วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

ระงับต่อสัญญาสั่งฟื้นหลักเมือง รองผู้ว่าฯ ชี้รายได้ไม่เข้าเป้า


สางปัญหาตลาดหลักเมือง รองผู้ว่าฯสั่งระงับต่อสัญญา เร่งคณะกรรมการจัดหารายได้ประชุมหาข้อสรุปเรื่องรายได้ใหม่ ย้ำเทศบาลมีหน้าที่จัดให้มีตลาดสด ส่วนการหารายได้ไม่ใช่เป้าหมาย ต้องบริหารจัดการตลาดเทศบาลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ด้านผู้ค้าเฮหวังจะได้ค่าเช่าที่เป็นธรรมมากขึ้น หากเปลี่ยนได้อยากขอให้เก็บเป็นรายวันเหมือนตลาดอื่นๆ และไม่ต้องจ่ายค่าต่อสัญญา ขณะเดียวกันเทศบาลฯจัดงบ 5 แสน ปรับปรุงระบบท่อน้ำในตลาด หลังประสบปัญหาน้ำรั่วและเน่าเหม็นมานาน
           
หลังจากที่กลุ่มผู้ค้าในตลาดเทศบาล 1 หรือตลาดหลักเมือง ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง ได้รวมตัวกันเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ระงับการต่อสัญญาเช่าตลาด เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 58 ที่ผ่านมา โดยมี นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์  นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดลำปาง เป็นผู้รับเรื่องและจะเร่งดำเนินการโดยการเรียกประชุมหารือทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายเทศบาลและฝ่ายผู้ค้า
           
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 58  ที่ห้องประชุมสำนักงานคลังจังหวัดลำปาง นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานประชุมเพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาตลาดหลักเมืองตามที่ผู้ค้าได้ยื่นร้องเรียนขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ดำรงธรรม โดยได้นัดทางฝ่ายเทศบาลนครลำปาง และกลุ่มผู้ค้ามาเจรจาร่วมกัน ซึ่งทางฝ่ายเทศบาลฯมีนายสุวรรณ นครังกูล รองนายกเทศมนตรี  นางดวงจันทร์ ทองกระสัน ผู้อำนวยการกองคลัง นายอรรณพ สิทธิวงค์ ผอ.ส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง  นายพงศกร รัตนประเวศน์ ผอ.กองสาธารณสุข  ส่วนฝ่ายผู้ค้านำโดยนายระพีภัทร เพียรเพิ่มภัทร  พร้อมด้วยตัวแทนประมาณ 10 คน เข้าร่วมประชุม  โดยมีผู้ค้าที่มารอรับฟังอยู่ด้านนอกประมาณ 50 คน
           
นายสุวรรณ นครังกูล รองนายกเทศมนตรี  กล่าวว่า ทางเทศบาลได้รับทราบเรื่อง และไม่ได้นิ่งดูดาย โดยมีการร้องขอให้เทศบาลระงับการต่อสัญญา ยกเลิกจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย ปรับลดค่าเช่า 50 เปอร์เซ็นต์ และจัดเก็บเป็นรายวัน  ให้เทศบาลดูแลสภาพแวดล้อมในตลาด การเก็บขยะ แก้ไขปัญหาน้ำรั่ว ท่อน้ำแตก กลิ่นเหม็น การระบายน้ำเสียในตลาด  โดยในกรณีให้เทศบาลระงับการต่อสัญญาเช่านั้น ตอนนี้เทศบาลได้รอให้ทางผู้ค้ามายื่นความจำนงต่อสัญญาเช่าตามระเบียบที่กำหนดไว้ ขณะนี้มีผู้มายื่นแสดงความจำนงต่อสัญญาเช่า 123 ราย จากทั้งหมด 315 ราย กระบวนการนี้จะนำไปให้คณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์ทรัพย์สินของเทศบาลเป็นผู้พิจารณา ส่วนกรณีการร้องขอให้ยกเลิกการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย ด้วยระเบียบของกระทรวงมหาดไทยระบุว่าค่าเบี้ยประกันภัยต้องเป็นของผู้เช่า  สำหรับการปรับลดค่าเช่าลงและให้จัดเก็บเป็นรายวัน ประเด็นนี้คณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์เป็นผู้พิจารณา  และการจัดการสภาพแวดล้อมในตลาด ซึ่งเทศบาลได้จัดงบไว้ 5 แสนบาท และอยู่ระหว่างการหาผู้รับเหมามาดำเนินการแก้ไขท่อน้ำเสียน้ำทิ้ง 

สำหรับการกำหนดราคาค่าเช่า เป็นมติของคณะกรรมการจัดหาประโยชน์ฯ ประกอบด้วย นายกเทศมนตรี ปลัดเทศบาล ผอ.กองคลัง  ท้องถิ่นจังหวัด  สำนักงานที่ดิน นายอำเภอเมือง และธนารักษ์พื้นที่ ร่วมเป็นกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิ  ซึ่งระเบียบค่าเช่าในครั้งแรกเป็นไปตามมติของที่ประชุมที่กำหนดให้ต่อสัญญาครั้งละ 3 ปี  หากจะเปลี่ยนแปลงก็จะต้องนำเข้าในที่ประชุม รองนายกฯ กล่าว
           
นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือต้องการให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกัน จากที่ฝ่ายผู้ค้าได้ขอยกเลิกจ่ายค่าประกันอัคคีภัย ต้องทำความเข้าใจว่าเรื่องประกันอัคคีภัย ได้แยกการจ่ายเบี้ยประกันตามประเภทความเสี่ยงและเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย คงยกเลิกจ่ายไม่ได้  ตรงไหนเสี่ยงไฟไหม้มากก็จะต้องจ่ายค่าประกันสูง  เมื่อระเบียบกำหนดไว้เช่นนั้นก็ต้องปฏิบัติตามที่กำหนด หากเกิดเหตุผู้รับผลประโยชน์ก็ต้องเป็นเทศบาล เพราะเทศบาลเป็นเจ้าของอาคาร แต่ให้ทางเทศบาลฯสอบถามไปยังบริษัทประกันภัยหลายๆบริษัท ให้เสนอราคาเข้ามา เพื่อหาราคาที่ดีที่สุด และช่วยให้ลดราคาลงกว่านี้  ส่วนทางผู้ค้าเองให้ตกลงกันว่าใครมีความเสี่ยงมากก็จ่ายมาก ใครเสี่ยงน้อยก็จ่ายน้อย ให้ยุติธรรมกับทุกฝ่าย

รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า  สำหรับเรื่องค่าเช่าแผง เข้าใจว่าเทศบาลใช้งบประมาณในการก่อสร้างตลาดไปจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าจะมากำหนดราคาให้ทุกอย่างแพงไปหมด เพราะเทศบาลไม่ใช่หน่วยงานค้ากำไร แต่มีหน้าที่ให้บริการ เพียงแต่ว่ากลุ่มผู้ประกอบการก็ต้องเห็นใจเทศบาลฯเพราะต้องดูแลทุกอย่าง ต้องเข้าใจว่า เทศบาลฯเป็นผู้ปฏิบัติ เมื่อมีกฎระเบียบมาอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น อยากให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันแล้วมีความสุข  เทศบาลฯก็อย่าเอารายได้เป็นตัวตั้งที่สูงเกินกว่าที่ผู้ค้าจะทนไหว จะต้องพิจารณาให้ไปด้วยกันได้ เมื่อคณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์ฯเป็นผู้กำหนดราคาค่าเช่า ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น คณะกรรมการฯก็ต้องมาประชุม ทบทวนราคาค่าเช่าที่รับกันได้ทั้งสองฝ่าย และสอดคล้องนโยบายของรัฐบาลที่ช่วยเหลือคนยากจน  ในขณะเดียวกันผู้ค้าก็อาจจะไปชี้แจงอย่างมีเหตุผลกับคณะกรรมการฯชุดนี้ ว่าเดือดร้อนอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้หาทางออกได้ 
           
ด้านกลุ่มผู้ค้า สอบถามว่า  ตลาดเทศบาลมี 3 แห่ง คือตลาดรัษฎา ตลาดอัศวิน และตลาดหลักเมือง แต่การจัดเก็บค่าเช่าไม่เหมือนกัน ไม่ยุติธรรมกับผู้ค้าในตลาดหลักเมืองที่มีแต่จะแพงขึ้น จะขอให้เก็บเป็นรายวันเหมือนกันหมดได้หรือไม่
           
นางดวงจันทร์ ทองกระสัน ผู้อำนวยการกองคลัง กล่าวว่า เดิมตลาดรัษฎา และตลาดอัศวิน จะมีเทศบัญญัติที่ทำกันมานานแล้ว ตามเทศบัญญัติได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2484 ให้มีการกำหนดอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเป็นตารางเมตร จึงได้จัดเก็บตามเทศบัญญัติมาโดยตลอด แต่ปัจจุบัน พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ ถูกยกเลิกโดย พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 และไม่ได้พูดถึงเรื่องการกำหนดอัตราค่าจัดเก็บรายได้ ซึ่งกำลังหารือกับทางนิติกรเทศบาลอยู่ว่าเทศบัญญัติที่เคยออกไปจะยังใช้ได้ในปัจจุบันหรือไม่ อาจจะต้องเข้าระเบียบจัดหารายได้ทั้งหมด
           
ในเรื่องนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า เมื่อบอกว่า 2 ตลาดมีเทศบัญญัติให้จัดเก็บเป็นรายวัน ให้ออกเทศบัญญัติใหม่ครอบคลุมให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้ง 3 ตลาด  เพราะเทศบาลเป็นผู้ออกเทศบัญญัติได้เอง และทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ลงนามประกาศใช้   แต่เมื่อเทศบาลบอกว่า พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2484 ยกเลิกไปแล้ว เทศบัญญัติที่อาศัยอำนาจ พ.ร.บ.นี้ก็ไม่มีผลแล้ว ก็ควรจะนำเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์ฯด้วย ซึ่งควรจะต้องใช้มาตรฐานเดียวกันทั้ง 3 ตลาด   และให้ท้องถิ่นจังหวัดไปเสนอคณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์ ว่าให้มีการเก็บค่าเช่าเป็นรายวันได้หรือไม่

ตอนนี้ยังไม่ต้องต่อสัญญา แต่ให้ทางผู้ค้าไปยื่นแสดงความจำนงว่าจะเช่าพื้นที่ต่อ ซึ่งจะไม่มีการผูกพันกับสัญญาเดิมใดๆทั้งสิ้น  และให้ทางคณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์ฯไปประชุมกันให้เรียบร้อย เมื่อได้มีมติอย่างไร ให้แจ้งทางรองผู้ว่าฯทันที  นายมงคล กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ทางตัวแทนผู้ค้าที่เข้าประชุม ได้แจ้งเรื่องให้กลับกลุ่มผู้ค้าคนอื่นๆทราบว่า ทางรองผู้ว่าฯได้สั่งให้ระงับการต่อสัญญาดังกล่าวไว้แล้ว จนกว่าจะมีมติของคณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์ฯออกมาใหม่ ซึ่งทางผู้ค้าต่างโห่ร้องแสดงความดีใจ และได้แยกย้ายกันกลับอย่างสงบ
                       
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1047 วันที่ 25 กันยายน - 1 ตุลาคม 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์