วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

สงฆ์เตือนอย่านั่งเทียน สมัครบ้านศีล5


สงฆ์เตือนต้องมีใบสมัครบ้านศีล 5  ตรงตามยอดสมาชิก อย่านั่งเทียนข้อมูล  ด้านสำนักพุทธฯรับเร่งทำยอดให้ทันเดือน ก.ย. ก่อนแจกใบสมัครให้ประชาชนกรอกย้อนหลัง  

เมื่อวันที่ 28  ส.ค.58 ที่ผ่านมา ที่ พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค ประธานโครงการคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5   พร้อมด้วย พระมหาศาสนมุนี เลขาผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช  และพระราชวิริยาลังการ  รองเจ้าคณะภาค 6   ได้ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านศีล ในภาค 6 ครั้งที่ วัดเจดีย์ซาวหลัง ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง  โดยมีพระราชจินดานายก เจ้าคณะจังหวัดลำปาง   รวมทั้งเจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบล ร่วมประชุมและรับฟังข้อเสนอแนะในการดำเนินโครงการ  ในส่วนของฝ่ายฆราวาส มีนายฤทธิพงษ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  นายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาลำปาง เข้าร่วมประชุมด้วย

โดยพระพรหมเสนาบดี ได้กล่าวชื่นชมคณะสงฆ์ จ.ลำปาง ที่สามารถดำเนินการได้ตามเป้า   พร้อมกับเน้นย้ำว่า เรื่องการนำเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักมากรอกสมัครนั้น ไม่มีผลทางด้านกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ใช้สำเนาบัตรประชาชนมาด้วย  เรื่องที่ประชาชนวิตกว่าจะมีการนำเลขบัตรไปทำธุรกรรมต่างๆนั้น ไม่สามารถทำได้ หากท่านใดสอบถามมาก็ขอให้ชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

ด้านพระมหาศาสนมุนี เลขาผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช   กล่าวว่า โครงการนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับนโยบายมาเต็มที่ แต่ทางคณะสงฆ์เองยังไม่มีการร่วมลงนามเลย  ดังนั้นหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดควรจะแต่งตั้งคณะสงฆ์เป็นประธานขับเคลื่อนร่วมกับจังหวัดด้วย ฝ่ายบ้านเมืองและฝ่ายสงฆ์จะได้ทำงานร่วมกับ  ในส่วนของการกรอกข้อมูลการสมัครไปแล้ว ต้องมีการจัดรวมรูปเล่มไว้ เวลาคณะกรรมการลงไปตรวจสอบว่าใบสมัครที่คีย์ข้อมูลไปแล้วมีตัวตนจริงหรือไม่ จะสามารถตอบคำถามได้  ใบสมัครสำคัญต้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวบรวมไว้ของแต่ละอำเภอ เมื่อเรียบร้อยแล้วค่อยส่งให้สำนักงานเจ้าคณะจังหวัด เพื่อจะส่งให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเก็บรักษาไว้    นอกจากนี้ขอให้ติดป้ายเชิญชวนรณรงค์เข้าร่วมโครงการทุกวัด หากวัดใดยังไม่มีป้ายให้แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนา เพราะโครงการจะสิ้นสุดปี 60 ต้องรณรงค์อย่างต่อเนื่อง  ถ้าไม่ติดป้ายแจกแต่ใบสมัครประชาชนก็จะไม่รู้วัตถุประสงค์ และไม่รู้ว่าเป็นโครงการอะไร    หากมีชาวบ้านถามว่าโครงการนี้ร่วมแล้วได้อะไร ท่านสามารถตอบได้เลยว่า เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ

พระราชวิริยาลังการ  รองเจ้าคณะภาค 6 กล่าวว่า การคีย์ข้อมูลส่วนใหญ่ทราบว่าหลายจังหวัดได้นำข้อมูลมาจากฐานข้อมูลการเลือกตั้งหรือ จปฐ. แต่เมื่อคีย์แล้วจะต้องมีใบสมัคร จำนวนยอดผู้สมัครกับใบสมัครต้องมีตรงกัน และต้องเก็บไว้ตรวจสอบได้  หากคีย์ข้อมูลแล้วแต่ไม่มีใบ ขอความร่วมมือจากวัด ทางโรงเรียน ให้ช่วยแจกใบสมัครและชาวบ้านกรอกข้อมูลและเซ็นชื่อให้  ทางเลขาจังหวัดต้องแจกใบสมัครไปทุกวัด ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง

ต่อมาวันที่ 2 ก.ย.58  นายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง  ได้เข้าพบหนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ พร้อมกับทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5   โดย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา  เปิดเผยว่า  ตามโครงการนี้ต้องใช้วิธีการกรอกใบรับสมัคร แต่เนื่องจากโครงการต้องเสร็จให้ทันเดือน ก.ย.58 จึงต้องกระจายออกไปให้ทุกหมู่บ้าน โรงเรียนช่วยกัน  เราทำมาตั้งแต่ปี 57 ได้รณรงค์ไปทางส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โรงเรียน  จากนั้น ก็เริ่มหาผู้สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกตั้งแต่เดือน ต.ค.57  ช่วยกันทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัวฯ คือวัตถุประสงค์ของโครงการ แต่ปรากฏว่าทำไปหลายแห่งแต่ยอดผู้สมัครขึ้นจำนวนน้อยมาก ส่วนราชการก็ได้ครั้งละประมาณ 25 คน ทำอยู่นานถึงครึ่งปีกว่าจะได้ 70,000 คน  พอช่วงหลังๆไม่ได้เป้าตามที่กำหนดคือ 50 เปอร์เซ็นต์ภายในเดือน ก.ย. 58  เลยมาปรับแผนกันใหม่ให้ใครก็ได้ที่สนใจเข้าไปสมัครด้วยตนเอง หรือมีคนกรอกให้ก็ได้   ซึ่งขั้นตอนก็อาจจะผิดพลาดคลาดเคลื่อน  หากมีปัญหาในชุมชนใดก็พร้อมที่จะเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน

เมื่อสอบถามว่า ต้องมีการกรอกใบสมัครย้อนหลังใช่หรือไม่  นายอุบลพันธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการปรับใบสมัครจากเดิมต้องกรอกคนละใบ เป็นการกรอกแบบใบเดียวทั้งครอบครัว โดยให้ทางวัดและชุมชนแจกให้แต่ละครอบครัว   วิธีการตรวจสอบว่าสมัครไปหรือยัง คือ ถ้ากรอกใบสมัครจะมีหมายเลขครอบครัว เมื่อกรอกข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์ คนที่มีรายชื่ออยู่แล้วก็จะปรากฏอยู่ในจอว่าได้สมัครไปแล้ว  และสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลได้   คือเป็นการกรอกใบสมัครย้อนหลัง  แต่ตามหลักความจริงแล้วต้องมีการกรอกใบสมัครก่อนจึงจะนำข้อมูลมาคีย์ในคอมพิวเตอร์ แต่ไม่ทันตามเป้า จึงมีการนำข้อมูลมาคีย์เข้าไปก่อน  รุ่นแรกๆกรอกใบสมัครมาจำนวนมากหลายหมื่นคน แต่จำเลขประจำตัวประชาชนไม่ได้เลยไม่ได้กรอก ทำให้ไม่สามารถนำไปสมัครได้  ใช้ได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น  ในเรื่องนี้หากมีปัญหาเกิดขึ้นในหมู่บ้านใดก็จะเข้าไปทำความเข้าใจร่วมกัน และฝากขอโทษมา ณ โอกาสนี้ด้วย
                         
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1044 วันที่ 4 - 10 กันยายน 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์