ไม่ว่าการแข่งขันทางธุรกิจ หรือ ภาวะเศรษฐกิจจะเหวี่ยงไหวไปทิศทางใด การยืนหยัดของสินค้าใดๆในตลาดให้มั่นคงแข็งแรงก็ไม่ง่ายนักหากไม่มีเอกลักษณ์ และแก่นแท้ของสินค้ามากพอ ศิลปะลายไทยบนชิ้นงานเซรามิคเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร (Tableware) และของที่ระลึกเป็นเซรามิคลายไทย สีโทนเย็น แลดูมีคุณค่าในความเรียบง่ายของการให้สี ในแบบฉบับของ ‘วุฒิชัยเซรามิคส์’ เป็นพลังดึงดูดให้ผู้ที่ชื่นชอบในศิลปะไทยต้องหยุดชมและจ่ายเงินแลกกับความเป็นเจ้าของงานชิ้นนั้นอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องอธิบายอะไร นั่นคือ เอกลักษณ์และตัวตนของสินค้าที่มีจุดยืนชัดเจน
วุฒิชัย
พลายด้วง
วัย53 ปี เจ้าของแบรนด์ และผู้ก่อตั้งโรงงานวุฒิชัยเซรามิคส์ เล่าว่า โดยพื้นเพแล้วเขาเป็นชาวนครศรีธรรมราช
เข้าไปเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ วิทยาลัยเพาะช่าง (ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์)
สาขาจิตรกรรม แต่เส้นทางชีวิตกว่าครึ่งชีวิตเขาคร่ำหวอดอยู่ในวงการอุตสาหกรรมเซรามิค
จากโอกาสที่อาจารย์ส่งไปทำงานเป็นช่างเขียนและออกแบบลายในโรงงานอุตสาหกรรมกระเบื้องเซรามิคที่กรุงเทพฯ
สระบุรี และเปลี่ยนแปลงตามภาวะโอกาสของหน้าที่การงานจากช่างเขียนลาย
ขยับทักษะเป็นช่างทำแม่พิมพ์ จนเป็นผู้จัดการโรงงานหลายแห่งในภาคกลาง กระทั่งย้ายมาบริหารโรงงานอุตสาหกรรมเซรามิคหลายแห่งในลำปาง
เขาเริ่มต้นจากการใช้ทักษะงานจิตรกรรมเขียนภาพมาใช้ในงานเซรามิค
และการอยู่ในโรงงานเซรามิคทำให้เขามีโอกาสเรียนรู้ทุกส่วนงานในระบบอุตสาหกรรมการผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบ
ไปจนถึงเทคโนโลยีเครื่องจักรที่เหมาะสม แต่ต้นทุนเดิมที่มีอยู่ คือความรู้และฝีมือทางศิลปะ
เมื่อถึงจุดหนึ่งหลังจากทำงานให้กับโรงงานรายได้ก็จัดว่าสูงมาก แต่ชีวิตเขาต้องทุ่มเทให้กับงานและสังคม
มากกว่าครอบครัว ประกอบกับความสนใจศึกษาหาคำตอบของชีวิตจากธรรมะเขาก็ค้นพบว่า เงินก็อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่แสดงถึงคุณค่าชีวิต เขาจึงหันมาทำธุรกิจเป็นของตัวเองโดยตั้งโรงงานรับจ้างผลิตแม่พิมพ์เล็กๆ
ในที่ดินบ้านของเขาเอง ที่ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ (ซึ่งเป็นโรงงานปัจจุบัน)
และยังรับงานออกแบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าชาวต่างประเทศที่ชื่นชอบในผลงานของเขาเรื่อยมาประมาณ
8 ปี (2540-2548) ก่อนตัดสินใจเปิดโรงงานเซรามิกเป็นของตัวเองเต็มตัว
“วุฒิชัยเซรามิคส์เป็นชื่อที่ครูผมตั้งให้
เพื่อเป็นแบรนด์ที่บ่งชี้ชัดว่าสินค้านี้เป็นผลงานของ"วุฒิชัย" ก่อนหน้าที่ผมจะเปิดโรงงานเซรามิคก็มีทั้งคนเชียร์
และคนที่เป็นห่วงว่าเราจะทำสินค้าแนวไหน กลัวว่าเราจะไปก๊อปปี้โรงงานที่เราเคยออกแบบให้เขาหรือลูกค้าเขา
แต่ด้วยทักษะและความสามารถด้านศิลปะไทยเป็นรากเหง้า บวกกับมีประสบการณ์ด้านเทคนิคการผลิต
และที่สำคัญผมมีเป้าหมายชัดเจน มีอุดมการณ์
ผมจึงออกแบบงานให้แสดงเอกลักษณ์และตัวตนของผมมากที่สุด
ด้วยการใช้ศิลปะไทยมาประยุกต์ใช้ เป็นลวดลายนูนต่ำลงบนชิ้นงานอย่างประณีต ขณะเดียวกันก็ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยเข้ามาช่วยให้สามารถผลิตชิ้นงานจำนวนมากได้ในคุณภาพสูง”
เทคนิคการแกะแม่พิมพ์เป็นลายไทย
กลายเป็นเอกลักษณ์ของ "วุฒิชัยเซรามิคส์" โดยก้าวแรกเขา ส่งผลิตภัณฑ์ส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลดีเด่นในงานเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ
ส่งผลให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าในหมู่คนที่ชื่นชอบในงานศิลปะไทย
"สินค้าของเรามีทั้งของใช้บนโต๊ะอาหาร
ไปจนถึงของที่ระลึกซึ่งกลุ่มเป้าหมายของตลาดคือ ซื้อเพื่อเป็นของขวัญ ของที่ระลึก และเป็นของใช้ในร้านอาหารโรงแรม
รีสอร์ทที่เขาบริการลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดผมให้ความสำคัญกับแม่พิมพ์ที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์
เช่น ลายไทย ดอกบัว และลายไทยล้านนา ผสานกับเทคนิคสูตรดินและการเผาเคลือบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ซึ่งผมก็ได้เทคนิคเหล่านี้มาจากโรงงานรุ่นพี่ที่เขาทำงานด้านศิลปะการเคลือบ งานของผมยิ่งเสียยิ่งได้
นั่นคือไม่มีคำว่าเสีย เพราะงานที่ผมคิดว่าเผาแล้วผิดปกติ กลับมีลูกค้าชอบเนื่องจากเป็นชิ้นงานสวยไปอีกแบบ
ส่วนเรื่องราคานั้น แน่นอนว่า มูลค่าสินค้าของผม 1 เตา
เมื่อเทียบปริมาณเท่ากันกับโรงงานขนาดเท่ากัน มากกว่าเกือบ 10 เท่าตัว ซึ่งมันคือการสร้างมูลค่าเพิ่มหรือคุณค่าทางใจ ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อจากชอบ
หรือความพึงพอใจเป็นเหตุผลหลัก" นี่คือความชัดเจนในจุดยืนด้านการตลาดของสินค้า
จากวุฒิชัยเซรามิคส์
เมื่อเอางานศิลปะมาบวกกับอุตสาหกรรม
มีการถ่ายทอดแนวคิดและการทำงานสู่คนในกระบวนการผลิตอย่างไร วุฒิชัย ตอบหนักแน่นว่า
ความเชื่อมั่น ความภาคภูมิใจในสินค้าเป็นตัวนำทางความคิดและการทำงานให้มีคุณภาพทุกขั้นตอน
เพราะโรงงานแห่งนี้ อาศัยเครื่องจักรช่วยในการผลิตรูปทรงที่ได้มาตรฐาน
และมีกำลังคนเป็นตัวเสริมในขั้นตอนที่ต้องเก็บรายละเอียดของชิ้นงานซึ่งเขาเป็นผู้ถ่ายทอดและดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกันเขายังใช้หลักการมีส่วนร่วมของการเป็นเจ้าของร่วมกันของสมาชิกในโรงงาน โดยการประชุมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็นประจำทุกวันก่อนเริ่มงาน
ทุกคนมีส่วนช่วยดูแลรักษาเครื่องมือ และทำความสะอาดก่อนกลับบ้าน
เสมือนเป็นโรงงานของตัวเอง
"ในเรื่องการบริหารการผลิตเราเป็นโรงงานขนาดเล็กแบบครอบครัว ทุกคนในครอบครัวเราทำงานร่วมกันกับลูกจ้างไม่เกิน
10 คน มีเตาเผา 4 เตา ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือแย่ ที่นี่ก็จะมียอดขายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 4 แสนบาท เพื่อรักษาคุณภาพการผลิตตามกำลังคนที่เรามี
และการบริหารทุน เพราะทำมากก็ต้องเหนื่อยมาก ลงทุนมากขึ้น
มีปัญหาเรื่องแรงงานและการควบคุมคุณภาพ กำไรก็ไม่ได้เพิ่มมากกว่าเดิมนัก
ในส่วนของการขาย ผมก็ขายส่งให้กับลูกค้าในราคาที่เขาทำกำไรได้เท่าตัว วิน วิน
เราอยู่ได้เขาอยู่ดี ก็ค้าขายกันได้นาน หลักของผมคือไม่รับออเดอร์มากเกินกำลัง
"ไม่รับจ้างผลิตสนองความโลภ "
นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่เข้ามาซื้อปลีกโดยตรงที่โรงงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบและติดตามผลงานออกแบบของที่ระลึก
ประเภทงานปั้นองค์เทพต่างๆ ซึ่งผมเป็นคนหนึ่งที่ศึกษาแก่นของธรรมมะ ผมจึงขายศิลปะ
แต่ไม่อาศัยความเชื่อหรืออภินิหารความงมงาย
แต่ผมและทุกคนที่นี่มีความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนคุณแผ่นดินให้คนไทยและคนต่างประเทศรู้จักศิลปะไทยผ่านผลิตภัณฑ์ของเรา
และนี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของ
แบรนด์ ‘วุฒิชัยเซรามิคส์’ ที่สร้างความศรัทธาในตัวสินค้ามาจากฐานวิธีคิดที่ตรงไปตรงมาแต่ลึกซึ้ง
ที่วุฒิชัยกำลังปูรากฐานส่งต่องานถึงลูกสาวทั้ง 2 คน รับช่วงต่อเป็นทายาทรุ่นถัดไป
สานต่อตำนาน "วุฒิชัยเซรามิคส์" ให้ระบือไปอีกนาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น