นายกฯเขลางค์ซัด โดนเล่นของ สร้างสนง.ไม่เสร็จ

จำนวนผู้เข้าชม

อุปสรรคเพียบ สำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์ นายกฯเผยถึงขั้นมีคนเล่นไสยศาสตร์ ทำทุกทางไม่ได้สร้างสำเร็จ ล่าสุดบริษัทรับเหมาร้องเรียนกันเองไม่จ่ายค่าจ้าง 

หลังจากที่ เทศบาลเมืองเขลางค์นครได้ดำเนินการลงนามในสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ระหว่าง นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร กับ นายสุทธิศักดิ์  โล่ห์สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม.วี.เอส ดีเวลลอปเม้นท์ 1688 จำกัด  ในวงเงินก่อสร้าง 178,050,000 บาท โดยสัญญาก่อสร้างนับถัดจากวันเริ่มดำเนินการตามสัญญา 600 วัน จำนวน 20 งวดงาน  เมื่อวันที่ 28 ก.ย.58  ที่ผ่านมา  ล่าสุดได้เกิดปัญหามีคนงานชูป้ายร้องเรียนว่าไม่ได้รับค่าจ้างจากการก่อสร้าง

นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร  เปิดเผยว่า  ทางเทศบาล ได้นำสัญญากับบริษัท เอ็ม.วี.เอส ดีเวลลอปเม้นท์ 1688 จำกัด   ได้การก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร โดยบริษัท เอ็ม.วี.เอสฯ ได้มีการไปว่าจ้างบริษัทอื่นมารับช่วงงานต่อ ซึ่งค่าจ้างนั้นอยู่ที่การตกลงของบริษัททั้งสองจะคุยกันเอง  โดยบริษัทที่มารับช่วงงานต้องมีเงินหมุนเวียนอย่างต่ำ 30 ล้านบาท  เพื่อใช้จ่ายค่าแรงและค่าวัสดุต่างๆ ไม่ใช่รอแต่เบิกเงินจากบริษัทที่ว่าจ้างเพียงอย่างเดียว ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ บริษัทรับช่วงต่อ ได้จ้างคนงานมาเพิ่มแต่เงินหมุนไม่ทัน จึงไม่ได้จ่ายค่าแรงให้คนงาน  เมื่อเกิดปัญหาขึ้นทางบริษัท เอ็ม.วี.เอสฯ ก็ได้ยกเลิกจ้างบริษัทรับช่วงไป ตอนนี้ทราบว่าหาบริษัทใหม่เข้าทำแทนแล้ว

นายไพฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า  ปัจจุบันบริษัท เอ็ม.วี.เอสฯ เบิกงานงวดที่ 3  ไปแล้ว และกำลังเริ่มงวดงานที่ 4 และ 5 ต่อ   ซึ่งบริษัทรับเหมาก่อสร้างพวกนี้จะต้องมีเงินสำรองที่จะทำงานล่วงหน้าได้ การทำงานจะต้องมีแผนงาน เช่น  ระหว่างที่รอเบิกงวดแรก ก็ทำงวดที่ 2 ต่อไปได้เลย ถ้าทำไปแบบนี้งานจะเร็วและต่อเนื่อง  แต่ปัจจุบันงานได้ล่าช้าไปแล้ว 100 กว่าวัน  หากงานเสร็จไม่ทัน 600 วัน ในเดือน พ.ค.60 ตามที่กำหนดในสัญญา บริษัท เอ็ม.วี.เอส.ฯ ก็ต้องโดนปรับวันละ 1 แสนบาท  แต่ทางบริษัทรับปากว่า ระยะเวลาที่ช้าไป 30 วันจะดึงคืนกลับมา หากได้บริษัทใหม่เข้ามาช่วยก็คงไม่น่ามีปัญหา

           

จากปัญหานี้ ทราบว่า บริษัทรับช่วงต่อได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมว่าไม่ได้รับค่าแรง ซึ่งตามขั้นตอน เมื่องวดงานตรวจรับผ่านแล้ว บริษัท เอ็ม.บี.เอส.ฯ ซึ่งเป็นคู่สัญญากับทางเทศบาลเมืองเขลางค์นคร  ก็จะดำเนินการเบิกเงินและจ่ายให้กับบริษัทฯตามสัญญา  ส่วนบริษัท เอ็ม.บี.เอส.ฯกับบริษัทรับช่วงต่อจะต้องไปพูดคุยกันเอง  ทางเทศบาลไม่มีอำนาจที่จะสั่งระงับเช็คที่จ่ายให้กับบริษัท เอ็ม.บี.เอส.ฯ ได้  หากจะฟ้องเทศบาลก็ไม่สามารถทำได้ เพราะบริษัทรับช่วงไม่ได้เป็นคู่สัญญากับเทศบาล ดังนั้นต้องไปตกลงกันกับ บริษัท เอ็ม.บี.เอส.ฯ เอง        นายกเทศมนตรี กล่าว

           

นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า สำหรับในพื้นที่การก่อสร้างได้มอบให้กับผู้รับเหมาทำการก่อสร้างแล้ว จำนวน 52 ไร่ การจะเข้าไปดูการทำงานก็ต้องแจ้งทางบริษัทก่อน  เทศบาลไม่มีสิทธิ์เข้าไปสั่งการใดๆ  ตอนนี้ก็ยังดำเนินการก่อสร้างอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีการหยุดดำเนินการแต่อย่างใด

             

“คิดว่าการเป็นก่อสร้างที่ยาวนาน น่าจะขึ้นอยู่ที่จังหวะของการบริหารงานแต่ละคนด้วย  แต่สมัยที่ตนเองบริหารอยู่ มีการกลั่นแกล้งสารพัด ในที่ดินมีคนเข้าไปทำไสยศาสตร์ ไปเจอของมาวางไว้ตามมุม มีการทำทุกรูปแบบ เพื่อขัดขวางไม่ให้ได้สร้างเทศบาล ไม่ให้การทำงานราบรื่น  ซึ่งตนเองก็ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ดูฤกษ์งามยามดี บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางหมด”  นายไพฑูรย์ กล่าว  

           

ทั้งนี้  เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.59  ได้มีกลุ่มคนงานที่เข้ามารับจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร  ประมาณ 20 คน รวมตัวกันในพื้นที่ก่อสร้าง พร้อมชูป้ายว่า “ทำแทบตายแต่ไม่ได้ค่าจ้าง จะผลัดกันถึงเมื่อไร” ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคนงานรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองได้รับจ้างงานของบริษัทตะวัน ซึ่งเป็นบริษัทที่รับช่วงต่อมาจากบริษัทเอ็ม.บี.เอส.ฯ  โดยได้นำเครื่องจักร รถแบ็คโฮ เข้ามาทำงานในพื้นที่ ในการเบิกจ่ายครั้งแรกก็มีการเบิกจ่ายเงินได้ตามปกติ ตนได้ทำงานมาจนถึงวันที่ 31 มี.ค.59  และได้วางบิลขอเบิกเงินค่าจ้างไปวันที่ 5 เม.ย.59 แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างเลย  มีคนงานหลายคนที่ไม่ได้รับเงินเหมือนกัน เพราะการทำงานมีหลายส่วน รวมแล้วน่าจะเกือบ 100 คน  ยอดเงินน่าจะเป็นหลักล้านบาท  ซึ่งมีคนงานบางกลุ่มได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม  ส่วนตนเองคงจะรอดูต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1083  วันที่ 17 - 23 มิถุนายน 2559)