กำลังเจ้าหน้าหลายภาคส่วนสนธิกำลังเข้าลายไร่กัญชาสด
ในพื้นที่ อ.งาว จ.ลำปาง น้ำหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม
มีทั้งตรวจยึดเพื่อส่งดำเนินคดีและเผาทำลายในที่เกิดเหตุ
เมื่อวันที่ 14
ต.ค. 57 ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 07.00
น.ภายใต้การอำนวยสั่งการของ พ.ต.อ.ปรีชา วังปรีชา ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่
33 ค่ายสมเด็จพระบรมราชชนนี เชียงใหม่ ได้สั่งการให้
พ.ต.ท.ภูษิต กฤษสมัย ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ .333 หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพิเศษ ร.ต.อ.อรุณศักดิ์ ทารักษ์
รองหัวหน้าชุดฯ ประสาน พ.ต.ท.จรัญ คำปา รอง ผกก.สืบสวน สภ.งาว ร.อ.เศรษฐดุษิต
บางศรี นายทหารฝ่ายการข่าว ศูนย์ฝึกรบพิเศษที่ 3
ค่ายประตูผา ร.ต.สมนึก วงศ์สาไฮ
หัวหน้าชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว กรมทหารพรานที่ 31
กองทัพภาคที่ 3
ตำรวจ ศปทส.5 กำลังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท กำนันตำบลบ้านหวด ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ จำนวน 50 นาย เข้าร่วมปฏิบัติการตัดและทำลายพืชเสพติด(ไร่กัญชา)จำนวนมากหลายแปลง
ทั้งนี้จากการวางสายข่าวของ ตชด.33เข้าหาข่าวภายในพื้นที่บ้านปางหละ
ต.แม่หวด อ.งาว จ.ลำปาง
หลังจากก่อนหน้านั้นในวันที่ 2 -3 ต.ค.57 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดฯนี้ได้เข้าบุกตัดทำลายไร่กัญชาจำนวนหนึ่งได้ของกลางน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัม
การเดินทางต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อของชุดปฏิบัติการร่วมขับขึ้นเขาเป็นระยะทางกว่า
10กิโลเมตร แล้วเดินเท้าต่อเข้าไปอีก 8
กิโลเมตรที่บริเวณลำห้วยผีบ้า
หลังหมู่บ้านห้วยน้ำรินด้านหลังศูนย์บริบาลช้าง(บ้านปางหละ)
หลังผ่านหมู่บ้านห้วยน้ำรินก่อนถึงไร่กัญชาทางชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพิเศษ
ร่วมได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ปลูกกัญชาจำนวนสองหลังพบ
ปืนแก๊ปหนึ่งกระบอก
พร้อมเครื่องกระสุน
จึงยึดไว้แล้วเดินทางต่อไปพื้นที่เป้าหมายพบมีการลักลอบปลูกกัญชาเป็นบริเวณ
กว้าง
แต่มีการปลูกไว้เป็นหย่อมๆในไร่พริกและมะแหลบ
สังเกตเห็นได้ยากมากหากมองจากเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ
2
ไร่
ทางเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจร่วมได้ใช้เครื่อง GPS ตรวจดูพบตั้งอยู่พิกัดที่
NA 8871950736 จากการตรวจสอบพบต้นกัญชามีขนาดโตเต็มที่ออกดอกเต็มพื้นที่มีความสูงประมาณ
1.60 เมตรถึง 2.20 เมตร
สามารถตัดนำไปคัดแยกเพื่อจำหน่ายได้
บางต้นมีการใช้เชือกฟางสีแดงมัดทำเครื่องหมายไว้เพื่อที่จะเก็บเอาไว้ทำเมล็ดพันธ์ปลูกขายในปีหน้า
หลังจากนั้นให้ทางเจ้าหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมได้ตัดต้นกัญชารวมทั้งหมด
620 ต้น 620 กิโลกรัมแต่สามารถขนย้ายมาเป็นของกลางจำนวน 120
ต้น 120 กิโล ส่วนที่เหลืออีก 500 ต้น 500 กิโลกรัม
ไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกมาข้างนอกต้องทำการสุมเผาทำลายกลางแปลงกัญชาของกลางทั้งหมดที่กลางป่าส่วนของกลางมี
ปืนแก๊ป เครื่องกระสุน และกัญชาจำนวน 120 กิโลกรัมนำส่งมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.งาว ลงบันทึกคดีประจำวันเพื่อเสาะหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1000 ประจำวันที่ 17 - 23 ตุลาคม 2557)
