซ้ำอีก ดังนั้นเรื่องดังกล่าวเมื่อมีการตัดสินซ้ำ
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จึงยกคำร้อง
นายกิตติภูมิ
กล่าวกับลานนาโพสต์ว่า “ความเป็นนายกเทศมนตรีของผมได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.
เวลา 10.00 น. หลักจากที่ศาลตัดสินแล้ว” ตอนนี้เรื่องร้องเรียนต่างๆจบหมดแล้ว
ก็กลับมาทำงานตามกระบวนการบริหารจัดการ
และจะเริ่มทำงานวันที่ 31 ก.ค. แต่ยังไม่เซ็นหนังสือ
ต้องรอหนังสือจากทางศาลแจ้งมาอย่างเป็นทางการก่อน
เมื่อสอบถามถึงช่วงที่ต้องหยุดทำงานไปนานเป็นอย่างไร นายกิตติภูมิ กล่าวว่า 4
เดือนที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ผมได้พักผ่อนเต็มที่ ผมไม่ได้เสียโอกาสในการทำงาน
แต่ประชาชนต่างหากที่เสียโอกาส 1 ปีที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างทุ่มเท
ภารกิจต่างๆเดินไปในทิศทางที่ดีและเห็นชัดเจน
สามารถอธิบายเรื่องความตั้งใจได้
แต่เมื่อหยุดปฏิบัติหน้าที่ โครงการต่างๆหยุดชะงักหมด
กลับมาก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่
แต่เวลาอีก 2 ปีกว่าที่เหลือ
ก็ยังมีเพียงพอที่จะทำงานให้ลุล่วงไปได้
ทั้งนี้การทำงานก็ยังมีอุปสรรคเพราะสมาชิกสภาเทศบาลอยู่คนละกลุ่ม คนละขั้วการเมือง
กระบวนการตรวจสอบถ้าเป็นไปตามข้อกฎหมายและสร้างสรรค์ก็คงไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้ามีเกมการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องก็คงจะเดินหน้าไปไมได้มากนัก ประชาชนก็ต้องจับตาดูเองว่า
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจะเป็นอย่างไร ถูกใช้เป็นเกมการเมืองหรือไม่
สำหรับกระแสข่าวที่จะมีการเปลี่ยนทีมบริหารใหม่ นายกเทศมนตรี กล่าวว่า กลับมาครั้งนี้มีการปรับทีมบริหารแน่นอน
ที่ผ่านมาบางเรื่องบางคนก็ทำงานเข้าตา บางเรื่องบางประเด็นก็ยังจะปรับปรุงก็มี
ตามวิธี ปลด ปรับ เปลี่ยน
เหตุผลในการกระทำครั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่นำเรื่องส่วนตัวมาเป็นที่ตั้ง สิ่งที่จะทำอย่างแรกเลยในการกลับมาทำงานอีกครั้งคือ ต้องทำความสะอาดบ้านก่อน ทีมบริหารต้องปรับให้ชัดเจนก่อนที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยกันได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 989 ประจำวันที่ 1 - 7 สิงหาคม 2557)