แจ้ซ้อนรับกระแสร้อน น้ำตกไหลแรง-คนคึก

จำนวนผู้เข้าชม

น้ำตกแจ้ซ้อนอุดมสมบูรณ์น้ำไหลเย็นตลอดปี นักท่องเที่ยวนับแสนคนแห่เที่ยวคลายร้อน  หัวหน้าอุทยานฯเผยป่าอุดมสมบูรณ์ มีน้ำเก็บกักใช้ปั่นไฟฟ้าใช้เองได้ถึง 60 กิโลวัตถ์  

           

ตลอดช่วงปิดเทอมใหญ่ และช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ประชาชนทั่วไป รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ จ.ลำปาง และใกล้เคียง รวมทั้งชาวต่างชาติ  เป็นครอบครัวใหญ่ต่างมาพากันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง  ซึ่งมีสายน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี  ภายในมีทั้งน้ำพุร้อน น้ำตกที่ไม่เคยแห้งขอด บ่อน้ำแร่กลางแจ้ง ห้องอาบน้ำแร่  ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างแห่แหนมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้

ประกอบกับในช่วงนี้ในพื้นที่จังหวัดลำปางประสบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดเกิด 40 องศาเซลเซียส มานานเกือบ 1 เดือนแล้ว  ทำให้หลายครอบครัวมาเล่นน้ำตกแจ้ซ้อนคลายร้อน ลวกไข่น้ำแร่ ซึ่งมีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ มานั่งล้อมวงทานอาหารกันท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนคึกคักอย่างมาก

นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูรลย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หน.อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน  กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำวังที่มีความสำคัญของ จ.ลำปาง  น้ำไหลมาจากต้นน้ำแม่มอญ ขณะที่ในหลายพื้นที่เกิดความแห้งแล้ง แต่ป่าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนยังคงอุดมสมบูรณ์ ยังมีน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในการเกษตร และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคลายร้อนให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์จะมีเข้ามาจำนวนมาก  บ่อน้ำพุร้อนก็ยังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ที่จะมาผ่อนคลายในการแช่น้ำพุร้อน เป็นเสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้

โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนของปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ช่วงปีงบประมาณ 59 เพิ่งผ่านมาได้ 6 เดือน มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดิมแล้ว 10 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งเดิมช่วงปีงบประมาณ 57 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละประมาณ 1.5 แสนคน   ในปี 58 มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 4-5 หมื่นคน  เป็น 2 แสนคน  และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกมาก

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน กล่าวอีกว่า  สังเกตได้ว่ากระแสการท่องเที่ยว จ.ลำปางดีขึ้น   จากการชูประเด็นท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้ามพลาด  นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น เช่น จีน ญี่ปุ่น   นอกจากสมัยก่อนที่นิยมท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และเชิงอนุรักษ์แล้ว ประชาชนหันมาใส่ใจในการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น  ซึ่งห้องอาบน้ำแร่ของเรามีรองรับมากถึง 20 ห้อง  คนญี่ปุ่นมาเจอห้องอาบน้ำแร่ก็ติดใจ และยังมีบ่อน้ำแร่กลางแจ้งลงเล่นแบบธรรมชาติได้ด้วย   อย่างไรก็ตาม เมื่อคนเพิ่มขึ้นก็ต้องมีการบริหารจัดการที่ดีควบคู่กันไปด้วย  จึงต้องขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวว่าจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ ทำให้การท่องเที่ยวของเรายั่งยืน

ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีปัญหาน้ำฝนน้อย  อุทยานแห่งชาติใหญ่ๆหลายพื้นที่น้ำไม่เคยหายแต่แห้งหายไป เช่น อุทยานแห่งชาติห้วยแก้วที่ จ.เชียงใหม่  แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่า ทำให้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนยังมีน้ำกักเก็บเพียงพออยู่ตลอด  และได้ทำการกั้นฝายไว้บางส่วน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนจึงสามารถนำน้ำมาผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในอุทยานได้ รวมประมาณ 60 กิโลวัตถ์ นายพิชัย กล่าว.

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1076 วันที่ 29 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2559)