วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

ความในใจ

จำนวนผู้เข้าชม Free track counters

ม้าสีหมอก พบ สุรศักดิ์ ภักดี ครั้งแรกและครั้งเดียว เมื่อราวเดือนตุลาคม 2553 บทสนทนาสั้นๆ วันนั้น ทำให้รู้เรื่องราวการก่อเกิด “ลานนาโพสต์” และความมุ่งมั่นที่จะทำงานสื่อมวลชน ที่มีความรับผิดชอบ อย่างที่ไม่ปรากฏมากนักในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
           
ไม่เพียงความตั้งใจที่จะเป็นสื่อน้ำดี ในบริบทสังคมที่ดูแคลนหนังสือพิมพ์บ้านนอกเท่านั้น หากเส้นทางชีวิตที่มาจากสายวิทย์ จบเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นสำหรับคนที่ยึดอาชีพสายสื่อมวลชน ซึ่งอย่างน้อยมีพื้นฐานทางด้านสังคมศาสตร์ เช่น รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์
           
ความประทับใจ และความชื่นชมศรัทธาในอุดมการณ์ของสุรศักดิ์ ภักดี นั้น ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักความจำเนิ่นนาน ปีถัดมาสุรศักดิ์ ภักดี ได้ละจากโลกนี้ ในปีเดียวกัน “ม้าสีหมอก” ได้รับการหารือเรื่องคดีความจากผู้บริหารปัจจุบัน ในฐานะทนาย ซึ่งก็เป็นห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการทำลานนาโพสต์ต่อ หลังจากสิ้นเสาหลักแล้ว
           
จากบทบาทที่ปรึกษากฎหมายจำเป็น พัฒนามาสู่การเป็นที่ปรึกษาแบบไม่เป็นทางการ ในเรื่องการบริหารจัดการลานนาโพสต์  ในฐานะที่ “ม้าสีหมอก” เคยทำงานในวิชาชีพสื่อมวลชนมายาวนานเกือบ 40  ปี ไต่เต้าจากนักข่าวการเมือง นักข่าวเศรษฐกิจ หัวหน้าข่าว นักเขียน บรรณาธิการฝ่ายผลิต จนกระทั่งบรรณาธิการบริหารในหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่
           
ความรู้ทั้งในแง่ของรูปแบบการจัดหน้า และเนื้อหาที่ผ่านการปฏิบัติจริงมานานถึง ทศวรรษ เพียงพอที่จะบอกได้ว่าลานนาโพสต์ ที่มีนโยบายในการนำเสนอข่าวเข้มข้น มีสาระ จะเดินไปอย่างไร โดยเฉพาะการพิสูจน์ให้เห็นว่า หนังสือพิมพ์ในหัวเมืองซึ่งเคยถูกดูแคลนว่าไม่เป็นมืออาชีพ มาตรฐานต่ำ และมีความหวั่นไหวที่จะละเมิดจริยธรรม เป็นมายาคติที่ไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมด
           
และในที่สุด ลิ้นชักความจำก็ถูกชักออกมา ความเชื่อถือและศรัทธาที่มีต่อสุรศักดิ์ ภักดี  ถูกแปรมาเป็นการสืบสานต่อภารกิจ  เป็นแรงเล็กๆในการขับเคลื่อนลานนาโพสต์  และประกาศให้โลกรู้ว่า คุณภาพ เนื้อหา ความรับผิดชอบ ของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งนั้น มิได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขทางภูมิศาสตร์ หรือเส้นรุ้ง เส้นแวงใดๆ
           
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ หนังสือพิมพ์ส่วนกลาง หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ที่มีทุนรอน มีเครื่องไม้เครื่องมือ พร้อมสรรพ ก็ไม่ได้เก่งกาจหรือมีคุณธรรมเหนือหนังสือบ้านนอก
           
ตลอดอย่างน้อย ปีที่ผ่านมา ลานนาโพสต์ได้ให้บทเรียนกับไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน และคม ชัด ลึก โดยการคว้ารางวัลข่าวอนุรักษณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  เบียดขับหนังสือพิมพ์เหล่านี้ตกเวทีไป
           
ยังมีเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ที่ “ม้าสีหมอก” เอาหัวเป็นประกันได้ในฐานะที่ทำงานหนังสือพิมพ์ในเมืองใหญ่มายาวนานว่า เมล็ดพันธุ์แห่งความเลวร้ายในแวดวงวิชาชีพสื่อมวลชน การใช้อภิสิทธิ์ความเป็นสื่อมวลชน ล้วนมาจากคนหนังสือพิมพ์ในเมืองใหญ่เกือบทั้งสิ้น 
           
ด้านหนึ่ง ลานนาโพสต์ก็อาจเป็นเสมือนห้องทดลอง ของคนข่าวอาชีพ ที่มีความเชื่อว่า การยอมรับนับถือ และความไว้วางใจที่ผู้คนจะมีต่อหนังสือพิมพ์สักฉบับหนึ่งนั้น  ไม่ได้ยึดอยู่กับชื่อ ความยาวนานในการทำงาน การเป็นหนังสือพิมพ์ใหญ่ แต่อยู่ที่ความสัตย์ซื่อ ตรงไปตรงมา และการเข้าถึงความเป็นท้องถิ่น ซึ่งหนังสือพิมพ์ส่วนกลางไม่สามารถทำได้
           
ม้าสีหมอก ยังคงประจำการอยู่ที่นี่ และพร้อมน้อมรับคำติติง วิพากษ์วิจารณ์ ด้วยเหตุด้วยผล ในขณะเดียวกันก็มีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า นาทีนี้ “ลานนาโพสต์” เป็นสื่อท้องถิ่นระดับชาติของทุกท่าน ที่ภาคภูมิใจได้ 

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1072 วันที่ 25 - 31 มีนาคม 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์