วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วิวสองเพศแสบ ฉกเงินทำบุญ ปฏิเสธแต่วงจรปิดมัด


รวบ “วิวสองเพศ” ลักซองกฐินในวัด ซุกกระเป๋าสะพาย เจ้าอาวาสบอกเคยเข้ามาทำทีขอทำบุญ 2-3 ครั้งแล้ว ทุกครั้งซองผ้าป่าซองกฐินก็หายไปด้วยแต่เอาผิดอะไรไม่ได้ เลยจ้างช่างมาติดกล้อง CCTV จ้องจับผิดจนได้ตัว

เมื่อเวลา 12.00น.วันที่ 6 ต.ค.57 พ.ต.ต.ไกรสร ไชยอินทร์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งจากพระมหาวัฒนา สุวุฑฺโฒ เจ้าอาวาสวัดพิชัย ม.1 ต.พิชัย องเมืองลำปาง ว่า ทางวัดได้ได้จับตัวคนร้ายที่เข้ามาขโมยซองกฐินไว้ได้ 1 คน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปทำการสอบสวนด้วย หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.พิชัย รีบออกไปทำการสอบสวน พบชาวบ้านกลุ่มใหญ่ช่วยกันควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อคือ นายกฤตภัค หรือ  วิว ดวงไชย อายุ 32 ปี อยู่หมู่บ้านที่ 137/2 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง พร้อมของกลางซองกฐิน จำนวน 3 ซองรวมเป็นเงิน 230 บาท
      
จากการสอบถาม เจ้าอาวาสวัดพิชัย ทราบว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 เดือนมาแล้ว นายกฤตภัต ได้ทำทีเข้ามาหาอาตมาเพื่อขอบวชเป็นพระ แต่เมื่อสอบถามประวัติดูแล้วพบว่านายกฤตภัค พูดจาไม่น่าเชื่อถือ แต่หลังจากที่นายวิว ออกจากวัดไปแล้วจึงได้พบว่าซองผ้าป่าที่เก็บไว้ในกุฏิหายไปด้วยแต่ไม่สามารถจับมือใครดมได้เพราะไม่มีหลักฐาน ต่อมาทางวัดจึงได้ให้ช่างมาทำการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้คอยตรวจสอบผู้ที่เข้ามาในวัด กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา นายกฤตภัค ก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีบอร์นเงิน ทะเบียน ขนง 765 ลำปาง เข้ามาในวัดอีกและถือหลอดไฟฟ้ามาติดมือด้วย ก่อนจะเดินไปที่กุฏิของอาตมา เมื่อผู้ช่วยเจ้าอาวาสเห็นดังนั้นก็จำได้เลยเข้าไปสอบถาม ซึ่งนายกฤตภัคก็ว่าจะนำหลอดไฟมาถวายวัดเพื่อทำบุญ จากนั้นก็ให้นายวิว รอนั่งรอเจ้าอาวาสในกุฏิ แต่นายวิวก็รอได้ไม่นานก็รีบออกจากวัดไป และเมื่อทางวัดเข้าไปตรวจสอบในกุฏิพบว่าซองกฐินที่เก็บไว้บนโต๊ะทำงานก็หายไปด้วย จึงได้ไปตรวจดูภาพในกล้องฯ ก็พบว่าผู้ที่ขโมยซองกฐินไปคือนายกฤตภัค แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผู้ก่อเหตุออกจากวัดไปนานแล้ว กระทั้งมาวันนี้นายวิวก็ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัดอีกพร้อมกับขออนุญาตกับทางผู้ช่วยเจ้าอาวาสเข้าไปในวิหารเพื่อไหว้พระ ซึ่งทางพระสงฆ์ก็ทำทีอนุญาตให้เข้าไปได้ แต่ก็แอบประสานผู้ใหญ่บ้านพิชัย และคณะกรรมการวัดมาช่วยกันล้อมเอาไว้ พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการสอบสวนดังกล่าว
    
 และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจค้นในกระเป๋าสะพาย ก็พบซองปัจจัย 2 ซองอยู่ในกระเป๋า แต่นายกฤตภัคก็ยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธว่าไม่ได้เข้ามาขโมยของอะไร ทางวัดจึงชวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบภาพในกล้อง CCTV  ปรากฏว่าในภาพเห็นนายกฤตภัคได้หยิบซองปัจจัยใส่ในกระเป๋าสะพายตั้งใจเข้ามาขโมยซองปัจจัยจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้คุมตับกลับไปทำการสอบสวนพร้อมตั้งข้อหา ลักทรัพย์ในเขตอภัยทานต่อไป

สำหรับผู้ต้องหารายนี้ เคยโด่งดังมาแล้วเมื่อปี 2555  โดยเข้าพบกับสื่อมวลชนท้องถิ่นและสื่อส่วนกลาง เพื่อประกาศหาผู้ใจบุญช่วยบริจาคเงินค่าผ่าตัดแปลงเพศ เนื่องจาก นายนายกฤตภัต อ้างว่าตนเองเกิดมามีอวัยวะเพศชายและหญิงอยู่ในร่างเดียวกัน ทำให้มีความทุกข์ทรมานเป็นชายก็ไม่ใช่ เป็นหญิงก็ไม่เชิง และข่าวโด่งดังไปทั่วทำให้มีสื่อทีวีหลายช่องต่างก็จ้องตัวนายวิว ไปออกรายการจนดังกระฉ่อนไปทั่ว แต่ภายหลังผู้ปกครองของนายกฤตภัคออกมาแก้ข่าวว่า น้องวิว เกิดมาก็เป็นเพศหญิง แต่เจ้าตัวอยากจะเป็นชายจึงพยายามแต่งเนื้อ แต่งตัวให้เป็นชายมาโดยตลอด อีกทั้งยังแอบไปทำศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศให้มีอวัยวะยังทั้งสองเพศในร่างเดียวกันเพื่อหลอกลวงชาวบ้าน ทำให้ทั้งพ่อและแม่เกิดความไม่สบายใจในการกระทำของลูกสาวจึงได้ออกมาเปิดเผยเรื่องทั้งหมดให้ชาวบ้านทราบ จากนั้นเรื่องของน้องวิวก็เงียบหายไปนาน จนมาเมื่อปี 2557 น้องวิวก็ไปก่อเหตุลักจอคอมพิวเตอร์จากร้านอินเตอร์เน็ตหน้า ม.ราชภัฏลำปาง ทางผู้เสียหายจึงไปแจ้งความดำนินคดี แต่พ่อของน้องวิวก็สามารถไกล่เกลี่ยจนยอมความกันได้ และเรื่องของน้องวิวก็เงียบหายไปอีก กระทั่งมาก่อเหตุเข้าไปลักซองกบินในวัดสามัคคีดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 999 ประจำวันที่ 10 - 16  ตุลาคม  2557)


Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์