วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กรุงไทยยืนยัน สาวอบจ.กู้จริง รอกระบวนการกฎหมาย

จำนวนผู้เข้าชม website counter

กรุงไทยสำนักงานใหญ่ชี้แจง สาวลูกจ้าง อบจ.เป็นหนี้บัตรเครดิต 2 ใบ ตกลงให้หักเงินผ่านบัญชีธนาคาร แต่ลูกค้าได้ย้ายบัญชี และไม่ได้ชำระหนี้จึงส่งฟ้องตามกฎหมาย  ขณะที่เจ้าตัวยันหัวชนฝาไม่เคยกู้เงินบัตรเครดิต รอกระบวนการยุติธรรมชี้ขาด

  • สาว อบจ.นั่งขอทาน
จากกรณีที่ได้มีการนำเสนอข่าวของ น.ส.วรณัน ณ ลำพูน อายุ 32 ปี พนักงานจ้าง ของ อบจ.ลำปาง มานั่งขอทานอยู่ตรงบันไดทางขึ้นศาลากลางจังหวัดลำปาง พร้อมกับเขียนข้อความขอความเป็นธรรมหลังถูกพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งปลอมแปลงลายเซ็น และนำไปกู้เงิน  ทำให้ต้องเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว ร่วม 1 แสนบาท   และโดนศาลแขวงเชียงใหม่ฟ้องดำเนินคดี เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 58  จากนั้นเจ้าตัวจึงได้นำหลักฐานเอกสารที่อ้างว่าถูกพนักงานธนาคารการปลอมลายเซ็นดังกล่าว เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปาง    แม้ว่าเรื่องจะเกิดมานานนับปีแล้ว แต่คดีกับไม่มีความคืบหน้า ด้วยความร้อนใจจึงได้ทำหนังสือขอถวายฎีกาถึงสำนักพระราชวัง ผู้บังคับการจังหวัดลำปาง ศูนย์ดำรงธรรม และรักษาการนายก อบจ. เพื่อให้หน่วยงานต้นสังกัดที่ตนเองเป็นลูกจ้างให้รับรู้เรื่องราวต่างๆ  และในวันที่ 18 ส.ค.59 ที่ผ่านมา จึงได้ไปนั่งขอทานที่ศาลากลางจังหวัด

  • ฎีกาสั่งรื้อคดี
 ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง น.ส.วรณัน ณ ลำพูน ผู้เสียหาย ถึงความคืบหน้าทางคดี ซึ่งก็รับการบอกเล่าว่า  หลังจากทราบว่าถูกฟ้อง และถูกปลอมลายเซ็น  ตนเองจึงได้ไปแจ้งความไว้ แต่เรื่องก็ไม่คืบหน้า จึงได้ยื่นร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน รวมถึงยื่นฎีกาไปถึงสำนักพระราชวังด้วย เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 59 ทางสำนักราชเลขาได้มีหนังสือมาถึงตนเอง พร้อมกับแจ้งว่า ขณะนี้ทางสำนักราชเลขาได้รับเรื่องเอาไว้แล้วและจะส่งเรื่องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการต่อไป ซึ่งต่อมาทางสำนักราชเลขาได้มีหนังสือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดให้ดำเนินการต่อ  กระทั่งทางอัยการฯส่งเรื่องมายังสำนักงายอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี ภาค 5 เชียงใหม่ ให้เรียกคู่กรณี และผู้บริหารของธนาคารดังกล่าวมาทำการไกล่เกลี่ยในวันที่ 26 เม.ย. 59 แต่ฝ่ายผู้บริหารและคู่กรณีไม่ไปตามนัด แต่ใช้วิธีโทรศัพท์แจ้งไปยังคณะผู้ไกล่เกลี่ยโดยอ้างว่าไม่สะดวกในการเดินทางแต่จะขอให้ไปไกล่เกลี่ยกันที่สำนักงานอัยการ จ.ลำปางแทน ซึ่งทางสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์ฯ จ.เชียงใหม่ จึงได้ทำบันทึกข้อมูลเอาไว้เพื่อเสนอไปยังสำนักราชเลขาเพื่อแจ้งเรื่องให้ทราบ และทำหนังสือฉบับใหม่ส่งไปยังสำนักงานอัยการ จ.ลำปาง ให้นัดมาไกล่เกลี่ยกันในวันที่  6 ก.ค.59  จากนั้นทางสำนักงานอัยการได้แจ้งไปยัง สภ.เมืองลำปาง ให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นของทางตำรวจและอัยการ 

  • ยันถูกปลอมลายเซ็น
น.ส.วรณัน  กล่าวว่า ยอดเงินที่ตนเองถูกฟ้องนั้นมีมา 2 ยอด ยอดละประมาณ 3 หมื่นบาท รวมเป็นเกือบ 7 หมื่นบาท ซึ่งยอมรับว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตจริงอยู่ 3 หมื่นกว่าบาท แต่อีกยอดหนึ่งไม่ทราบว่าเป็นหนี้จากที่ไหน จึงเชื่อว่าตนเองถูกปลอมลายเซ็นจนก่อให้เกิดหนี้สินเพิ่มเติมขึ้นมา  ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายที่ต้องเดินทางไปขึ้นศาลแล้ว ก็รวมกว่า 1 แสนบาท  ตอนนี้ตนเองก็ยังต้องรอให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน  การที่มานั่งขอทาน คนที่มองเห็นอาจจะเข้าใจว่ามาขอเงิน แต่ความจริงแล้วตนมาขอทานความยุติธรรม เพราะเชื่อว่าความยุติธรรมยังมีอยู่

  • สู้ถึงที่สุด
น.ส.วรณัน ยังกล่าวอีกว่า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ ตนเองก็จะหมดสัญญาจ้างกับ อบจ.ลำปาง  ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะได้รับการต่อสัญญาหรือไม่  การที่ตนเองต้องออกมาต่อสู้ในเรื่องนี้ จำเป็นที่จะต้องลางานเนื่องจากต้องเดินทางไปสถานที่ราชการหลายแห่ง ตนก็เข้าใจและยอมรับได้ หากไม่ได้รับการต่อสัญญา ถึงอย่างไรก็จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด
           
“เคยท้อจนคิดว่าไม่อยากจะอยู่แล้ว แต่พอคิดถึงคนข้างหลัง คิดถึงพ่อแม่ หากเราไม่อยู่สักคนแล้วเข้าจะอยู่กันอย่างไร เราจึงต้องสู้ สู้ให้ถึงที่สุด” น.ส.วรณัน กล่าว

  • รอกระบวนการยุติธรรม
ด้านนายเกรียงเดช สุทธิภักติ  รองนายก อบจ.ลำปาง  รักษาการนายก อบจ.ลำปาง  กล่าวว่า กรณีของ น.ส.วรณัน ณ ลำพูน ลูกจ้าง อบจ.ลำปาง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนตัว และทราบว่าขณะเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ยังไม่ชี้ชัดว่าฝ่ายใดถูกผิด จึงไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องรอผลการตัดสินก่อน  ส่วนการช่วยเหลือคงทำให้เพียงให้หยิบยืมได้เป็นการส่วนตัวเท่านั้น
          
สำหรับ น.ส.วรณัน จะหมดสัญญาจ้างกับ อบจ.ลำปาง ในวันที่ 29 ก.ย.59 นี้  จะได้รับการต่อสัญญาหรือไม่นั้น อยู่ที่ผลการประเมินการทำงาน  เบื้องต้นทราบว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ  ทางเจ้าตัวเองก็รับทราบและยอมรับได้  อย่างไรก็ตาม ต้องรอรายงานผลจากคณะกรรมการประเมินอีกครั้ง

  • กรุงไทยแจง
ขณะเดียวกันหลังจากที่ได้มีการนำเสนอข่าวออกไป และได้มีชาวโซเชียลมีเดีย นำข่าวไปตั้งในกระทู้ของเว็บไซด์พันทิปดอทคอม  กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 59  ทางธนาคารกรุงไทยได้ออกมาชี้แจงผ่านกระทู้ดังกล่าว  ข้อความระบุว่า

ตามที่ MGR  ONLINE ได้เผยแพร่ข่าว หมดหนทาง สาวอบจ.นั่งขอทานหาเงินสู้-โดนปลอมลายเซ็นกู้เงินจนจะโดนยึดบ้าน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น

ธนาคารกรุงไทย ขอเรียนชี้แจงว่า นางสาววรณัน ณ ลำพูน เป็นลูกค้าสาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ลำปาง  เปิดบัญชีใช้บริการเงินเดือนผ่านบัญชี ตั้งแต่เดือนเมษายน 2556 ต่อมาในเดือนกันยายน 2556 ลูกค้าได้ขอสมัครทำบัตรเครดิตที่สาขาด้วยตนเอง โดย บมจ.บัตรกรุงไทยได้อนุมัติให้ทำบัตรเครดิต KTC VISA และบัตร KTC Cash Revolve ซึ่งเป็นบัตรกดเงินสด โดยมีวงเงินสินเชื่อ ซึ่งลูกค้าได้แสดงเอกสารรายได้ ตามเงื่อนไขที่ บมจ.บัตรกรุงไทยกำหนด

  • ยันกู้จริง
ในการนี้ ลูกค้ามีการใช้บัตรเครดิต KTC VISA  รูดซื้อสินค้าและบริการ  รวมทั้งใช้บัตร KTC Cash Revolve เบิกเงินสดอย่างต่อเนื่อง ต่อมาลูกค้าผิดนัดชำระ ในส่วนของบัตร KTC Cash Revolve ซึ่งลูกค้าได้ตกลงยินยอมชำระหนี้กับ บมจ. บัตรกรุงไทย โดยให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์ทุกเดือน เป็นเวลา 11 เดือน หลังจากนั้นลูกค้าได้ย้ายบัญชีเงินเดือนไปยังสาขาอื่นของธนาคาร ทำให้สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า ลำปาง   ไม่สามารถหักบัญชีเพื่อชำระหนี้ได้เช่นเดิม บมจ.บัตรกรุงไทย จึงได้ดำเนินคดีและยื่นฟ้องต่อศาลแขวงเชียงใหม่  เมื่อคดีถึงที่สุด ศาลได้มีคำพิพากษาให้นางสาววรณันฯ ชดใช้หนี้บัตรเครดิตทั้ง 2 ใบให้กับ บมจ.บัตรกรุงไทย ซึ่งนางสาววรณันฯ ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล แต่ได้แจ้งความกลับธนาคารในภายหลัง โดยกล่าวหาว่า ถูกพนักงานธนาคารปลอมแปลงลายเซ็นสมัครใช้บัตร KTC Cash Revolve ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการภาค 5
           
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย ขอยืนยันว่า พนักงานได้ปฏิบัติงานตามระเบียบธนาคาร และธนาคารได้ให้บริการลูกค้าทุกรายอย่างมืออาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์และโปร่งใส ตลอดจนปฏิบัติตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ท่าน ได้โปรดเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลให้กับสาธารณชนด้วยจะขอบคุณยิ่ง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1093 วันที่ 26 สิงหาคม - 1 กันยายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์