วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

โรงเชือดไก่เถื่อน ไร้คนรับผิดชอบ

จำนวนผู้เข้าชม Hit Web Stats

ชาวบ้านร้องเชือดไก่ส่งกลิ่นเหม็น น้ำเน่าเสีย  เทศบาลและปศุสัตว์ต่างอ้างทำดีที่สุดแล้ว  จนหนทางไม่มีเอกชนลงทุนโรงฆ่าสัตว์ปีก ไม่มีทางออกให้ผู้ประกอบการจึงต้องอนุโลม
           
ลานนาโพสต์ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านขอให้ตรวจสอบการฆ่าไก่เพื่อจำหน่าย ภายในชุมชนพระแก้วหัวข่วง และชุมชนช่างแต้ม ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งได้สร้างผลกระทบทั้งเรื่องกลิ่น และของเสียที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำวัง
           
เมื่อเข้าตรวจสอบบริเวณชุมชนที่ได้รับแจ้ง พบว่ามีบ้านเรือนที่ประกอบการฆ่าไก่ตั้งอยู่ติดกันหลายหลังคาเรือน จากการสอบถามชาวบ้าน ซึ่งเปิดร้านขายของชำอยู่ในชุมชน  เปิดเผยว่า บริเวณนี้จะส่งกลิ่นเหม็นมากในช่วงเย็นไปจนถึงกลางคืน โดยเฉพาะวันที่อากาศปิดไม่มีแดดกลิ่นจะยิ่งรุนแรงมาก  เคยมีร้านกาแฟมาเปิดได้ประมาณ 1 เดือน แต่ก็ต้องปิดร้านหนีไปตอนนี้ยังไม่สามารถเซ้งร้านได้ เนื่องจากไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ  ประกอบกับบ่อดักไขมันที่เทศบาลได้ติดตั้งไว้ ไม่เพียงพอ และบ่อมีขนาดเล็กเกินไป  ไม่สามารถดักไขมันและน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
           
ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ฆ่าไก่ขาย ยืนยันว่าที่บ้านของตนมีบ่อบำบัดอยู่ภายในก่อนจะปล่อยน้ำเสียออกลงสู่แม่น้ำวัง และได้ทำมานาน 10 ปีแล้ว พร้อมกับได้พาไปดูที่บ่อบำบัดด้วย  แต่ผู้ประกอบการรายนี้ก็ไม่ทราบว่า บ้านหลังอื่นๆจะมีบ่อบำบัดด้วยหรือไม่
           
ในเรื่องดังกล่าว นายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวว่า   ผู้ประกอบการฆ่าไก่มี 11 ราย  การแก้ไขปัญหาของเทศบาลเองเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะทำท่อระบายน้ำ เพื่อรองรับทุกบ้านบริเวณข่วงวัดพระแก้ว  ปลายท่อก็ได้ทำบ่อดักบ่อกรองเอาไว้ แต่ดักเท่าไรก็ไม่สามารถทำให้น้ำเสียหายไปได้  จากที่เคยอยู่โรงฆ่าสัตว์มานานทำให้รู้ว่าน้ำเสียจากการฆ่าสัตว์รุนแรงมาก ถ้าระบบบำบัดน้ำเสียไม่สามารถทำเป็นระบบที่แท้จริง  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีการบำบัดน้ำจากครัวเรือนใดๆทั้งสิ้น มีการปล่อยเข้าสู่ท่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง มีการทำท่อดักไว้เพื่อกรอง ในฤดูน้ำเยอะก็ไม่สามารถกรองได้เพราะน้ำท่วมถึงบนท่อต้องปล่อยไปตามแม่น้ำ ซึ่งน้ำเสียก็จะเจือจางทำให้ไม่มีกลิ่น  หากช่วงแล้งน้ำแห้ง ก็จะมีกลิ่นเหม็น  เรื่องนี้ยอมรับว่าแก้ได้ยาก 
           
สำหรับการฆ่าไก่มี พ.ร.บ.การฆ่าและจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2535  กรมปศุสัตว์เป็นผู้ดูแล ต้องบังคับให้ทำให้ถูกสุขลักษณะ  ต้องมีการตรวจสอบว่าการดำเนินการที่บ้านมีสะอาดหรือไม่ ซึ่งการจะทำอย่างจริงจังต้องใช้กฎหมายบังคับตั้งแต่ต้น         
“เรายอมรับความจริงแบบไม่ปฏิเสธเลย เทศบาลทำได้เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น และก็จะทำเท่าที่ทำได้  เทศบาลเคยคุยกับปศุสัตว์พอสมควร แต่ทางปศุสัตว์ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับโรงฆ่าสัตว์ปีก” นายกิตติภูมิ กล่าว

ขณะที่นายเพิ่มศักดิ์  วิทยากร ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง  กล่าวว่า  กรณีการฆ่าสัตว์ปีกที่ชุมชนพระแก้วหัวข่วงและช่างแต้ม เมื่อ 3 ปีที่แล้วมีอยู่ประมาณ 20 ราย  ทางปศุสัตว์ได้เข้าไปตรวจสอบและแนะนำว่าการฆ่าสัตว์ปีกจะต้องมีโรงฆ่าที่ถูกต้อง ผู้ประกอบการจึงได้รวมตัวกันเพื่อจะสร้างโรงฆ่า และจัดหาสถานที่ในเขต ต.บ่อแฮ้ว ไว้  แต่เมื่อถึงขั้นตอนหนึ่งที่จะสามารถตั้งโรงฆ่าได้ ได้ติดในกระบวนการของการประชาพิจารณ์ไม่ผ่าน เรื่องจึงตกไป และก็ไม่มีการสรรหาพื้นที่แห่งใหม่  เพราะฉะนั้นที่ลำปางจึงยังไม่มีโรงฆ่าสัตว์ปีกที่ได้รับอนุญาตถูกต้องและได้มาตรฐาน

สำหรับเรื่องความสะอาดก็ต้องเป็นหน้าที่ของกองสาธาณสุขเทศบาลเข้าไปดูแล  รวมทั้งเรื่องการขออนุญาตประกอบกิจการก็ต้องขออนุญาตจากเทศบาล ซึ่งทราบว่ารายหนึ่งจะฆ่าประมาณ 200-400 ตัว รวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000 ตัว   ส่วนปศุสัตว์เป็นหน่วยงานที่จะผลักดันให้มีโรงฆ่าสัตว์ แต่การก่อสร้างโรงฆ่าก็เป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีเอกชนมาลงทุน รัฐก็ไม่ยอมลงทุนเพราะเห็นว่าไม่คุ้ม  ทางออกที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือต้องหาโรงฆ่าสัตว์ปีกให้ได้

นายเพิ่มศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า  คงต้องค่อยๆพูดคุยกัน จะไปบีบให้เขาหยุดทำคงไม่ได้  ถ้ามีโรงฆ่ามาตรฐานแล้วลักลอบฆ่าในบ้าน ทางปศุสัตว์ก็ยังสามารถบังคับใช้กฎหมายได้  แต่ตอนนี้ยังไม่มีโรงฆ่าจะไปจับกุมดำเนินคดีก็ไม่ได้ เพราะเราไม่มีทางออกให้เขา จะให้เขาไปฆ่าที่ไหน สิ่งนี้เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง จึงต้องอนุโลมกันไป

ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเป็นหน้าที่ของหลายฝ่ายร่วมกัน เวลาจะเข้าไปตรวจสอบก็ต้องแจ้งทางตำรวจ ทหาร เทศบาลในพื้นที่เข้าร่วม  ปศุสัตว์มีหน้าที่ถือ พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าและจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2535 ก็จริงแต่สามารถทำได้เพียงร้องทุกข์กล่าวโทษเท่านั้น  ส่วนใหญ่จะแจ้งในสองข้อหา คือ ไม่มีใบอนุญาตขายซากสัตว์ และไม่มีใบอาญาบัตร คือ สัตว์ไม่ผ่านการฆ่าที่ถูกต้องตามกฎหมาย   

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1080 วันที่ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์