วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

กระจกรถต้องรู้ ตอนที่2

จำนวนผู้เข้าชม website counter

การยืดอายุการใช้งานของกระจกหน้า หรือป้องกันไม่ให้เกิดรอยนั้น อย่างแรกที่ต้องทำ คือ การทำความสะอาดผิวกระจกหน้า เพราะสิ่งสกปรกเป็นส่วนที่ทำให้ใบปัดน้ำฝนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากเมื่อใช้งานไปนานๆ คราบแมลง ละอองน้ำมันจากบรรดารถเมล์หรือรถบรรทุก ยางไม้ ฯลฯ จะติดเป็นคราบแข็งที่ผิวกระจกหน้า โดยเฉพาะเจ้าของรถที่ต้องจอดใต้ต้นไม้เป็นประจำ ยางไม้และขี้ของพวกแมลงตัวเล็กๆ จะทำให้เกิดผิวขุรขระคล้ายผิวส้ม ทำให้เกิดเสียงดังเวลาทำงานและเกิดคราบเป็นเส้นๆ และยังเสี่ยงต่อการทำให้ผิวกระจกหน้าเป็นริ้วรอยได้ง่าย 

สำหรับผู้ที่จอดใต้ต้นไม้เป็นประจำควรต้องทำความสะอาดบ่อยๆ การทำความสะอาดในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ใช้น้ำยาเช็ดกระจกเท่านั้นนะครับ เพราะนั่นไม่พอที่จะทำให้ผิวกระจกสะอาดหมดจด การทำความสะอาดที่ได้ผลมากที่สุด คือ ใช้ใบมีดโกนขูดทำความสะอาดผิวกระจกหน้า โดยใช้ใบมีดโกนแบบแบนๆ มีคมด้านเดียว ด้ามยาวๆ อันละ 3-4 บาท ใช้ขูดไปบนผิวกระจกโดยตรงโดยทำมุมเอียงประมาณ 30 องศา แล้วค่อยๆ ขูดผิวกระจก เหมือนเวลาช่างตัดผมโกนหน้าให้คุณนั่นละ ขูดเบาๆ ไปทางเดียวกัน ใจเย็นๆ ไม่ต้องกดแรงเดี๋ยวกระจกจะเป็นรอย เมื่อขูดจนเกลี้ยงทั่วทั้งแผ่นกระจก ที่สำคัญคือ อย่ากดแรง เพียงคุณเอียงมุมของใบมีดมากๆ หน่อยยังไงก็สามารถขูดออกได้ แม้ว่าก่อนหน้าที่จะลงมือขูดจะใช้น้ำยาเช็ดกระจกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วก็ตาม คุณจะเห็นถึงคราบสกปรกที่ถูกขูดออกมาอย่างชัดเจน

ตรวจเชคหัวฉีดน้ำ และถังพักน้ำ

ปัญหานี้มักจะเป็นกับรถอายุเยอะ หรือรถที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลเอาใจใส่ ลองสังเกตดูการฉีดของน้ำล้างกระจกว่าแรงดีหรือไม่ และฉีดอยู่ในแนวที่สมควรหรือไม่ ถ้าหัวฉีดอุดตัน ให้ใช้เข็มเล็กๆ แยงทำความสะอาด และปรับทิศทางให้ไปแนวกึ่งกลางกระจก ถ้าทำความสะอาดแล้วพบว่าแรงดันน้ำเบา ให้ตรวจเชคว่า มีท่อยางรั่วหรือไม่ รวมทั้งเช็คสภาพถังพัก และปั๊มน้ำฉีดกระจกด้วย ถ้าพบว่ามีอุปกรณ์ชำรุด ให้เปลี่ยนใหม่ เพราะของพวกนี้ราคาไม่แพง นอกจากนี้ต้องตรวจการทำงานของระบบไล่ฝ้าว่ายังทำงานตามปกติหรือไม่ นอกจากนี้ คุณสามารถหาซื้อน้ำยาเคลือบกระจกมาใช้ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นได้ ซึ่งจะมีสารช่วยลดการเกาะตัวของหยดน้ำที่ผิวกระจก ช่วยได้มากเมื่อใช้กับกระจกมองข้าง และกระจกหลัง

ตรวจสภาพใบปัดน้ำฝน

เมื่อกระจกสะอาดแล้วก็จะได้รู้ว่าใบปัดของคุณเสื่อมสภาพหรือยัง โดยการลองเปิดที่ปัดน้ำฝนดู (ฉีดน้ำด้วยนะครับ) แล้วสังเกตดูว่าหลังจากปัดแล้วกระจกสะอาดหรือเปล่า และมีเสียงดังด้วยหรือไม่ ถ้ามีหรือทั้ง อย่างก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว เพื่อให้เกิดทัศนวิสัยที่ดี และไม่ทำให้กระจกเป็นรอยภายหลัง 
การดูแลและรักษาสภาพใบปัดน้ำฝนนั้น ไม่ควรยกก้านปัดน้ำฝนค้างไว้ เพราะจะทำให้สปริงของก้านปัดน้ำฝนล้า ทำให้ไม่สามารถกดใบปัดน้ำฝนได้แนบสนิทกับผิวกระจก การปัดน้ำฝนหรือการกวาดน้ำฝนออกจากผิวจึงทำได้ไม่ดี และเมื่อใช้ความเร็วสูงๆ ลมที่มาปะทะกับกระจกนั้นจะทำให้ก้านปัดน้ำฝนยกตัวขึ้นจากแรงลมปะทะ ยิ่งทำให้ใบปัดน้ำฝนไม่สามารถกวาดน้ำฝนที่ผิวกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นไม่ควรที่จะยกก้านปัดน้ำฝนเอาไว้เพราะกลัวใบปัดจะเสื่อมสภาพเร็ว ใบปัดน้ำฝนนั้นราคาไม่แพง สามารถเปลี่ยนได้ทุกปีเพื่อยืดอายุการใช้งานของกระจกหน้า เนื่องจากอากาศบ้านเราร้อนมาก ใบปัดน้ำฝนจะเสื่อมสภาพเร็วอย่างน่าใจหาย อย่าไปเสียดายกับใบปัดน้ำฝนราคาไม่กี่ร้อย เพราะกระจกหน้าบานหนึ่งราคาครึ่งค่อนหมื่นเลยทีเดียว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1082 วันที่ 10 - 16 มิถุนายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์