ลักถังแก๊ส งัดตู้เอทีเอ็ม หวังฉก4.8ล้าน

จำนวนผู้เข้าชม

รวบตัวคนร้ายก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย พยายามใช้แก๊สเผาแต่ไม่สำเร็จ โชคดีเงิน 4.8 ล้านเศษยังอยู่ครบ เหตุที่ทำเพราะตกงานอยากได้เงินใช้

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.59 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ลำปาง นำโดย พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม  พ.ต.ต.สมชาย ก้านชมพู สว.สส.   พ.ต.อ.ศุภกร ศรีพฤกษ์  ผกก.สภ.ทุ่งฝาย  ร่วมเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี นำโดย ร.อ.พสธร ถานี  จ.ส.อ.สุพงษ์ มานะจรรยาพงศ์ จ.ส.อ.ศุภชัย กันทะหล้า  ส.ต.ปรีดา วงษ์เที่ยง และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารอีกจำนวนหนึ่ง  ได้ร่วมกันควบคุมตัวนายสุทธิพงษ์ ทิพย์บุตร อายุ 37 ปี  ราษฎรบ้านเลขที่ 1/24 หมู่ 4 ต.แสนตอ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ขณะนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้านพัก 

หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อกลางดึกของวันที่ 25 มิ.ย. ช่วงติดต่อวันที่ 26 มิ.ย. ได้มีคนร้ายก่อเหตุลักลอบตัดกุญแจตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าบริษัทนิ่มซี่เส็ง สาขาต้นธงชัย  เยื้องปั้มน้ำมันบางจาก ข้างสถานปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษมเขมโกได้รับความเสียหาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องสงสัยคือนายสุทธิพงษ์ ทิพย์บุตร พักอยู่ที่บ้านเลขที่ 904 ต.ต้นธงชัย  อ.เมือง จ.ลำปาง จึงได้ประสานขอกำลังทหารจาก มทบ.32 ใช้มาตรา 44  เข้าไปตรวจสอบ กระทั่งพบตัวนายสุทธิพงษ์ กำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้านจึงควบคุมตัวไว้

จากการสอบสวน นายสุทธิพงษ์  ยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุจริง ก่อนจะลงมือได้ไปขโมยถังแก๊สมาจากร้านซ่อมแอร์และติดตั้งหม้อน้ำ เลขที่ 230/3  ต.ต้นธงชัย  เพื่อมาเตรียมการไว้ก่อน จากนั้นเวลาประมาณ 00.40 น. ของวันที่ 26 มิ.ย.56 ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิซซูบิชิ แชมป์รุ่นเก่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำอุปกรณ์เป็นคีมขนาดใหญ่ พร้อมถังแก๊สและสายพ่น ขับไปจอดหน้าบริษัทนิ่มซี่เส็ง  โดยได้ใช้คีมงัดด้านหน้าตู้เอทีเอ็มออก และใช้แก๊สพ่นช่วงรอยต่อ  แต่ขณะก่อเหตุกลัวว่าจะมีคนผ่านมาเห็นเพราะแสงไฟจากการพ่นมีความสว่าง อีกทั้งถนนเส้นดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักที่รถสัญจรผ่านไปมาอยู่ตลอด จึงได้ยกเลิกและเก็บของกลับบ้านไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวไว้ได้

ด้าน พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม  สว.สส.ภ.จว.ลำปาง  กล่าวว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพนักงานของบริษัทนิ่มซี่เส็งว่าตู้เอทีเอ็มด้านหน้าบริษัทมีร่องรอยการถูกแก๊สเผาเป็นสีดำ จึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ก็พบว่ามีร่อยรองพยายามที่จะงัดแงะตู้เพื่อนำเงินด้านในออกไป แต่โชคดีที่คนร้ายไม่สามารถนำเงินออกไปได้  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดได้ร่วมกับสืบสวน สภ.ทุ่งฝาย สืบหาตัวคนร้าย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามโครงการตาสับปะรด กระทั่งพบรถต้องสงสัยคันที่ก่อเหตุ มีการนำไปตั้งขายที่เต็นท์รถแห่งหนึ่ง จึงได้สืบสวนจนสาวไปถึงตัวนายสิทธิพงษ์ และจับกุมตัวได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.ศุภกร ศรีพฤกษ์ ผกก.สภ.ทุ่งฝาย กล่าวว่า  โชคดีที่คนร้ายไม่สามารถงัดเงินออกไปได้ ซึ่งด้านในตู้เอทีเอ็มมีเงินสดอยู่ถึง 4.8 ล้านบาทเศษ  หลังเกิดเหตุทางธนาคารก็ได้นำเงินออกไปเก็บไว้แล้ว  ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ ผู้ต้องหาบอกว่าตนเองตกงานต้องการจะนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว  และจากการสอบสวนยังทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยมีคดีลักทรัพย์มาก่อนในท้องที่ จ.อุตรดิตถ์ และได้ย้ายมาอยู่กับภรรยาที่ จ.ลำปาง   ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ และพยายามลักทรัพย์ โดยทำอันตรายสิ่งกีดขวางที่คุ้มครองทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1086 วันที่ 8 - 14 กรกฎาคม  2559)