นายกฯบ้านดงร้องประยุทธ์ ถูกข้อหารุกป่า เป็นผู้มีอิทธิพล

จำนวนผู้เข้าชม

นายก อบต.บ้านดง เจอข้อหาผู้มีอิทธิพลลำดับที่ 8  บุกรุกแผ้วถางป่า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบเข้าใจผิด เจ้าตัวเตรียมร้องนายกรัฐมนตรี ขอความยุติธรรมเนื่องจากเสื่อมเสียชื่อเสียง  และยื่นหนังสือถึง ผวจ.ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ ข่าวความมั่นคงผิดพลาด

           

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 59  เจ้าหน้าที่ทหารค่ายประตูผา นำกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท  ตำรวจ สภ.แม่เมาะ ฝ่ายปกครองอำเภอแม่เมาะ ได้เข้าพบนายศุกร์ ไทยธนสุกานต์ นายก อบต.บ้านดง  อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง หลังจากพบว่ามีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลลำดับที่ 8 ของ อ.แม่เมาะ  พร้อมกับได้เข้าไปตรวจสอบที่ดินเขตบ้านห้วยตาด หมู่ 4 ต.บ้านดง  เนื่องจากได้รับแจ้งว่าเป็นที่ดินของนายก อบต.ที่เข้าไปแผ้วถางป่า เพื่อนำที่ดินมาใช้ประโยชน์   แต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่าที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่ ที่ชาวบ้านจับจองไว้ทำการเกษตร ไม่ใช่ที่ดินของนายก อบต.ตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด  นอกจากนั้นยังได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักซึ่งไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายเช่นกัน

           

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอยู่นั้น นายศุกร์ ไทยธนสุกานต์  ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า เหตุใดตนเองจึงอยู่ในรายชื่อผู้มีอิทธิพล ทั้งที่ตนเองเป็นคนอนุรักษ์ป่ามาโดยตลอด  เจ้าหน้าที่ตอบเพียงว่าได้รับรายงานข่าวมา และได้รับคำสั่งจาก มทบ.32 เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งค่ายประตูผาอยู่พื้นที่ใกล้เคียง จึงมอบให้เจ้าหน้าที่ประตูผาเข้าตรวจสอบดังกล่าว

           

หลังจากตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำผิด ทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงได้ให้นายศุกร์ ไทยธนสุกานต์  เดินทางไปที่ว่าการอำเภอแม่เมาะ เพื่อทำบันทึกและลงนามร่วมกัน ว่าได้มีการเข้าตรวจสอบแล้ว ไม่พบความจริงตามที่ระบุในบัญชีผู้มีอิทธิพล  ไม่ปรากฏเป็นผู้อิทธิพลตามที่ถูกกล่าวหา อำเภอ  และให้นายก อบต.บ้านดง ให้ความร่วมมือกันในการปกป้องป่า ฟื้นฟูป่า และดูแลประเทศชาติ

นายศุกร์  ไทยธนสุกานต์  นายก อบต.บ้านดง  เปิดเผยกับลานนาโพสต์ว่า ถ้าข่าวกรองความมั่นคงออกมาเป็นอย่างนี้ ก็เป็นข่าวที่เชื่อถือไม่ได้ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ และผู้ถูกกล่าวหาอย่างกว้างขวาง   ช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้ อบต.บ้านดงจะเป็นเจ้าภาพการประชุมอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ด้านที่ดิน  โดยมีพลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง  มาเป็นประธาน  ซึ่งจะยื่นเรื่องให้ พลเอกสุรินทร์โดยตรง 1 ฉบับ และจะยื่นผ่านไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งฉบับด้วย เพื่อขอความเป็นธรรมในการกู้ชื่อเสียงของตนเอง  และตนเองจะได้กระทู้ถามผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในการประชุมผู้บริหารท้องถิ่นด้วยว่าเหตุใดตนเองจึงติดอยู่ในรายชื่อผู้มีอิทธิพล  และจะรายงานให้ทราบว่าที่ผ่านมาตนได้ดำเนินการดูแลปกป้องผืนป่า อนุรักษ์ป่าและน้ำอย่างไรบ้าง   พร้อมกับจะขอให้ทางผู้ว่าฯ ช่วยติดตามคดีของบุคคลที่ตนเองสงสัยว่าจะเป็นผู้กล่าวหาตนในครั้งนี้ด้วย

นายก อบต.บ้านดง กล่าวอีกว่า  ตนเองได้ขับเคลื่อนและปกป้องชาวบ้านในเรื่องจับจองที่ดิน การกันแนวเขตพื้นที่ไร่หมุนเวียนตามมติวิถี ครม.53 ที่ให้หยุดจับกุมกะเหรี่ยง ฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง และให้กันแนวเขตไร่หมุนเวียน ป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ ออกเป็นโซน ก่อนประกาศพื้นที่ป่าเป็นอุทยานแห่งชาติ

ทุกพื้นที่ ในหมู่3,4,5,6, เป็นเขตป่าหมด เป็นพื้นที่เดิมที่ชาวบ้านเคยทำกินก่อนประกาศป่าสงวน บนเขาปลูกไม้ไผ่เศรษฐกิจ และพืช เช่น กาแฟ มะแข่วน มีทุ่งนา และปลูกข้าวไร่  ส่วนพื้นราบก็จะมีปลูกส้มโอ  สัปปะรด ไร่ข้าว มันสำปะหลัง  ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้สิทธิในพื้นที่ทำกินแต่อย่างใด

           

ในเรื่องการตรวจสอบรายชื่อผู้มีอิทธิพลนั้น  สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)มีคำสั่ง เลขที่ 324/2558 ลงวันที่ 29 ต.ค. 2558 ให้ตั้งคณะกรรมการเรื่องการบูรณาการปราบปรามผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน และมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นคณะกรรมการ ให้เดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ

ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา และ ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะคา เข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมายตามบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลที่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 3 ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง  บ้านของนายกิตติคุณ ไชยจิตร อายุ 32 ปี  พบอาวุธปืนลูกซองยาว เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง เมื่อตรวจสอบทะเบียนปืนกพบว่าเป็นชื่อของคนอื่น ก่อนจะควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เกาะคา  แจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีสิ่งเทียมอาวุธปืน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะคา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1085 วันที่ 1 - 7 กรกฎาคม  2559)