วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สอบได้ ‘ตลก’ สอบตก ‘O-NET’


อบได้เป็นเรื่องตลก สอบตกเป็นเรื่องธรรมชาติ  คำพูดติดตลกที่เราเคยคุยๆกันเมื่อ 20-30 ปีก่อน มาตอนนี้คง ขำไม่ออก เมื่อผลการสอบ O-NET ฟ้องคุณภาพการศึกษาไทยว่าต่ำกว่ามาตรฐาน ย้อนหลังไปดูคะแนนสอบยิ่งปวดใจเพราะ 5 ปีที่ผ่านมาเด็ก ม.6 สอบวิชาสามัญตกทุกวิชายกเว้นภาษาไทยที่ผ่านครึ่งมาเพียงน้อยนิด

ย้อนรอยวิเคราะห์ผลสอบวิชาสามัญ 7 วิชา ในช่วงเวลา 5ปี ย้อนหลังของนักเรียนชั้น ม. 6 ที่เดินหน้าสู่การเรียนในระดับอุดมศึกษา จัดการสอบโดย สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. โดยข้อมูลคะแนนสอบย้อนหลัง 5 ปี มีดังนั้น

ปี 2555 (ผลสอบของปีการศึกษา 2554)  วิชาสามัญ วิชา มีคะแนนเฉลี่ยดังนี้  สูงสุดคือ ภาษาไทย 54.61 คะแนน สังคม 32.97 คะแนน  ชีววิทยา 32.75  คะแนน  ภาษาอังกฤษ  28.43 คะแนน  เคมี 25.75 คะแนน  ฟิสิกส์ 23.54 คะแนน และต่ำสุดคือ วิชาคณิตศาสตร์ 19.92คะแนน 

ปี 2556 (ผลสอบของปีการศึกษา 2555) คะแนนสอบ วิชาสามัญเฉลี่ยใกล้เคียงกับปี2555 โดยวิชาภาษาไทยมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดคือ 50.43 คะแนน รองลงมาคือ ชีววิทยา 30.40 คะแนน ภาษาอังกฤษ  30.01 คะแนน  ฟิสิกส์ 29.84 คะแนน  สังคม 29.18 คะแนน  เคมี 25.38 คะแนน และต่ำสุดยังคงเป็นวิชาคณิตศาสตร์เช่นเคย 20.95 คะแนน

ปี 2557 (ผลสอบของปีการศึกษา 2556) คะแนนเฉลี่ยสูงสุด คือ ภาษาไทย 54.35 คะแนน สังคม 39.42 คะแนน ภาษาอังกฤษ  31.05 คะแนน  ชีววิทยา 28.56 คะแนน  ฟิสิกส์ 25.29 คะแนน  เคมี  27.66 คะแนน ต่ำสุดก็ยังคงเป็นวิชาคณิตศาสตร์ 25.39 คะแนน

ปี 2558 (ประจำปีการศึกษา 2557)  สูงสุด ภาษาไทย 58.66 คะแนน  สังคมศึกษา 35.99  คะแนน  เคมี 31.16 คะแนน  ภาษาอังกฤษ 29.33 คะแนน  ชีววิทยา  29.05 คะแนน  ฟิสิกส์ 26.73 คะแนน  และต่ำสุดยังคงเป็นวิชาคณิตศาสตร์  20.35 คะแนน 

และล่าสุด ที่นักเรียน ม.6 เพิ่งผ่านสมรภูมิสนามสอบเมื่อวันที่ 6-7 ก.พ. 2559 ซึ่งเป็นการสอบวัดผลประจำปีการศึกษา 2558  ผลสอบ 9วิชาสามัญ พบว่า

ช่วงคะแนนที่นักเรียนส่วนใหญ่ทำได้ และคะแนนเฉลี่ยในแต่ละวิชาคิดจากคะแนนเต็ม 100 มีดังนี้ ภาษาไทย คะแนนเฉลี่ย 56.65 คะแนน สูงสุด 100.00 ต่ำสุด 6.00 สังคมศึกษา คะแนนเฉลี่ย 34.96 คะแนน สูงสุด 86.00 ต่ำสุด2.00 ภาษาอังกฤษ คะแนนเฉลี่ย 30.97 คะแนน สูงสุด 97.50 ต่ำสุด1.25 คณิตศาสตร์คะแนนเฉลี่ย 28.70 คะแนน สูงสุด 100.00 ต่ำสุด 4.00 ฟิสิกส์ คะแนนเฉลี่ย 22.90 คะแนน สูงสุด 100.00 ต่ำสุด 0.00 เคมี คะแนนเฉลี่ย 24.52 คะแนน สูงสุด 98.00 ต่ำสุด0.00 ชีววิทยา คะแนนเฉลี่ย 27.32 คะแนน คณิตศาสตร์คะแนนเฉลี่ย 20.88คะแนน สูงสุด 98.00 ต่ำสุด 0.00 และวิทยาศาสตร์ทั่วไป คะแนนเฉลี่ย 26.43คะแนน สูงสุด 74.00 ต่ำสุด 4.00

แปลง่ายแบบชาวบ้านคุยกัน ก็ตีความได้ว่า นักเรียนไทย ว่าที่บัณฑิตที่เดินหน้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยนั้น สอบตก” เกือบทุกวิชา ผ่านแบบปริ่มน้ำแค่วิชาภาษาไทย และวิชาคณิตศาสตร์ก็ยังครองแชมป์ที่โหล่มาตลอด 5 ปีเช่นกัน

นั่นหมายความว่า ตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา การศึกษาไทยไม่ได้มีการพัฒนาเลยหรือ!!!

ผลการสอบที่มาจากคะแนนเฉลี่ยของเด็ก ม.6 หลักแสนคน ย่อมเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่า OUTPUT ของ ระบบการศึกษาไทยอยู่ในขั้นโคม่า”  เพราะผลการสอบ O-NET ทั้ง 5 รอบ สะท้อนให้เห็นชัดว่ามาตรฐานการศึกษาไทยไม่มีคุณภาพมากพอที่จะจัดให้ทุกโรงเรียนมีคุณภาพการสอนให้มีคุณภาพเท่าเทียมกันได้ทั้งที่เด็กนักเรียนเรียนกันจนหัวฟู แต่ผลสัมฤทธิ์กลับไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น 

และแน่นอนว่าผลการสอบส่วนหนึ่งก็ต้องอยู่ที่พฤติกรรมการเรียนหนังสือของนักเรียนด้วย เพราะจากที่ผลการสอบแต่ละวิชาที่เต็ม 100 คะแนนนั้น มีคะแนนต่ำสุดคือ 0 คะแนนอยู่หลายวิชา บางวิชาที่ได้คะแนนในหลักหน่วย ซึ่งนั้นไม่ว่าจะเป็นเพราะนักเรียน คิดไม่ได้  หรือ ไม่ได้คิด” นั่นย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวที่ไม่สามารถสอนความนักเรียนได้ใช้สมองคิดวิเคราะห์ และพยายามเพื่อวัดความสามารถของตัวเองได้

ผลการสอบของนักเรียนชั้น ม.6 ตลอดครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา คงจะมากพอที่จะประจานความล้มเหลวของการศึกษาไทยที่มีแต่นโยบายสวยหรู แต่สุดท้ายนโยบายเหล่านั้นก็กลายเป็นแค่ วิมานในอากาศ ที่ละลายงบประมาณมหาศาล ผลพวงของการสอบของนักเรียน ม.อาจทำให้เราต้องย้อนกลับไปดูที่ต้นทางนั่นคือการสอนตั้งแต่ระดับประถมที่เป็นรากเหง้าของการศึกษา สอนการคิดเป็นระบบตั้งแต่เด็กหาใช่การติวเข้มเร่งสอนอัดเนื้อหากันแค่ตอนใกล้สอบ ผลก็จะออกมาเป็นเช่นนี้

และหากโรงเรียนยังมองนักเรียนเป็นลูกค้า เรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ ค่าคอมพิวเตอร์สารพัดเงินพิเศษ และหากครูผู้สอนไร้จรรยาบรรณสักแต่ว่าสอนไปวันๆใครอยากได้ความรู้แน่นๆก็ต้องไปเรียนพิเศษไม่เต็มที่กับการสอนในโรงเรียน และหากพ่อแม่ไม่มีเวลาใส่ใจการเรียนของลูกเพราะมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาหาเงิน และหากเด็กไทยยังไม่ตื่นที่จะรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ในการเรียนให้ดี

สอบ O-NET อีกร้อยปี  เรา...ก็ไม่มีวันดีขึ้น และคงไม่ต้องคาดหวังอะไรอีก โดยเฉพาะครูยุคใหม่ ที่เห็นเงินตาโต ลูกศิษย์จะฉลาดหรือโง่ ก็เป็นเรื่องบุญเรื่องกรรมไป


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1066 วันที่ 12 - 18กุมภาพันธ์ 2559)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์