วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

รุกอุทยานฯผาไท ตัดไม้ชิงชันเกลื่อน เถินยึดไม้ธรรมกาย

จำนวนผู้เข้าชม website counter

แก๊งมอดไม้ลำปางเหิมหนัก ลักลอบเข้าไปตัดไม้ชิงชันป่าลึก อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เขต ต.บ้านแลง เหี้ยนมากกว่า 50 ต้น  ต้องรอการประสานนำช้างมาชักลากของกลางออกจากป่า ส่วนกลุ่มมอดไม้หนีได้ตามเคย  ส่วนที่เถินยึดไม้ธรรมกายกว่า 1,000 แผ่น

วันที่ 22 มิ.ย.59  นายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท และ ประสานเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ชป.ศปทส.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกับการ 4 กองบังคับการ การประทำผิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ สายที่ 1 ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5 สายที่ 1 ลำปาง เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.13 (บ้านแลง) เจ้าหน้าที่สายตรวจการกระทำผิดทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง)  เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดลำปาง กว่า 30  นาย  ได้แบ่งกำลังตรวจสอบ บริเวณผืนป่าท้ายหมู่บ้านบ้านนาแก หมู่ 5  ต.บ้านแลง อ.เมือง และป่าท้ายหมู่บ้าน เขตติดต่อบ้านท่าสี หมู่ 3 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง  ซึ่งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท และเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่จางฝั่งซ้าย

เมื่อเดินเท้าเข้าไปยังจุดที่มีการลักลอบตัดต้นไม้ชิงชัน หรือในท้องถิ่นเรียก ไม้เกล็ดดำเกล็ดแดง จากการสำรวจพบ ไม้ชิงชันถูกลักลอบตัดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ต้น แปรรูปเป็นท่อนเหลี่ยมขนาดใหญ่ กระจัดกระจายไปในพื้นที่ป่าทั้งสองแห่ง มากกว่า 30 ท่อน  มูลค่าหากหลุดออกต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากการซื้อขายเป็นกิโลกรัมไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท แต่ละท่อนเหลี่ยมหนักไม่ต่ำกว่า 200 กิโลกรัม ซึ่งสร้างความเสียหายทางทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก

ส่วนของกลางไม้ชิงชันกว่า 30 ท่อน  ยังไม่สามารถเอาออกมาจากพื้นที่ป่าได้ เพราะอยู่ในป่าลึกมากว่า 10 กิโลเมตร และมีหุบเหวตลอดสองข้างทาง การเข้าออกใช้ได้เพียงรถจักรยานยนต์วิบาก และเดินเท้าเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงเพียงแค่จัดกำลังเฝ้าของกลางไว้ และจะได้เร่งประสานทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย นำช้างเข้าไปชักลากไม้ของกลางออกมาทั้งหมดในวันต่อไป คาดว่าคงใช้เวลาอีกหลายวัน

สำหรับไม้ชิงชัน หรือไม้เกล็ดดำเกล็ดแดง ถือว่าเป็นไม้ชั้นสูงราคาแพงมากในท้องตลาดที่ลักลอบค้าขาย  โดยจะเอาไปทดแทนไม้พยุงที่หายากมากขึ้นในพื้นที่ทางภาคอีสาน ซึ่งไม้ชนิดนี้จะมีอยู่มากในพื้นที่ทางภาคเหนือโดยเฉพาะ จ.ลำปาง ที่มีขบวนการลักลอบค้าไม้ชิงชัน เข้ามากว้านซื้อในราคาสูงมาก จึงเป็นเหตุให้กลุ่มมอดไม้หันมาลักลอบตัดและชักลากไม้ชินชันในเขตป่าลึกมากขึ้น

โดยก่อนหน้าที่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.59 ที่ผ่านมา  กำลังเจ้าหน้าที่กำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกับการ 4 กองบังคับการ การประทำผิดต่อทรัพย์พยากรธรรมชาติและป่าไม้ สายตรวจลำปางสายที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5 สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ ชป.สปทส.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เถิน ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ประจำที่ว่าการอำเภอเถิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเถิน กอ.รมน.จังหวัดลำปาง กำลังเจ้าหน้ที่ ชุด ทำทันที จ.ลำปาง นำโดย สุเทพ พุทชา ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง)  นายรังสรรค์ ขวัญเมืองเดิม นายอำเภอเถิน นายสันธพ เรือนมั่น หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.22 (แม่ปะ) นำกำลังกว่า 30 นาย ร่วมกันเข้าตรวจสอบ ที่ศูนย์อบรมเยาวชนเถินเทิดธรรม (สาขาวัดธรรมกาย) ติดถนน พหลโยธินเถิน-ลำปาง ขาเข้าเมืองลำปาง บ้านท่าผา หมู่ 5 ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง พบกองไม้สัก ไม้กระยาเลย ที่แปรรูปรูปแล้ว กองใต้ถุนอาคารปฏิบัติธรรมสมาธิ อาคารเทิดธรรม 72 ปี พระเทพญา มหามุนี วิ.ธัมมชโย ซึ่งเป็นอาการ 2 ชั้น ใต้ถุนโล่งเป็นไว้เป็นที่เก็บของ พบมีกองไม้ ที่แปรรูปแล้ว ขนาดกว้าง 4 นิ้ว ยาวตั้งแต่ 1-2.5 เมตร มากกว่า 1,000 แผ่น กองอยู่ใต้ถุนอาคาร มีไม้สักท่อนอีกว่า 10 ท่อน กองกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่สอบถามผู้ดูแล ซึ่งเป็นพระสงฆ์ ให้การว่า ทางเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ไม่อยู่ เดินทางไปวัดธรรมกายที่ จ.ปทุมธานี ได้หลายวันแล้ว ส่วนไม้ทั้งหมดเป็นไม้ที่อยู่ภายในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เนื่องจากเป็นไม้ที่ถูกพายุพัดล้ม จึงได้ตัดและนำมาแปรรูปเก็บไว้ โดยไม่คิดว่าจะผิดกฎหมาย แต่เมื่อสอบถามถึงจุดที่มาที่ไปของไม้ ก็พบเพียงบางส่วนเท่านั้น และไม่มีเอกสารการขออนุญาต แปรรูปไม้และมีไม้ ไว้ในครอบครอง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไม้ทั้งหมดมาเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.22 (แม่ปะ)  พร้อมบันทึกตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เถิน ดำเนินการตามกฎหมายทันที จากการเข้าตรวจสอบและยึดไม้ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า สถานที่แห่งนี้ มีเหตุอันน่าสงสัยมีไม้เถื่อนซุกซ่อน จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและพบของกลางจริง จึงได้ดำเนินการตามกฎหมายทันที

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1084 วันที่ 24 - 30 มิถุนายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์