ลุงวัย
65 ปี ชาวอำเถินเจอแก๊งมิจฉาชีพบนถนนสายลำปาง-เกาะคา
พยายามขับรถเบียดให้ชนรถของพวกเดียวกัน ก่อนจะลงมาโวยวาย และเรียกร้องค่าเสียหาย
เหยื่อไหวทันบอกจะแจ้งตำรวจให้มาช่วยเจรจา กลุ่มมิจฉาชีพเห็นท่าไม่ดีจึงรีบขับรถหนีออกไปทันที
ฝากเตือนระวังผู้ใช้รถระวังไว้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าว
ได้รับการร้องเรียนจากนายวิรัช รัฐอุบล
วัย 65 ปี เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ภาคอีสาน
แต่มามีครอบครัวอยู่ที่ อ.เถิน จ.ลำปาง ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่
5 ต.ค. 2557 ที่ผ่านมา ตนพร้อมภรรยา ซึ่งเป็นชาวบ้านหมู่
2 ต.ล้อมแรด อ.เถิน ได้ขับรถยนต์ปิกอัพอีซูซุแค๊ป สีเทาดำ
หมายเลขทะเบียน บง 1810 ลำปาง ออกมาจากบ้าน
โดยมีจุดมุ่งหมายว่าจะไปหาซื้อของที่ตลาดทุ่งเกวียน อำเภอห้างฉัตร
เพื่อจะเอาไปฝากญาติพี่น้องที่ จ.อุบลราชธานี
แต่ระหว่างที่ขับรถยนต์มาถึงเขตอำเภอเกาะคา
เลยตู้ยามหลังเทินมาไม่ไกลนัก ได้สังเกตเห็นว่ามีรถยนต์เก๋งจำรุ่นไม่ได้
สีน้ำเงินทะเบียนจังหวัดร้อยเอ็ด จอดชะลออยู่ถนนข้างซ้าย
แต่พอรถยนต์ของตนขับผ่านมา รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวซึ่งมีชายวันรุ่นเป็นคนขับ
และมีหญิงสาวนั่งข้างคู่กันมา ได้ขับแซงหน้ารถยนต์ของตนเองไป พอห่างจากรถตนเองไม่ไกล
รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวก็ได้ชะลอความเร็วแอบข้างซ้าย
ซึ่งขณะนั้นตนเองและภรรยาเห็นว่าผิดสังเกต แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ได้ขับรถยนต์ไปตามถนนเรื่อยๆ กระทั่งจู่ ได้มีรถยนต์ซึ่งจำยี่ห้อและรุ่นไม่ได้สีขาว
ได้ขับมาทางด้านหลังและเร่งเครื่องมาประกบข้างรถตน จากนั้นก็เบียดรถยนต์ที่ตนขับอยู่จนต้องหักหลบมาข้างซ้ายจน
ทำให้รถไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์เก๋งอีกคันที่คาดว่าน่าจะเป็นพวกเดียวกันกับรถยนต์ที่เบียดรถของตน
ขณะที่ตนเองหักหลบนั้นก็รู้สึกได้ว่ารถส่วนท้ายไปเฉี่ยวกับรถของชายหนุ่มดังกล่าวไม่แรงมาก
นาย
วิรัช เล่าต่อไปว่า หลังมีการเฉี่ยวชนกัน
ตนจึงได้ชะลอความเร็วและนำรถจอดข้างทาง
ซึ่งก็มีรถยนต์เก๋งคันสีน้ำเงินตามมาจอดหลังรถตนและทำทีลงมาดูรถ
และบอกกับตนเองว่าทำให้รถยนต์เก๋งของชายหนุ่มคนดังกล่าวได้รับความเสียหาย
ซึ่งตนก็ได้ตรวจดูรถของตนก็มีรอยถลอกเพียงนิดเดียวเท่านั้น
แต่พอไปดูรถของหนุ่มคู่กรณีกลับยืนยันว่ารถของตนเองนั้นมีรอยถลอกเสียหาย
เป็นทางยาว
เห็นว่าเป็นเฉี่ยวชนเก่าซึ่งอาจจะเกิดมานานแล้วจึงโต้เถียงกันอยู่พักใหญ่
ภายหลังชายหนุ่มเจ้าของรถยนต์เก๋งคู่กรณี
ก็พูดขึ้นมาว่าไม่อยากจะให้เรื่องถึงประกัน ขอให้ตนเองจ่ายเป็นเงินสดมา 3,000 บาท ขณะนั้นตนเกิดคิดได้ว่าเรื่องราวลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในท้องที่ภาคอีสานมาก่อน
จึงไม่ได้ควักเงินจ่ายให้แต่อย่างใด แต่บอกคู่กรณีว่าขอโทรแจ้งตำรวจให้ทราบ
พอชายหนุ่มคนนั้นเห็นตนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็รีบเดินไปขึ้นรถและขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว
โดยทางนายวิรัช กล่าวว่า
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็คิดว่าต้องเป็นกลุ่มมิจฉาชีพแน่นอน
เพราะมักจะเลือกเอาเหยื่อที่เป็นคนมีอายุ หรือเป็นผู้หญิง
ดังนั้นจึงขอฝากเตือนผู้ใช้รถ ใช้ถนนในเส้นทางสายนี้ของลำปางด้วยให้ระมัด ระวัง
หากเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ควรจะแจ้งให้ทางตำรวจทราบ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1000 ประจำวันที่ 17 - 23 ตุลาคม 2557)
