วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

ลูกข่าง ขว้างฉันเถิด

จำนวนผู้เข้าชม Must See Places In Paris

เย็นวันศุกร์เมื่อหลายเดือนก่อน เวทีบนถนนวัฒนธรรมของเราเคยได้ต้อนรับชมรมลูกข่างเชียงราย ซึ่งออกมาวาดลวดลายการเล่นลูกข่างหลากหลายรูปแบบ แม้ฟ้าฝนจะกวาดเอาผู้คนไปจนเบาบาง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชาวชมรมฯ กังวลมากเท่ากับกำลังครุ่นคิดว่า พื้นเวทีที่เปียกน้ำฝนอาจลื่นเกินไปสำหรับลูกข่าง และบางทีเชือกที่เปียกน้ำก็ทำลายจังหวะการขว้างลูกข่างลงพื้นได้
           
แต่เมื่อจักริน ทิศสกุล ผู้ก่อตั้งชมรมฯ เชิญชวนคนสนใจให้ขึ้นไปลองเล่นดู เด็กชายชาวลำปางก็ไม่รีรอที่จะกระโดดขึ้นไปจนเต็มเวที หลายคนเคยเล่นแล้ว บางคนยังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ ไม่นานเจ้าวัตถุรูปทรงประหลาด จะกลมก็ไม่ใช่ จะรีก็ไม่เชิง ก็หมุนเร็วจี๋จนละลานตาวัยเด็กถูกย้อนคืนกลับมาอีกครั้งและมันช่างหอมหวาน อันที่จริงใคร ๆ ก็รู้จักลูกข่าง ไม่เฉพาะผู้ชายชาวเชียงรายเช่นจักริน แต่ดูเหมือนคนไทยทั่วทุกภูมิภาคก็เรียกเจ้าวัตถุชิ้นนั้นคล้าย ๆ กัน แล้วยังมีวิธีเล่นไม่แตกต่างกันมากนัก
           
จักรินเล่นลูกข่างมาตั้งแต่เป็นเด็กชาย ซึมซับวิธีการเล่นมาจากพ่อโดยไม่ต้องสอนกันด้วยซ้ำ เด็ก ๆ จะขอให้พ่อทำลูกข่างให้ เน้นไปที่ไม้ฝรั่งโดยเฉพาะ เพราะได้ทั้งความเหนียว แล้วยังได้เสียงดัง หวึ่ง ๆ ๆไว้ข่มคู่ต่อสู้อีกต่างหาก พ่อจะให้ลูกชายกำมือ เพื่อทำลูกข่างให้มีขนาดเท่ากำปั้นของเด็กชาย จากนั้นใช้ตะปูทำเดือย หากเป็นลูกข่างสายต่อสู้เดือยจะยาว เพราะเดือยยาวจะทำให้ลูกข่างไม่นิ่งจนกลายเป็นเป้า ทว่าการใส่เดือยก็ต้องตั้งจุดศูนย์กลางให้ดี ขั้นตอนนี้จึงต้องอาศัยความชำนาญพอสมควร อาศัยเวลาแค่วันสองวัน ลูกข่างที่เสร็จสมบูรณ์ก็พร้อมมอบให้ลูกชาย สำหรับเด็กต่างจังหวัดที่มีลานดินกว้าง ๆ อยู่ในบริเวณบ้าน ไม่มีอะไรสนุกไปกว่าการนัดแก๊งเพื่อนมา สับบ่าข่างอีกแล้ว
           
คนเชียงรายเล่นกันโหดครับ จักรินเล่าพลางยิ้ม เราเรียกกันว่าสับบ่าข่าง คือเล่นให้แตกกันไปข้างหนึ่ง
           
ลูกข่างพัฒนามาจากอาวุธที่คนสมัยก่อนใช้ในการล่าสัตว์ จักรินยังเชื่ออีกว่า การสับบ่าข่างของชาวเชียงราย คือรูปแบบการเล่นของเหล่าลูกหลานที่มีเชื้อสายพญามังราย เชื้อสายนักรบ จักรินเปรียบการขว้างลูกข่างที่ต้องเหยียดแขนขึ้นจนสุดแล้วจึงขว้างอย่างสุดแรงว่าเหมือนกับการฟันดาบของนักรบผู้กล้าแกร่ง
           
ก่อนอื่นใครบางคนต้องทำตัวเหมือนอุปกรณ์เครื่องเขียนที่เรียกว่า วงเวียน ด้วยการนั่งลงใช้ตนเองเป็นศูนย์กลาง เหยียดแขน แล้วหมุนตัวขีดวงกลมวงหนึ่ง จากนั้นทุกคนก็ขว้างลูกข่างของตนเองเข้าไปในวง เสียงดังหวึ่ง ๆ ๆ และแล้วลูกข่างของใครคนหนึ่งก็เกิดพลาดท่า ไม่ยอมหมุนเสียอย่างนั้น ลูกข่างที่โชคร้ายลูกนั้นจะถูกจับหงาย เพื่อให้คนอื่นขว้างลูกข่างของตนเองเข้าไปสับ ขณะที่คนอื่น ๆ พากันลิงโลด แน่ล่ะ ผู้เป็นเจ้าของย่อมหน้าเสีย เพราะหากลูกข่างของตนเองโดนสับหัวเสียแล้ว นั่นหมายถึงศักดิ์ศรีที่พลอยยับเยินไปด้วย ไม่เพียงเท่านั้น หากลูกข่างไม่แตกพังไปกลางวง ก็จะปรากฏริ้วรอยการโดนสับหัว ที่จะถูกล้อเลียนไปตลอด
           
ทว่าในความโชคร้าย บางครั้งจะเผยมิตรภาพเล็ก ๆ ออกมา เมื่อมีเพื่อนอาสาที่จะปกป้องลูกข่างของเรา ด้วยการใช้ลูกข่างของตนเองกันลูกข่างของเราให้ออกมานอกวงเร็วที่สุด ก่อนลูกข่างโชคร้ายจะกลายเป็นเป้านิ่งโดนสับจนขายหน้าไปทั้งบาง

นอกจากความสนุกตามประสาเด็กต่างจังหวัดแล้ว จักรินมองว่า การเล่นลูกข่างเป็นการออกกำลังกายที่ดีแล้วยังได้4 ส เป็นของแถม นั่นคือ สติ สปิริต สมาธิ และสุขภาพ

เสียงลูกข่างกระทบพื้นบนเวทีดังก้อง เรายืนมองภาพตรงหน้าที่อีกประเดี๋ยวก็คงเลือนหาย จบงานทุกคนแยกย้าย ทิ้งการละเล่นเช่นนี้ไว้ในความทรงจำ แต่กับคนเชียงรายนั้นไม่ใช่ เพราะจักรินตระหนักดีว่า การเล่นลูกข่างเริ่มถดถอยออกไปจากการรับรู้ของคนเชียงรายทุกขณะ เขาจึงตั้งชมรมลูกข่างเชียงรายขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ณ ลานเล็ก ๆ หน้าสวนตุงและโคมในตัวเมืองเชียงราย จักรินและอิสรีย์ คำวัง ภรรยา พร้อมด้วยพลพรรคคนรักลูกข่าง จะมาเล่นลูกข่างกันเป็นประจำ เพื่อนำเสนอกีฬาภูมิปัญญาไทยชนิดนี้ให้คนอื่น ๆ ได้รู้จัก

แม้หลายคนอายที่จะเล่นลูกข่างด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่สำหรับชมรมลูกข่างเชียงราย พวกเขาพร้อมจะไปเล่นลูกข่างทุกที่ทุกเวลา ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกข่างเข้าไปอยู่ในใจของผู้คนมากที่สุด จักรินดำเนินการผลักดันให้ชมรมฯ เป็นสมาคมลูกข่างแห่งประเทศไทย เขาวางแผนใช้ลูกข่างเป็นสะพานเชื่อมใจพี่น้องในทุกภูมิภาค โดยเริ่มต้นที่ภาคเหนือก่อน ด้วยการไปสาธิตการเล่นลูกข่างเวลามีงานด้านวัฒนธรรม กระทั่งนำมาซึ่งการจัดการแข่งขันลูกข่างหลายครั้ง

ล่าสุดกระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศให้ ลูกข่างเป็น ๑ ใน ๔ รายการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ สาขากีฬาภูมิปัญญาไทย ซึ่งนับเป็นหนทางหนึ่งในการปกป้อง คุ้มครอง และเป็นหลักฐานสำคัญของประเทศในการประกาศความเป็นเจ้าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ขณะยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายที่จะคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ

เสียงหวึ่ง ๆ ๆ ยังคงดังอยู่หน้าสวนตุงและโคมในวันที่มีถนนคนเดินเชียงราย จักรินและผองเพื่อนขว้างลูกข่างออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยแววตาเป็นประกาย แต่สำเมืองลำปาง ลูกข่างคงถูกลืมเลือนไปแล้วจริง ๆ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1097 วันที่ 23 - 29 กันยายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์