วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

จุดจบด่านจ๊ะเอ๋ !

           
หมือนท้องถนน จะคืนกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง เมื่อมีการปัดฝุ่นนโยบายด่านลอย หรือด่านจ๊ะเอ๋ กลับมาใช้บังคับอย่างจริงจังอีกครั้ง มันจะจริงจังไปนานแค่ไหน หากตำรวจไม่วูบวาบไปตามกระแส เดี๋ยวจับ เดี๋ยวปล่อย เช่น การจับมอเตอร์ไซด์ไม่ใส่หมวกกันน็อค
           
โดยเฉพาะตำรวจไกลปืนเที่ยง อย่างที่นี่ ไกลหู ไกลตา ผู้กำหนดนโยบาย ต้องติดตามด้วยความระทึกใจว่า ด่านลอยที่ระบาดเหมือนดอกเห็ดหน้าฝน จะหมดไปหรือไม่
           
นับจากวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มีคำสั่งยกเลิกการตั้งด่านลอยทุกชนิดทั่วประเทศ หากประชาชนพบเห็นสามารถถ่ายภาพ เพื่อนำมาร้องเรียนได้ทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ฝ่าฝืนคำสั่งจะถูกคาดโทษให้มาช่วยราชการหรือปรับย้ายออกจากหน้าที่ โดยไม่มีการละเว้น
           
การประกาศครั้งนี้จะเรียกว่าเป็น อวสานเซลล์แมนสีกากีที่หาผลประโยชน์บนหลังประชาชนหรือไม่นั้นคงต้องรอดูว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นเอาจริงกับการแก้ปัญหาเรียกวิกฤติศรัทธาจากประชาชนหรือเปล่า
           
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาตำรวจน้ำเน่าหลายนายสร้างชื่อเสียให้แก่วงการตำรวจ จนประชาชนแทบจะส่ายหัว ยังดีว่ามีตำรวจน้ำดีที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่พึ่งพาของประชาชนอยู่บ้าง
           
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยจัดทำบันทึกข้อความเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ด่านที่ถูกกฎหมายของตำรวจมี 3 ประเภทเท่านั้น คือ
           
1) ด่านตรวจ หมายถึง สถานที่ทำการที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตทางเดินรถ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก โดยระบุสถานที่ไว้ชัดแจ้งเป็นการถาวร การตั้งด่านตรวจจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.แล้วแต่กรณี
           
2) จุดตรวจ หมายถึง สถานที่ที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตทางเดินรถหรือทางหลวงในกรณีปกติเป็นการชั่วคราว โดยมีกำหนดระยะเวลาเท่าที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมง และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะต้องยุบเลิกจุดตรวจดังกล่าวทันที การตั้งด่านตรวจประเภทนี้ต้องได้รับอนุมัติจากนายตำรวจระดับผู้บังคับการ (ยศ พลตำรวจตรี) ขึ้นไป
           
3) จุดสกัด หมายถึง สถานที่ที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตทางเดินรถหรือทางหลวง ในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนเกิดขึ้นเป็นการชั่วคราว และจะต้องยุบเลิกเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าว โดยการตั้งด่านประเภทนี้ต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าสถานีตำรวจในท้องที่นั้นๆ
           
ส่วนด่านลอย หรือที่เรียกกันว่า ด่านจ๊ะเอ๋” เพราะตำรวจมักหลบอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ข้างทาง แล้วกระโดดออกมาจับกุมหรือสกัดรถนั้น เป็นด่านที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มีลักษณะลักลอบตั้งตามทางแยก ทางโค้ง ทางเปลี่ยว  ตำรวจที่ตั้งด่านประเภทนี้มักหลบหลังต้นไม้ พุ่มไม้ เสาไฟฟ้า หรือแม้แต่มุมตึกโดยเป็นการตั้งที่ไม่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ไม่มีป้ายสัญญาณหยุดตรวจก่อนถึงด่านและไม่มีป้ายหรือป้ายไฟแสดงชื่อนายตำรวจที่รับผิดชอบด่าน
           
ปัญหาของด่านลอย นอกจากการรีดไถ หรือเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบแล้ว ยังเสี่ยงเกิดอันตรายบนท้องถนน เพราะการที่ตำรวจกระโดดออกมาจากข้างทางอย่างกระชั้นชิดเพื่อสกัดรถหรือจับกุม จนเรียกกันว่าด่าน จ๊ะเอ๋” นั้น หลายครั้งทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และตัวตำรวจเอง
           
ขณะที่ด่านตรวจถูกกฎหมาย ก็จะมีลักษณะตรงกันข้ามกับด่านลอยอย่างสิ้นเชิง ได้แก่ ต้องมีเครื่องหมายบอกล่วงหน้าเป็นระยะว่าข้างหน้ามีด่าน เช่น กรวยสีส้มตั้งเป็นระยะ เพื่อบังคับทิศทางการจราจรให้เหลือช่องเดียวนำไปยังจุดตรวจค้น มีเครื่องหมายจราจรคำว่า หยุด” หรือ หยุดตรวจ” ก่อนถึงด่าน ในเวลากลางคืนจะต้องให้มีแสงไฟส่องสว่างให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตรก่อนถึงจุดตรวจ จะต้องมีหนังสือสั่งการให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีตำรวจสัญญาบัตรที่ควบคุมจุดตรวจ หรือด่านตรวจ พร้อมแจ้งวัน-เวลาที่ตั้งด่าน โดยกำลังพลทั้งหมดในด่านต้องสวมเครื่องแบบ หลังจากเลิกปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีการสรุปผลการจับกุมตรวจค้น
            
จากมาตรการเข้มของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้หน่วยปฏิบัติรับนโยบายไปดำเนินการทันที โดยในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพฯ ก็สั่งให้เลิกด่านลอยทั้งหมดแล้ว พร้อมตั้งนายตำรวจที่รับผิดชอบการตั้งด่านตรวจ เป็นถึงระดับ รองผู้กำกับการ” ซึ่งเป็นยศสูงกว่าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ในระเบียบ
         
 นครบาลเลิกด่านลอย ภูธรยังจะมีด่านลอยหรือไม่
           
ไม่ติดตาม แต่โปรดรอดูคลิป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1050 วันที่ 16 - 22 ตุลาคม 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์