หนุ่มใหญ่อดีตพนักงาน กฟผ.ทนทุกข์ทรมานจากโรครุมเร้าหลายโรค อีกทั้งใกล้จะตาบอด ตัดสินใจยิงตัวตายจบชีวิต ทิ้งจดหมายยกทรัพย์สินให้ลูกและขอให้ช่วยทำศพ
เมื่อเวลาประมาณ 14.20 น.วันที่ 1 ก.ย. 58 ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งว่า พบชายนอนอยู่หลังบริเวณศีรษะมีเลือดไหลจำนวนมาก ภายในบ้านเลขที่ 207/4 ชุมชนท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบเป็นการยิงตัวตาย จึงแจ้งแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมชันสูตร ต่อมา พ.ต.อ.ทันชัย ยศชูสกุล พงส.ผทค.สภ.เมืองลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาตรวจสอบ พบศพชายนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณใต้ต้นมะกรูด ซึ่งเป็นที่ทำครัวด้านหลังบ้าน สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อต กางเกงขาสั้น บริเวณขมับขวา มีรูกระสุน 1 แห่ง เลือดไหลนอง ส่วนปลายเท้าพบปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 1 กระบอก เสียชีวิตประมาณ 1 ชั่วโมง ทราบชื่อผู้ตายต่อมา คือ นายอายุวัฒน เทพปัญญา อายุ 63 ปี อดีตพนักงานของเหมืองแม่เมาะ กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
นอกจากนั้นยังพบจดหมายที่ผู้ตายเขียนไว้จดหมายไว้ถึงลูกๆทั้ง 3 คน ว่าตนเองทุกข์ทรมานมานานแล้วไม่มีใครดูแล ป่วยหลายโรคทั้งโรคเบาหวานขั้นรุนแรง โรคตับ โรงมะเร็งลำไส้ และอีกทั้งยังใกล้จะตาบอดสาเหตุจากโรคร้ายต่างๆ ทำให้ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ต้องกลายเป็นคนพิการ รับผิดชอบและทำสิ่งที่ดีต่อชีวิตไม่ได้แล้วจึงขอจบชีวิตลง ขอให้จัดการงานศพด้วย ถ้าลูกเห็นคงสงสารและอยากให้พ่อตายให้พ้นทุกข์เช่นกัน และยังได้บอกให้ลูกๆนำทรัพย์สินของตนที่มีไปเก็บไว้ มีทั้งที่ดิน รถยนต์ เงินออมทรัพย์อีกหลายรายการ
นางวรรณี วงศ์ปัน อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเป็นอดีตภรรยาของผู้ตาย มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน โดยผู้ตายได้มีภรรยาใหม่และลูกอีก 2 คน อยู่ที่ อ.แม่เมาะ แต่ก็ได้เลิกลากัน ลูกสาวของตนจึงได้ขอให้นายอายุวัฒน มาอาศัยอยู่ด้วยเพื่อจะได้ช่วยดูแลได้ เพราะลูกสาวต้องไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนายอายุวัฒนเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนกว่า บ่นตลอดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่เพราะมีโรครุมเร้าหลายโรค ล่าสุดก็บ่นว่าปวดท้องจากโรคลำไส้ ก่อนเกิดเหตุนายอายุวัฒนได้เดินทางหลังบ้าน คิดว่ามานั่งกินข้าว สักพักได้ยิงเสียงดังแก๊ปแต่ไม่ได้เอะใจว่าคือเสียงปืน ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นกลับเข้ามาในบ้านจึงเดินตามไปดูหลังบ้านก็พบว่านายอายุวัฒนนอนอยู่ใต้ต้นมะกรูดมีเลือดไหลออกจากศีรษะจึงได้รีบโทรแจ้งตำรวจทันที ส่วนปืนที่ใช้นั้นนายอายุวัฒนเคยบอกว่ามีปืน แต่ตนเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์บอกลูกสาวแล้ว และจะเดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ทันที
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง และนำศพไปชันสูตรอย่างละเอียด ก่อนจะส่งศพให้ญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1044 วันที่ 4 - 10 กันยายน 2558)
