สิ้นแล้วหลวงปู่บุญมา เกจิดังละสังขาร วัย93พรรษา73

จำนวนผู้เข้าชม

สิ้น “พระครูมงคลบุญมาคม” พระเกจิดังลำปาง ด้วยอาการอาพาธลำไล้อุดตันและชราภาพ ด้วยอายุ 93 ปี  หลวงปูละสังขารอย่างสงบที่สำนักปฏิบัติธรรมบ้านสันกลาง รวมพรรษา 73

           

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 59  เวลา 21.15 น. พระครูมงคลบุญมาคม หลวงพ่อครูบาบุญมา สุภทฺโท  พระเกจิชื่อดังของจังหวัดลำปางอีกรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์ จ.ลำปางและทั่วประเทศ ได้ละสังขารลงอย่างสงบที่สำนักปฏิบัติธรรมบ้านสันกลาง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง  ด้วยความชราภาพ และอาการอาพาธด้วยโรคลำไส้อุดตัน

           

พระครูมงคลบุญมาคม ได้เข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลลำปาง ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  และได้รับการผ่าตัดลำไส้ถึง 2  ครั้ง แต่อาการไม่ค่อยดี มีอาการทรุด แต่หลวงปู่ก็มีสติรับรู้ตลอด แต่เมื่อรักษาอาการไปด้วยร่างกายที่ชรา ร่างกายสังขารก็ทรุดลง และในช่วงเดือนกันยายน คณะแพทย์จึงได้นิมนต์ท่านมาพักฟื้น ที่สำนักปฏิบัติธรรมบ้านสันกลาง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง ท่านมีสติรู้ตัว ยังดำรงอยู่ในอาการสังขารมาตลอด จนกระทั่งวันที่ 13 ต.ค.59 หลวงปู่ก็มีอาการทรุดหนัก  จนในเวลาประมาณ 21.15 น. หลวงปู่ก็ได้ละสังขาร ด้วยอายุ 93 ปี พรรษา 73

           

ต่อมาวันที่ 14 ต.ค. 59 พระเดชพระคุณพระราชธรรมาลังการ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลำปาง
พระเดชพระคุณพระราชจินดานายก เจ้าคณะจังหวัดลำปาง  ได้ร่วมพิธีสรงน้ำสรีระสังขารหลวงปู่พระครูมงคลบุญญาคม  พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ พระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธาเคารพในหลวงปู่ครูบาบุญมา สุภทฺโท ได้เข้าร่วมสรงน้ำสรีระสังขารด้วยความพร้อมเพรียงกัน และในวันที่ 20 ต.ค.59  ได้ทำบุญสัตตมวาร (ครบ 7 วัน) หลังจากเสร็จพิธีได้เคลื่อนสรีระสังขารมาตั้งบำเพ็ญกุศลในกุฏิมงคลมาบุญต่อไป

ประวัติของ หลวงปู่ครูบาบุญมา สุภัทโท หรือนามตามสมณศักดิ์ว่า พระครูมงคลบุญมาคม เจ้าอาวาส วัดสามัคคีธรรม ท่านเป็นพระที่มีใจประกอบด้วยเมตตา มีประชาชนต่างให้ความเคารพนับถืออย่างมากมาย ชอบให้การช่วยเหลือแก่ผู้ที่เดือดร้อนและคอยแนะนำพร่ำสอนให้กระทำแต่ความดีอยู่ในศีลในธรรม

ครูบาบุญมา เดิมชื่อ บุญมา  นามสกุล ตามปัญญา  เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2467  ขึ้น 4 ค่ำ ปีชวด  บิดาชื่อนายมี มารดาชื่อนางเอ้ย ตามปัญญา  อยู่บ้านเลขที่ 30  หมู่ 5  ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง  มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน  ครูบาบุญมา เป็นบุตรคนที่ 3

เมื่ออายุได้ 7 ปี เข้ารับการศึกษาเล่าเรียนจนจบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  หลังจากนั้นเมื่ออายุ 15 ปี  จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ่อส้ม  ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม  เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2482  โดยมีพระครูปัญญาโสภิต  เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วจึงศึกษาเล่าเรียนอักขระพยัญชนะจนแตกฉานอยู่ 5 ปี  จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ เมื่ออายุ 20 ปี  เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2487  ที่วัดสาหลวง ต.บ้านสา โดยมีพระครูโถมมนียคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์  พระสุข คัมภีโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์  พระตัน สุทินธโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์  เมื่ออุปสมบทแล้วได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนสามารถสอบนักธรรมชั้นเอกได้

สำหรับการศึกษาวิชาอาคมนั้นท่านร่ำเรียนจาก พระอุปัชฌาย์ของท่านก่อน โดยเน้นการเรียนวิปัสสนากัมฐานและลงอักขระแผ่นยันต์ ต่อมาได้เข้าเรียนวิปัสนากัมฐาน ณ สำนักเรียนวัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเป็นศิษย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ อาสะภะเถระ) และพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ป.ธ ๙) และยังได้ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากัมฐานกับครูบาชัย วัดปงสนุก ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง  อยู่หลายปี และได้เข้าไปปฏิบัติธรรมอยู่กับครูบาเจ้าเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ โดยยึดหลักปฏิบัติตามแนวทางของครูบาเจ้ามาตลอดมา  

หลังจากนั้นครูบาบุญมาจึงออกหาความรู้เพิ่มเติม และได้มีโอกาสไปศึกษาวิชาอาคมกับหลวงพ่อครูบายอดใจ สิริโย แห่งวัดทุ่งเกวียน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง และครูบาพรมมา วัดพระบาทตากผ้า จ.ลำพูน  ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยนั้น จนมีความรู้แตกฉาน เป็นที่นับถือแก่ชาวลำปาง และจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนั้นครูบาบุญมายังได้ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลดังจำนวนมาก  จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ

ปัจจุบันครูบาบุญมา ได้พัฒนาวัดกู่มอญ บ้านสันกลาง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเดิมเป็นวัดร้าง มาเป็นสำนักปฏิบัติธรรมบ้านสันกลาง โดยได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2553   โดยมีศิษยานุศิษย์ ทั้งในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ เดินทางมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1101 วันที่  21 -  27 ตุลาคม 2559)