วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

น้ำตกหินปูนเมืองงาว พัฒนาแล้วอย่าลืมคำว่ายั่งยืน

จำนวนผู้เข้าชม URL Counter

ช่วงปลายฝนต้นหนาวแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตกดูเหมือนจะกำลังสวยชุ่มชื่นเลยทีเดียว ลำปางเรานอกจากน้ำตกแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน ที่มีชื่อเสียงแล้ว ก็ยังมีน้ำตกแม่แก้และน้ำตกเกาฟุในเขตอำเภองาวซึ่งแตกต่างจากน้ำตกแจ้ซ้อนตรงที่ทั้งสองแห่งเป็นน้ำตกหินปูน ช่วงไหนน้ำใสจะมองเห็นน้ำเป็นสีเขียวอ่อน ๆ ชวนให้นึกไปถึงน้ำตกในภาคตะวันตกอย่างน้ำตกเอราวัณและน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี
           
ด้วยความที่น้ำตกแม่แก้และน้ำตกเกาฟุ(รวมถึงหล่มภูเขียว) ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาหินปูน สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ แบบขั้นบันได ผ่านบริเวณที่เป็นหินปูนก็ละลายหินปูนมาด้วย เนื่องจากน้ำมีความเป็นกรดอ่อน ๆ สามารถละลายหินปูนได้ เมื่อสายน้ำไหลมาพบกับบริเวณที่มีความลาดชันและมีสิ่งกีดขวาง เช่น กิ่งไม้ หรือก้อนหิน น้ำที่ไหลมาปะทะจะเกิดการชะลอตัวและมีการตกตะกอนของหินปูนสะสมเกาะจับอยู่ตามสิ่งกีดขวาง ขณะเดียวกันก็พอกพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นคันกั้นน้ำและแอ่งน้ำ เมื่อเกิดเป็นระยะ ๆ ตลอดพื้นที่ลาดชันจึงดูเหมือนกับเป็นขั้นบันไดตลอดความยาวของสายน้ำที่ไหลผ่าน บางช่วงที่น้ำไหลตกจากที่สูงชัน หินปูนก็อาจก่อตัวคล้ายกับหินย้อยในถ้ำอยู่ตามบริเวณผาชันนั้น
           
และที่เรามองเห็นน้ำตกหินปูนเป็นน้ำสีฟ้าอมเขียว หรือสีเขียวอ่อน น่าลงเล่น ก็เนื่องจากหินปูน หรือแคลเซียมคาร์บอเนตที่ละลายอยู่ในน้ำ รวมทั้งแร่ธาตุบางชนิดที่ปะปนอยู่ด้วย จะส่งผลให้สาหร่าย หรือตะไคร่สีเขียวขนาดเล็กที่มักเจริญเติบโตในลำธารทั่ว ๆ ไปไม่สามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้ แอ่งน้ำของน้ำตกหินปูนจึงไม่เป็นสีเขียว แล้วเมื่อแสงแดดส่องลงมากระทบ น้ำจะดูดกลืนคลื่นแสงสีแดงไว้ ทำให้มองเห็นพื้นของน้ำตกหินปูนเป็นสีฟ้าอมเขียวดูแปลกตา
           
น้ำตกแม่แก้นั้น เป็นน้ำตกเล็ก ๆ ใสสะอาด สูงประมาณ 10 เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเตี้ย ๆ อีกหลายชั้น ข้อดีของน้ำตกหินปูนคือเดินแล้วไม่ลื่น ความใสของน้ำยังทำให้สังเกตได้ชัดว่าตรงไหนตื้น ตรงไหนลึก ส่วนน้ำตกเกาฟุอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกแม่แก้ เป็นน้ำตกขนาดเล็กในพื้นที่สวนลิ้นจี่ของเกาฟุ แซ่จิ๋ว ซึ่งเขาได้เป็นผู้นำในการพัฒนาและอนุรักษ์น้ำตกแห่งนี้
           
ที่ผ่านมา ถนนหนทางที่ไม่ค่อยสะดวกสบายในการเข้าถึงน้ำตกแม่แก้และน้ำตกเกาฟุเป็นการสกรีนนักท่องเที่ยวไม่ให้มีจำนวนมากเกินไปจนธรรมชาติรับไม่ไหว แต่อีกไม่นาน เส้นทางที่มุ่งตรงสู่น้ำตกทั้งสองคงได้รับการพัฒนา อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการท่องเที่ยวนั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม พัฒนาทางเข้าจนสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวแห่แหนหลั่งไหลสร้างรายได้ เท่านั้นยังไม่พอ ควรคิดให้ยาวไปจนถึงการจัดการกับปัญหาขยะที่จะตามมา และทะนุถนอมทรัพยากรธรรมชาติของเราให้ยั่งยืนด้วย

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1104 วันที่ 11-17 พฤศจิกายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์