รวบ
“วิวสองเพศ” ลักซองกฐินในวัด ซุกกระเป๋าสะพาย เจ้าอาวาสบอกเคยเข้ามาทำทีขอทำบุญ
2-3 ครั้งแล้ว ทุกครั้งซองผ้าป่าซองกฐินก็หายไปด้วยแต่เอาผิดอะไรไม่ได้
เลยจ้างช่างมาติดกล้อง CCTV
จ้องจับผิดจนได้ตัว
เมื่อเวลา
12.00น.วันที่ 6 ต.ค.57 พ.ต.ต.ไกรสร
ไชยอินทร์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งจากพระมหาวัฒนา
สุวุฑฺโฒ เจ้าอาวาสวัดพิชัย ม.1 ต.พิชัย องเมืองลำปาง ว่า
ทางวัดได้ได้จับตัวคนร้ายที่เข้ามาขโมยซองกฐินไว้ได้ 1 คน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปทำการสอบสวนด้วย
หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.พิชัย รีบออกไปทำการสอบสวน
พบชาวบ้านกลุ่มใหญ่ช่วยกันควบคุมตัว
ผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อคือ นายกฤตภัค หรือ วิว
ดวงไชย อายุ 32
ปี อยู่หมู่บ้านที่ 137/2 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง
พร้อมของกลางซองกฐิน จำนวน 3 ซองรวมเป็นเงิน 230 บาท
จากการสอบถาม
เจ้าอาวาสวัดพิชัย ทราบว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 เดือนมาแล้ว นายกฤตภัต
ได้ทำทีเข้ามาหาอาตมาเพื่อขอบวชเป็นพระ แต่เมื่อสอบถามประวัติดูแล้วพบว่านายกฤตภัค
พูดจาไม่น่าเชื่อถือ แต่หลังจากที่นายวิว ออกจากวัดไปแล้วจึงได้พบว่าซองผ้าป่าที่เก็บไว้ในกุฏิหายไปด้วยแต่ไม่สามารถจับมือใครดมได้เพราะไม่มีหลักฐาน
ต่อมาทางวัดจึงได้ให้ช่างมาทำการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้คอยตรวจสอบผู้ที่เข้ามาในวัด
กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา นายกฤตภัค ก็ขับขี่รถจักรยานยนต์
ยี่ห้อ ฮอนด้า สีบอร์นเงิน ทะเบียน ขนง 765 ลำปาง
เข้ามาในวัดอีกและถือหลอดไฟฟ้ามาติดมือด้วย ก่อนจะเดินไปที่กุฏิของอาตมา
เมื่อผู้ช่วยเจ้าอาวาสเห็นดังนั้นก็จำได้เลยเข้าไปสอบถาม ซึ่งนายกฤตภัคก็ว่าจะนำหลอดไฟมาถวายวัดเพื่อทำบุญ
จากนั้นก็ให้นายวิว รอนั่งรอเจ้าอาวาสในกุฏิ
แต่นายวิวก็รอได้ไม่นานก็รีบออกจากวัดไป และเมื่อทางวัดเข้าไปตรวจสอบในกุฏิพบว่าซองกฐินที่เก็บไว้บนโต๊ะทำงานก็หายไปด้วย
จึงได้ไปตรวจดูภาพในกล้องฯ ก็พบว่าผู้ที่ขโมยซองกฐินไปคือนายกฤตภัค แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผู้ก่อเหตุออกจากวัดไปนานแล้ว
กระทั้งมาวันนี้นายวิวก็ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัดอีกพร้อมกับขออนุญาตกับทางผู้ช่วยเจ้าอาวาสเข้าไปในวิหารเพื่อไหว้พระ
ซึ่งทางพระสงฆ์ก็ทำทีอนุญาตให้เข้าไปได้ แต่ก็แอบประสานผู้ใหญ่บ้านพิชัย
และคณะกรรมการวัดมาช่วยกันล้อมเอาไว้ พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการสอบสวนดังกล่าว
และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจค้นในกระเป๋าสะพาย ก็พบซองปัจจัย
2 ซองอยู่ในกระเป๋า แต่นายกฤตภัคก็ยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธว่าไม่ได้เข้ามาขโมยของอะไร
ทางวัดจึงชวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบภาพในกล้อง CCTV ปรากฏว่าในภาพเห็นนายกฤตภัคได้หยิบซองปัจจัยใส่ในกระเป๋าสะพายตั้งใจเข้ามาขโมยซองปัจจัยจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้คุมตับกลับไปทำการสอบสวนพร้อมตั้งข้อหา
ลักทรัพย์ในเขตอภัยทานต่อไป
สำหรับผู้ต้องหารายนี้
เคยโด่งดังมาแล้วเมื่อปี 2555
โดยเข้าพบกับสื่อมวลชนท้องถิ่นและสื่อส่วนกลาง
เพื่อประกาศหาผู้ใจบุญช่วยบริจาคเงินค่าผ่าตัดแปลงเพศ เนื่องจาก นายนายกฤตภัต
อ้างว่าตนเองเกิดมามีอวัยวะเพศชายและหญิงอยู่ในร่างเดียวกัน ทำให้มีความทุกข์ทรมานเป็นชายก็ไม่ใช่
เป็นหญิงก็ไม่เชิง และข่าวโด่งดังไปทั่วทำให้มีสื่อทีวีหลายช่องต่างก็จ้องตัวนายวิว
ไปออกรายการจนดังกระฉ่อนไปทั่ว แต่ภายหลังผู้ปกครองของนายกฤตภัคออกมาแก้ข่าวว่า
น้องวิว เกิดมาก็เป็นเพศหญิง แต่เจ้าตัวอยากจะเป็นชายจึงพยายามแต่งเนื้อ
แต่งตัวให้เป็นชายมาโดยตลอด อีกทั้งยังแอบไปทำศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศให้มีอวัยวะยังทั้งสองเพศในร่างเดียวกันเพื่อหลอกลวงชาวบ้าน
ทำให้ทั้งพ่อและแม่เกิดความไม่สบายใจในการกระทำของลูกสาวจึงได้ออกมาเปิดเผยเรื่องทั้งหมดให้ชาวบ้านทราบ
จากนั้นเรื่องของน้องวิวก็เงียบหายไปนาน จนมาเมื่อปี 2557 น้องวิวก็ไปก่อเหตุลักจอคอมพิวเตอร์จากร้านอินเตอร์เน็ตหน้า
ม.ราชภัฏลำปาง ทางผู้เสียหายจึงไปแจ้งความดำนินคดี แต่พ่อของน้องวิวก็สามารถไกล่เกลี่ยจนยอมความกันได้
และเรื่องของน้องวิวก็เงียบหายไปอีก กระทั่งมาก่อเหตุเข้าไปลักซองกบินในวัดสามัคคีดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 999 ประจำวันที่ 10 -
16 ตุลาคม 2557)