วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ลมยางสำคัญกว่าที่คิด

จำนวนผู้เข้าชม Hit Web Stats

หลายคนขับรถมาหลายปี ไม่เคยรู้เลยว่ารถตัวเองต้องเติมลมยาง หน้า-หลัง เท่าไร? ... การตรวจสอบลมยาง คือ สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ แม้ไม่ใช่ฤดูฝน และสามารถเช็คได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองตามนี้ครับ
           
-       เช็คลมยางอย่างไรให้ถูกต้อง

การตรวจสอบความดันลมยาง ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งรวมถึงยางอะไหล่ด้วย โดยต้องตรวจเชคก่อนการใช้งาน ในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ตามที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์กำหนด, คู่มือประจำรถ, ป้ายด้านข้างประตู, ที่เก็บของฝั่งผู้โดยสาร หรือด้านในฝาถังน้ำมัน (แล้วแต่ยี่ห้อรถ) ลมยางที่ถูกต้องจะช่วยลดการสึกหรอก่อนเวลา รวมทั้งลดความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อโครงสร้างภายในของยาง และยังลดความเสี่ยงในการควบคุมรถ ปกติลมยางจะลดลงประมาณ 2-3 ปอนด์/เดือน
  • ทำไมต้องวัดระดับและเติมลมยางขณะที่ยางเย็น

เนื่องจากจะวัดค่าได้ถูกต้องแม่นยำ แต่ถ้าจำเป็นต้องเติมขณะยางร้อนเนื่องจากเพิ่งขับรถมาจอด (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น) ให้เติมเผื่อราว 2 ปอนด์/ตรน.จากค่าที่กำหนด หรือจะใช้วิธีเติม มากกว่านั้นเล็กน้อย แล้วค่อยมาวัดและปล่อยลมออกให้พอดีตอนที่ยางเย็นแล้ว และหากเลี่ยงการขับรถเร็วตอนฝนตกไม่ได้จริงๆ อาจต้องเติมลมเพิ่มอีก 2-4 ปอนด์ เพื่อให้ความดันลมยาง ช่วยเพิ่มแรงกดของหน้ายาง สามารถรีดน้ำได้ดีขึ้น การเติมลมยางที่เหมาะสมก็ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์ และช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง เนื่องจากเป็นเหตุเป็นผลที่ต่อเนื่องกัน
  • ลมยางอ่อนไป-แข็งไป ไม่ดีอย่างไร ?

ก็สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น เพราะยางมีความฝืดสูงกว่าปกติ เมื่อความฝืดสูง ก็ต้องเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติ ความสิ้นเปลืองก็จะตามมาควบคู่กันโดยแยกไม่ออก ฉะนั้นแรงดันลมยางจึงต้องเติมให้เหมาะสมตามน้ำหนักบรรทุกที่คู่มือประจำรถแจ้งไว้ สองคือ พวงมาลัยหนัก ปั๊มเพาเวอร์ก็ทำงานหนัก เมื่อปั๊มทำงานหนักเครื่องยนต์ก็ต้องทำงานหนักตามไปด้วย ผลที่ตามมาอีกอย่างก็คือ เรื่องของการสึกหรอของดอกยางจะผิดปกติ       การเติมลมยางมากไป หรือแข็งไป แม้จะช่วยให้ล้อสามารถหมุนได้ง่าย ช่วยลดความสิ้นเปลืองได้ด้วย แต่ผลที่ตามมาก็คือ เรื่องของความกระด้างที่จะส่งผลเสียหายต่อชิ้นส่วนช่วงล่าง ดังนั้นควรจะเติมลมยางในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ ส่วนเรื่องของแรงดันลมนั้น ให้ดูจากคู่มือของรถแต่ละรุ่นเป็นหลักและในการเดินทางไกลนั้นควรเพิ่มแรงดันยางอีกสัก 3-5 ปอนด์/ตารางนิ้ว ลดสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเอาไว้แต่สิ่งที่จำเป็นต้องใช้งาน ยิ่งมีของบรรทุกอยู่มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ผลที่ตามมาคือ เรื่องของความสิ้นเปลือง อย่างเช่น ถุงกอล์ฟตีเสร็จแล้วก็ควรจะเอาออกเก็บไว้ที่บ้าน แบกไปแบกมาก็สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น และส่งผลต่ออายุการใช้งานของระบบเกียร์โดยตรง...
           
เติมลมยางแล้วเสร็จ อย่าลืม ! ใส่ฝาวาล์วยางให้สนิท เพื่อป้องกันเศษผง ฝุ่น หรือความชื้นซึมผ่านเข้าภายในยาง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อยางรถยนต์ได้ครับ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1100  วันที่  14 -  20 ตุลาคม 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์