วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ภัยแล้งทำกล้วยแพง เกษตรกรยิ้มร้านขนมซึม

จำนวนผู้เข้าชม Hit Web Stats

เกษตรกรยิ้มหลังภาวะภัยแล้งพายุฝนดันราคาพืชผลพุ่งเท่าตัว กล้วยน้ำว้าราคาแรงทะลุ หวีเล็กราคา 50 บาท กระทบร้านทำขนมต้นทุนเพิ่ม ขณะที่สัปปะรด แพงสุดในรอบ 10 ปี ลูกละ 40 บาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากการสำรวจราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอใกล้เคียงในจังหวัดลำปาง ว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาพืชผลในท้องถิ่น และผลไม้ตามฤดูกาลดีดราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัวจากราคาปกติ โดยเฉพาะสับปะรดและกล้วยน้ำว้า มีราคาสูงขึ้นกว่าปกติค่อนข้างสูง ล่าสุดราคาขายปลีกกล้วยน้ำว้าในตลาดท้องถิ่น ทั้งตลาดบริบูรณ์ อ.เกาะคา และตลาดหลักเมือง อ.เมือง จ.ลำปาง  รวมถึงตลาด รอบนอกอำเภอต่างๆ จำหน่ายราคาหวีละ40-55 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกล้วยหวีขนาดเล็ก (ประมาณฝ่ามือ) ส่วนกล้วยหอมขายในราคาหวีละ 120-160 บาท ขณะที่กล้วยไข่ราคาหวีละ 50-70 บาทตามขนาด  เมื่อเทียบกับราคาในห้างสรรพสินค้า ขณะนี้ราคาผลไม้ยังคงมีราคาสูงทุกชนิด โดยราคากล้วยไข่อยู่ที่หวีละ 69 บาท กล้วยน้ำว้า 50 บาท

จากสอบถามแม่ค้าขายกล้วยน้ำว้าในท้องถิ่นระบุว่า ปีนี้กล้วยน้ำว้าขายได้ราคาแพงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบมาจากภัยแล้ง และเหตุพายุหนักติดต่อกันหลายระรอก ทำให้ต้นกล้วยโค่นล้มเสียหายจำนวนมาก ทั้งกล้วยในไร่สวน และกล้วยที่ปลูกตามบ้านเรือน ขณะที่ความต้องการบริโภคกล้วยมีสูงเท่าเดิม เนื่องจากเป็นอาหารหลักในครัวเรือน ทั้งใช้ทำขนม และรับประทานผลสุกในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และผู้รักสุขภาพ

แม่ค้าผลไม้ในตลาดหลักเมือง และตลาดอัศวิน ระบุว่า แต่ปีนี้กล้วยในท้องถิ่นลดน้อยลง และมีแต่กล้วยหวีขนาดเล็ก ซึ่งต่างกับทุกปีที่กล้วยมีขนาดผลและหวีค่อนข้างใหญ่ โดยในปีนี้แม่ค้าร้านผลไม้ส่วนใหญ่ รับซื้อกล้วยจากต่างจังหวัดมาจำหน่ายซึ่งมีราคาสูงกว่าทุกปี รวมถึงแม่ค้าขายปลีกที่นำกล้วยจากสวนมาขายเอง ซึ่งผู้บริโภคก็ยังยอมซื้อในราคาที่สูง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแม่ค้า ขายกล้วยทอด ขนมที่ใช้กล้วยเป็นส่วนประกอบ เช่น กล้วยปิ้ง ขนมไส้กล้วยต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากราคากล้วยปีนี้

พ่อค้าขายขนมข้าวมันปิ้งที่ตลาดหลักเมือง เผยว่า ปกติตนซื้อกล้วยราคา 25-30 บาท แต่ในช่วงนี้กล้วยดีดราคาสูงขึ้นเป็น 50-60 บาท ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ล่าสุดต้องสั่งซื้อกล้วยดิบปนห่ามจากต่างจังหวัดไว้รอบละ 100 กิโลกรัม(กก.) เพื่อนำมาบ่มให้สุกเอง ในราคา ก.ก.ละ 11 บาท หรือบางช่วงไม่เกิน 20 บาท ซึ่งการสั่งซื้อลักษณะนี้ทำให้ได้ต้นทุนที่ถูกลง ขณะที่ แม่ค้าขายกล้วยทอดหลายแห่งระบุว่า ยอมรับว่ากล้วยราคาสูงจนต้องลดปริมาณผลิตลงและให้ลูกค้าเลือกบริโภคอย่างอื่นแทน  ส่วนร้านกล้วยปิ้งบางราย จำหน่ายในราคาผลละ 5 บาทตามภาวะราคาของวัตถุดิบ

นายพุทธ ปะปาละ พ่อค้าขายสับปะรดในตลาดหลักเมือง เผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของเกษตกรที่ราคาพืชผลส่วนใหญ่มีราคาสูงทุกชนิด ซึ่งเป็นผลมาจากภัยแล้ง ส่วนสับปะะรดก็เป็นพืชผลชนิดหนึ่งที่มีราคาสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ราคาขายส่งหน้าสวนอยู่ที่ กก.ละ 10-12 บาท จากที่เคยขายได้เพียง กก.ละ 5 บาท  ขณะที่ราคาขายปลีกปีนี้ได้ราคาลูกละ 30-40 บาท จากที่เคยขายสูงสุดได้เพียงผลละ 20 บาท เกษตรกรส่วนใหญ่มักแบ่งผลผลิตไว้ขายทั้งปลีกและส่ง เนื่องจากขายปลีกบริเวณหน้าสวน บริเวณบ้านเสด็จ และพื้นที่ปลูกที่ติดริมถนน รวมถึงนำมาขายปลีกที่ตลาดเองจะได้ราคาดีมาก

อย่างไรก็ตามยอดขายก็ยังไม่สูงมากนักเนื่องจากผู้บริโภคก็จับจ่ายน้อยลง 

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1088 วันที่ 22 - 28 กรกฎาคม  2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์