วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อัซซิยาม ที่อัลฟาลาห์

จำนวนผู้เข้าชม Hit Web Stats

ผ่านไปยามค่ำคืน ที่มัสยิดอัลฟาลาห์ แยกศรีชุม ยามนี้ คงได้เห็นบรรยากาศที่คึกคักด้วยผู้คน และแสงไฟสว่างไสว เนื่องเพราะเป็นห้วงเวลาแห่งการละศีลอด และการละหมาดยามค่ำคืนในเดือนรอมฏอน ที่เรียกว่าละหมาดตะรอเวียะห์
           
การถือศีลอด ในภาษาอารบิค คืออัซ เซาม หรืออัซซิยาม หมายถึงการระงับการกิน การดื่ม การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่แสงแรกของดวงตะวัน จนกระทั่งลับขอบฟ้า เหตุผลข้อเดียวในการถือศีลอด คือความศรัทธา เหตุผลอื่นไม่มี
           
แต่หากอธิบายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ การถือศีลอด คือการให้กระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญชิ้นหนึ่งของร่างกายได้พักผ่อน หลังจากทำงานหนักมาตลอด 11 เดือน นอกจากนั้นการอดอาหาร ยังเป็นประโยชน์ในการรักษาโรคด้วย
           
หมอแมกฟาดิน ชาวอเมริกัน เคยอธิบายว่า
           
“การอดอาหารมีส่วนช่วยในการรักษาโรคต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร การอดอาหารเหมือนไม้เท้ากายสิทธิ์ที่ทำให้ผู้ที่เจ็บป่วยหายป่วยรวดเร็ว นอกจากนี้การอดอาหารยังมีส่วนช่วยในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับโลหิต..”
           
เมื่อกล่าวถึงการถือศีลอด และกลุ่มคนมุสลิมในลำปาง สังคมลำปางส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้จักคุ้นเคยกับคนกลุ่มนี้มากนัก เนื่องจากวัตรปฏิบัติที่ค่อนข้างเคร่งครัด และการมีสังคมที่เกี่ยวข้องกันเฉพาะกลุ่ม ทั้งที่มุสลิมลำปางนั้น เป็นสมาชิกของสังคมนี้มายาวนาน
           
มุสลิมลำปางรุ่นแรกๆ อพยพหนีภัยการเมืองจากดินแดนที่ถูกแยกแบ่งมาจากอินเดีย  ปากีสถาน และบังคลาเทศ เราคุ้นเคยกับคนเหล่านี้ด้วยคำเรียกขานว่า ปาทาน โรฮิงญาซึ่งเป็นมุสลิมสายพม่า ก็สืบสาแหรกมาจากปาทานเช่นเดียวกัน
           
อัลฟาลาห์ เป็นมัสยิดแห่งแรกของลำปาง สร้างขึ้นในปี 2495 โดยมุสลิมที่อพยพมาจากประเทศอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ รวมทั้งมุสลิมเชื้อสายมลายูจากตอนใต้ของประเทศ ทุกวันศุกร์มุสลิมในจังหวัดลำปางจะไปชุมนุมกันที่อัลฟาลาห์  เป็นวัตรปฏิบัติทางความเชื่อ ที่ต่อเนื่องมาไม่ขาดสายกว่า 60 ปี
           
สันนิษฐานว่า นอกจากมุสลิมสายปาทาน มลายูแล้ว สายจีนฮ่อซึ่งเป็นประชากรมุสลิมส่วนใหญ่ ในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่  ก็น่าจะอพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่ลำปางด้วย มาลำปางคราวใด มีคนแนะนำให้ไปลิ้มรสข้าวซอยอิสลาม ตรงเชิงสะพานรัษฏาภิเศก ฝั่งตำบลเวียงเหนือ ที่ว่ากันว่า เป็นข้าวซอยที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย เจ้าของเป็นมุสลิมจีนฮ่อ
           
ข้าวซอย เดิมคือ ก๋วยเตี๊ยวฮ่อ เป็นอาหารดั้งเดิมของมุสลิมจีนฮ่อ ไม่ใช่อาหารพื้นเมืองของภาคเหนือ
           
เชียงใหม่ นับเป็นเมืองหลวงของมุสลิมสายจีน ที่คนพื้นเมืองเรียกว่า จีนฮ่อ ต้นตระกูลของพวกเขาสายหนึ่งอพยพมาจากมณฑลยูนาน ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน  นับตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 กระจายตัวอยู่ในอำเภอฝาง แม่อาย และเชียงใหม่ ซึ่งมีมัสยิดจีนฮ่ออยู่ถนนช้างคลาน เป็นเสมือนแลนด์มาร์คของมุสลิมในภาคเหนือ
           
อีกสายหนึ่งเป็นทหาร ที่แตกทัพมาจากกองพล 93 กองทัพจีนคณะชาติ ที่ถอยร่นมาจากการเข้ายึดครองจีนของเหมา เจ๋อ ตง จำนวนหนึ่งอพยพไปไต้หวัน อีกจำนวนหนึ่งยึดแผ่นดินไทยเป็นเรือนตาย รัฐบาลขณะนั้นจัดให้มีค่ายผู้อพยพกว่า 50 แห่งทั่วภาคเหนือ  ซึ่งมาถึงรัฐบาลนี้  การจัดให้มีค่ายอพยพชาวโรฮิงญา คงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
           
มุสลิมในภาคกลาง ส่วนหนึ่งสืบสายมาจากเฉกอะหมัด หรือพระยาเฉกอะหมัดรัตนราชเศรษฐี เจ้ากรมท่าขวา ว่าที่จุฬาราชมนตรี ในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็น ต้นสกุล บุนนาค อีกสายหนึ่งสืบเชื้อสายมาจากสุลต่านสุลัยมาน เจ้าเมืองพัทลุงและสงขลา ซึ่งลูกหลานในสายสุลต่านสุลัยมาน ต่อมาได้เป็นพระยาราชบังสัน หรือตำแหน่งแม่ทัพเรือ ต่อเนื่องกันมาจากสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งรัชกาลที่ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
           
อีกสายหนึ่งมาจากการกวาดต้อนมุสลิมสายมลายูในภาคใต้ ครั้งเมื่อรัชกาลที่ ยกทัพไปตีปัตตานีดารุสสลาม กลุ่มนี้มีถิ่นฐานปัจจุบันอยู่ในเขตมีนบุรี หนองจอก บางกะปิ ลาดกระบัง ส่วนที่เคยเป็นขุนนางในราชสำนักปัตตานี อยู่แถวบางพลัด บางอ้อ คลองบางกอกน้อย เจริญพาศน์ คลองบางหลวง รวมทั้งสืบเชื้อสายมาจากแขกจาม ทหารรับจ้างจากเขมร  เป็นมุสลิมที่ตั้งถิ่นฐานอยู่แถวอุรุพงษ์
           
คิดถึงมุสลิมลำปางแล้ว เหมือนนั่งยานเวลากลับไปในอดีต เห็นคนมุสลิมหลายสายที่ร่วมเส้นทางประวัติศาสตร์ชาติไทยมาด้วยกัน และกลายเป็นคนไทยแท้ๆวันนี้

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1082 วันที่ 10 - 16 มิถุนายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์