วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ผู้ค้าหลักเมืองฮือค้านต่อสัญญาตลาดเหงาแต่ขึ้นค่าเช่า 3 เปอร์เซ็นต์


ชาวตลาดหลักเมืองขอยับยั้งต่อสัญญาเช่าใหม่ หลังต้องเพิ่มค่าเช่าอีก 3 เปอร์เซ็นต์ บวกค่าต่อสัญญาอีกเกือบหมื่น  บ่นอุบขายของไม่ดีรายได้ลดฮวบ  เคยร้องนายกฯ แต่กลับมีหนังสือแกมบังคับหากไม่แจ้งความจำนงถือว่าสละสิทธิ์ จึงยื่นร้องผู้ว่าฯให้ช่วยเคลียร์ปัญหา เตรียมเรียกประชุมหารือทั้งสองฝ่าย  ด้านนายกเทศมนตรี ระบุเป็นสัญญาสมัยนายกฯเก่า ซึ่งการแจ้งต่อสัญญาเป็นตามขั้นตอนกฎหมาย หากจะแก้ไขได้ต้องรอให้หมดสัญญาก่อน  ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินสำรวจตลาด บรรยากาศเงียบเหงายังคงมีล็อคและโต๊ะว่างจำนวนมาก  แม่ค้าเผยรายใหม่ที่เข้ามาก็อยู่ไม่ได้ ทยอยออกไปหลายเจ้า ยังเหลือเพียงรายเก่าที่ขายมาหลายสิบปีเท่านั้น
           
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 58 เวลา 10.00 น. พ่อค้าแม่ค้าอยู่ค้าขายอยู่ในตลาดเทศบาล 1 หรือตลาดหลักเมือง ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง ได้รวมตัวกันเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง เพื่อขอยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ระงับการต่อสัญญาเช่าตลาด โดยเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 58 ที่ผ่านมา ทางกลุ่มพ่อค้าแม่เค้าได้ยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมแล้วครั้งหนึ่ง และได้ไปพบกับ ผอ.กองคลัง เทศบาลนครลำปาง เพื่อแจ้งขอระงับการต่อสัญญาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความคืบหน้าใดๆ
           
นายระพีภัทร์ เพียรเพิ่มภัทร  ตัวแทนชมรมพ่อค้าแม่ค้าตลาดหลักเมือง  กล่าวว่า หลังจากยื่นหนังสือข้อเรียกร้องทางพ่อค้าแม่ค้าก็ยังไม่ได้รับทราบความคืบหน้าใดๆทั้งสิ้น มีเพียงประกาศให้ไปแจ้งความประสงค์ในการต่อสัญญาภายในวันที่ 25 ก.ย.58  โดยในหนังสือระบุว่า หากไม่ยื่นภายในวันดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ แต่พ่อค้าแม่ค้ายังไม่ต้องการต่อสัญญา เนื่องจากปัจจุบันไม่มีลูกค้า ผู้เช่าส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดทุน ไม่มีกำไร  สัญญาค่าเช่าที่แพง และสภาพแวดล้อมไม่ดี  จึงต้องการให้ระงับการต่อสัญญาเช่าออกไปโดยไม่มีกำหนดจนกว่าจะหาทางออกร่วมกันได้
           
นางฟอง กุนณด้วง แม่ค้าขายผักในตลาด กล่าวว่า ตนได้เช่าโต๊ะขายผักเดือนละ 900 บาท แต่ค้าขายได้น้อยมาก ไม่คุ้มค่าเช่า เนื่องจากไม่ค่อยมีลูกค้าเข้ามาซื้อของด้านใน เพราะด้านนอกก็มีแม่ค้าอีกกลุ่มหนึ่งทางวางขายอยู่ตามระเบียง โดยเสียค่าเช่าเพียง 30 บาท   ทำให้มีรายจ่ายมากว่ารายได้ เพราะขายผักได้เงินครั้งละไม่มาก มัดละ 5-10 บาทเท่านั้น กำไรก็ได้น้อยยิ่งไม่มีคนซื้อก็ยิ่งลำบาก  หากจ่ายค่าเช่าช้าก็โดนปรับอีก แม่ค้าลำบากกันหมดทั้งตลาดแล้วตอนนี้
           
นางฟองพิน แต้มคม แม่ค้าอาหารตามสั่ง กล่าวว่า ตามสัญญาเดิมระบุว่าต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่มขึ้นอีก 3 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่รายได้ของเราไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย แถมยังลดลงด้วยซ้ำ อีกทั้งจะมาเก็บค่าประกันต่างๆจากพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งตามจริงแล้วทางเทศบาลควรจะเป็นผู้จ่าย เช่นค่าประกันอัคคีภัย  ผู้เช่าต้องการให้ลดค่าเช่าแผงลง และขอไม่จ่ายค่าทำประกันสัญญา เพราะต้องจ่ายกันคนละ 7,000 บาทขึ้นไป ตอนนี้เทศบาลก็ยังไม่ตอบรับ เพียงแต่เลื่อนให้แจ้งความประสงค์เท่านั้น ตอนนี้รายได้แย่มาก ถ้าให้ฟรีก็ยังไม่อยากจะเข้ามาขายเลย ทางเทศบาลไม่เคยมาดูแล แต่ถ้าออกไปก็ไม่รู้จะไปค้าขายที่ไหน ที่ยังค้าขายอยู่กันในตลาดตอนนี้ก็มีแต่แม่ค้าหน้าเก่าทั้งนั้น  คนใหม่ที่เข้ามาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนก็ออกไป แล้วจะมาขึ้นค่าเช่าอีกไม่เหมือนกับตลาดอื่นที่เก็บค่าเช่าเป็นรายวัน ไม่เห็นมีปัญหาเหมือนตลาดนี้
           
แม่ค้าขายของชำ กล่าวว่า ตนเช่าค้าขายไว้ 1 ล็อค จ่ายค่าเช่าเดือนละ 1,200 บาท ค่าประกันอีก 6,000 กว่าบาท ค่าประกันภัย และอื่นๆอีก จะครบสัญญา 3 ปี แล้วมาเรียกเก็บอีกแต่เพิ่มราคาขึ้น ตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่มีใครไปต่อสัญญาเลย เพราะไม่ต้องการให้ขึ้นราคา ขายของกันไม่ได้ จึงมาขอยับยั้งการต่อสัญญาไว้ก่อน หากรายเก่าไม่ยื่นต่อสัญญาแล้วจะประมูลให้รายใหม่เข้ามา ก็คงไม่มีใครอยากเข้ามาขาย ตอนนี้ก็เหลือโต๊ะว่างจำนวนมาก ห้องแถวก็ยังขายได้ไม่หมด รายเก่าที่อยู่ก็ต้องอยู่กันต่อไปเพราะไม่รู้จะไปทำอะไรที่ไหนกันแล้ว
           
ทั้งนี้ นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์  นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดลำปาง ได้ลงมารับหนังสือ และรับปากว่าจะเร่งดำเนินการโดยการเรียกประชุมหารือทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายเทศบาลและฝ่ายผู้ค้า เนื่องจากต้องรับฟังเหตุผลทั้งสองด้าน โดยจะนัดประชุมกันอีกครั้งไม่เกินวันพุทธที่ 23 ก.ย.58 นี้
           
ด้านนายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวว่า สัญญาดังกล่าวทำในสมัยของนายกเทศมนตรีคนเก่า ซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยตอนนี้สัญญายังไม่หมดเหลือเวลาอีก 1 เดือนกว่า ทางเทศบาลจึงได้ออกหนังสือแจ้งความประสงค์ให้มาต่อสัญญาตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่หากว่าผู้ค้าไม่มาต่อสัญญา ก็ต้องหาเหตุผลต่อไปว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งตอนนี้ทราบแล้วว่ากลุ่มผู้ค้าต้องการอะไร เมื่อเห็นว่าสัญญาฉบับนี้ไม่มีความเป็นธรรม จะขอปรับลดค่าเช่าลง ก็ต้องรอให้สัญญาหมดก่อน จึงจะดำเนินการต่อไปได้ ทางคณะกรรมการก็จะมาพิจารณากันว่าปัญหาเกิดจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไร  ซึ่งเทศบาลไม่ได้นิ่งเฉย เรารับทราบและรับฟังปัญหาของผู้ค้าอยู่ เพียงแต่ทางผู้ค้าเร่งรีบเกินไป เพราะกลัวว่าจะถูกตัดสิทธิ์ในการเช่าพื้นที่ จึงขอทำความเข้าใจว่าในเมื่อสัญญายังไม่หมด จึงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ต้องพิจารณาหลังจากที่หมดสัญญาลงแล้ว
           
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เข้าไปเดินสำรวจบรรยากาศในตลาดหลักเมืองในช่วงบ่าย พบว่าภายในตลาดเงียบเหงา ไม่มีผู้คนเข้ามาจับจ่ายซื้อของมากนัก  ซึ่งโซนขายของชำและโซนขายขนม ยังคงเหลือโต๊ะว่างเหลืออยู่รวมกันเกือบ 20 โต๊ะ อีกทั้งยังมีห้องแถวที่ยังไม่มีคนเช่าอยู่อีกมากกว่า 10 ห้อง  หลังจากเปิดตลาดหลักเมืองมา 3 ปี ก็ยังไม่คึกคักขึ้นจากเดิม เมื่อสอบถามแม่ค้าร้านขายของชำที่อยู่ใกล้เคียงก็ทราบว่า ร้านชำที่ปิดตัวไปมีคนเข้ามาเช่าก่อนหน้านี้ แต่ขายของไม่ดีจึงได้ขนของออกไป เหลือเพียงโครงเหล็กไว้ ซึ่งผู้ค้าเก่าที่ยังอยู่ได้ เพราะมีลูกค้าเก่าที่คอยแวะเวียนมาอุดหนุน จะมีขาจรมาบ้างแต่ไม่บ่อยนัก โดยช่วงที่จะขายได้มากหน่อยจะเป็นช่วงเย็นที่มีคนมารับประทานอาหารที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะค้าขายได้มากหน่อย แต่จะให้ขายได้ดีเหมือนเดิมก็เป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี และสภาพแวดล้อมของตลาดไม่เอื้ออำนวย จึงต้องทนค้าขายต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1046 วันที่ 18 - 24 กันยายน 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์