วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ข้างนอกจ่าย20ข้างในจ่าย900


ชักหน้าไม่ถึงหลัง ผู้ค้าตลาดหลักเมืองครวญ ค่าเช่าแพง  เมื่อรายได้ที่ค้าขายไม่พอต้องหาทางออกด้วยการกู้เงินเพื่อมาหมุนเวียนใช้ และลงทุนค้าขาย
           
ปัญหาการร้องเรียนเรื่องค่าแป๊ะเจี๊ยะและค่าเช่าพื้นที่ค้าขายในตลาดหลักเมืองเกิดขึ้น หลังจากตลาดใหม่มูลค่า 76 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2555  กระทั่งมีการฟ้องร้องไปถึงศาลปกครอง แต่กลุ่มผู้ค้าก็ไม่อาจทนรอฟังผลได้ ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อเข้ามาค้าขาย เพราะไม่อยากถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากทุกคนต้องทำมาหากินเลี้ยงตัวเองและครอบครัว กระทั่งระยะเวลาผ่านมาถึง 3 ปีแล้ว ปัญหานี้ก็ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้กับปัญหาค่าเช่าพื้นที่ที่แพงเกินรายได้ของผู้ค้า ทำให้กลุ่มผู้ค้าต้องรวมตัวกันคัดค้านการต่อสัญญาในครั้งที่ 2  และยื่นข้อเสนอขอลดค่าเช่าลง เนื่องจากที่ผ่านมาค้าขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร
           
เช่นเดียวกับ นางอำไพ ขัดถิพงษ์ อายุ 52 ปี แม่ค้าขายผัก ซึ่งค้าขายมาหลายสิบปี ตั้งแต่ยังเป็นตลาดเก่า  ที่กลัวว่าจะต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังต้องมีค่าต่อสัญญาอีกรายละไม่ต่ำกว่า 7,000 บาท เผยว่า  พ่อค้าแม่ค้าต้องทำสัญญาเช่าตลาดทุก 3 ปี  โดยตนได้เช่าโต๊ะขายผักในราคาเดือนละ 900 บาท  เมื่อใกล้ครบสัญญา 3 ปี ในวันที่ 30 ต.ค.58 นี้ ทางเทศบาลได้มีจดหมายส่งไปที่บ้าน พร้อมหนังสือตอบรับแจ้งความประสงค์ในการต่อสัญญาเช่ามาให้ โดยให้ส่งกลับทางจดหมายไปยัง ผอ.กองคลัง เทศบาลนครลำปาง  รวมทั้งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่มาเก็บค่าเช่าว่าต้องมีการจ่ายค่าเช่าเพิ่มขึ้นอีก 3 เปอร์เซ็นต์ และต้องจ่ายค่าประกันสัญญา ค่าตอบแทนการต่ออายุสัญญา ค่าตอบแทนการโอนสิทธิการเช่า อีกมากมาย
           
นางอำไพ กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้ตนเองขายผักราคามัดละ 5-10 บาท จะขายราคาสูงก็ไม่ได้ ทั้งที่ผักบางชนิดก็มีต้นทุนมาสูง บางครั้งต้องนั่งเฝ้าทั้งวันกว่าจะขายได้หลักร้อย เงินที่ได้มาก็ต้องนำไปหมุนเวียนซื้อผักมาขายใหม่ ผักที่เหลือเก็บไว้นานก็ไม่ได้ ถ้าเหี่ยวเฉาไปเอามาขายก็ไม่มีใครซื้อ  ลำพังเพียงเงินที่ได้จากการค้าขายก็ไม่เพียงพอแล้ว ยังต้องมามีภาระกับค่าเช่าพื้นที่อีก ซึ่งยอมรับว่าเงินไม่เพียงพอ ต้องกู้หนี้ยืมสินมาหมุนเวียน และทราบว่ามีแม่ค้าหลายรายที่ต้องกู้เงินมาหมุนเวียนใช้จ่ายในลักษณะเดียวกัน  สิ่งที่ต้องการคือให้มีการเก็บค่าเช่าเป็นรายวันเหมือนตลาดเทศบาลอื่นๆ ไม่ต้องรอจ่ายเงินก้อนเป็นเดือน วันไหนมาก็จ่าย ไม่มาก็ไม่ต้องจ่าย อยากให้เห็นใจแม่ค้าที่จ่ายค่าเช่าพื้นที่ทุกเดือนด้วย

 “ตอนนี้มีแม่ค้ามีมานั่งขายอยู่ด้านนอก ค้าขายผักอีกหลายเจ้า เขาจ่ายค่าเช่าเพียง 20 บาท  แต่กับตนที่ค้าขายอยู่ตลาดแห่งนี้มานานเป็นสิบปี ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 900 บาท แต่กลับค้าขายของไม่ได้เลย แบบนี้ยุติธรรมกับผู้ค้ารายเก่าแล้วหรือ” นางอำไพ กล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1046 วันที่ 18 - 24 กันยายน 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์