วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

โรงสีข้าวใหญ่ใจกว้าง ช่วยชาวนา ฉุดราคาข้าว

จำนวนผู้เข้าชม website counter

โรงสีข้าวขนาดใหญ่ที่สุดในลำปาง รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาทุกชนิดเพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ  ผู้ว่าฯ เร่งหาจุดวางจำหน่าย ช่วยเหลือ  ขณะที่ ผบ.มทบ. 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี พร้อมคณะเข้าตรวจเยี่ยมและให้กำลังแก่ผู้ประกอบการและชาวนาที่นำข้าวมาขาย เพื่อนำปัญหาต่างๆรายงานไปยังรัฐบาลต่อไป
           
นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวถึงการช่วยเหลือเกษตรกรหรือชาวนาได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ข้าวราคาตกต่ำว่า การช่วยเหลือชาวนาที่ผลิตข้าวในปีนี้ จะมีอยู่ 2-3 ลักษณะ ระยะสั้น คือ ทำยังไงให้ชาวนาขายข้าวให้ได้ราคาสูงขึ้น ซึ่งจะต้องดูตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ราคาข้าวจะสูงขึ้นก็ต่อเมื่อราคาขายข้าวปลายน้ำหรือข้าวสาร มีการขายได้ราคาและมีจำนวนของผู้ซื้อมากขึ้น ส่วนระยะกลางและระยะยาว จะต้องจูนความคิดของเกษตรกร ซึ่งถ้าไม่ต้องการประกอบอาชีพหรือมีรายได้จากการขายข้าวแล้ว ทางจังหวัดจะมีอาชีพเกษตรทางด้านอื่นให้ เช่นทางปศุสัตว์ ประมง หรือเกษตรผสมผสาน เป็นต้น โดยกลางเดือนหน้า จะเรียกเกษตรอำเภอ เกษตรตำบล มารับวิทยาการใหม่ๆ เพื่อที่จะไปปรับเปลี่ยน ซึ่งหากไม่เปลี่ยนก็อาจจะเผชิญปัญหาอย่างนี้ต่อๆไป เพราะความไม่เสถียรของราคาข้าวซึ่งพึ่งพิงกับตลาดโลกก็จะเป็นปัญหากับชาวนาตลอดไป

ขณะนี้ทางจังหวัดกำลังเร่งหาจุดจำหน่ายเพื่อให้เกษตรกรหรือชุมชนสามารถผลิตข้าวและใช้โรงสีชุมชนแล้วเอามาขายเอง โดยได้รับการตอบรับจากตลาดทุ่งเกวียน ให้พื้นที่ฟรีไม่คิดค่าพื้นที่ในการเช่า ในขณะเดียวกันทางจังหวัดกำลังประสานกับชมรมผู้ประกอบการ ร้านค้าแผงลอยต่างๆ ว่ามีตรงไหนบ้างที่จะรับนโยบายส่วนนี้ ในส่วนของปั๊มน้ำมัน ทางสำนักงานพลังงานจังหวัดจะรับหน้าที่ไปประสานงานปั๊ม ปตท. ทุกแห่งในจังหวัดลำปาง โดยสหกรณ์และเกษตรกรสามารถติดต่อที่วางขายในปั๊ม ปตท. กับผู้ประกอบการได้เลยทันที ในส่วนของสำนักงานอุตสาหกรรมจะประสานให้โรงงานอุตสาหกรรมที่มีคนงานและคู่สัญญาจำนวนมากช่วยรับซื้อข้าวจากโรงสีข้าวสหกรณ์ ซึ่งในขณะนี้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปางกำลังดำเนินการโดยจะส่งข้อมูลรายละเอียดของโรงสีสหกรณ์ให้โรงงานเป้าหมายต่อไป

ขณะเดียวกัน วันที่ 2 พ.ย.  59 พลตรีกิตติศักดิ์  แม้นเหมือน ผบ.มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จังหวัดลำปาง พันเอกสุรคล ท้วมเสม รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32  พร้อมคณะได้เดินเยี่ยมพบปะสอบถามผู้ประกอบการโรงสีข้าว และชาวนาที่นำข้าวสารมาจำหน่าย ที่โรงสีแสงรุ่งเรือง บ้านแม่ฮาว หมู่ที่ 3 ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยมีนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ นายอำเภอห้างฉัตร พร้อมคณะให้การต้อนรับและให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้าวในปีนี้ พบว่าในพื้นที่อำเภอห้างฉัตรมีพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด 33,000 ไร่ แบ่งเป็นข้าวเหนียว 30,000 ไร่ ข้างจ้าว 3,000 ไร่ และขณะนี้ชาวนาเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวกันแล้ว บางส่วนเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วก็นำไปตากแดดเพื่อที่จะได้ขายข้าวที่มีราคาสูงขึ้นเนื่องจากมีความชื้นน้อย และบางส่วนก็นำมาขายทันทีเพื่อนำทุนไปต่อยอดในการทำนาและการเกษตรอื่นๆ 

 โดยโรงสีข้าวแสงรุ่งเรืองแห่งนี้ รับซื้อข้าวเปลือกทุกชนิด แต่จะต้องมีการตรวจสอบวัดคุณภาพความชื้นของข้าวเปลือกก่อน และเมื่อเป็นที่พอใจของชาวนาแล้วทางโรงสีก็รับซื้อไว้ทันที และนำไปอบแต่โรงสีแห่งนี้ไม่มีโรงอบข้าว และสถานที่ตากข้าวเพียงพอ  จึงส่งไปอบที่ จ.สุพรรณบุรี ได้แล้วส่งกลับมาเพื่อบรรจุเป็นข้าวสารจำหน่ายต่อไป   

ขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกกันแล้ว จึงมีชาวนาทยอยนำข้าวเปลือกมาจกหน่ายที่โรงสีแสงรุ่งเรือง เพราะเป็นโรงสีข้าวขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดลำปาง เปิดรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาทุกชนิดทั้งข้าวเปลือกใหม่และข้าวเปลือกเก่า ยังไม่จำกัดปริมาณข้าวที่ชาวนานำมาจำหน่าย เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ประสบความเดือดร้อนราคาข้าวตกต่ำในขณะนี้ โดยให้ราคาแก่ชาวนาและเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย

 จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรห้างฉัตร เลขที่ 141 หมู่ 1 บ้านสันหนองบง ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร  ซึ่งสหกรณ์การเกษตรแห่งนี้ สามารถรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาได้จำนวนจำกัดเนื่องจากสถานที่และโรงอบข้าวที่มีสามารถรับข้าวเปลือกได้วันละ 5 ตันเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นรับซื้อข้าวเปลือกเพื่อช่วยเหลือชาวนาด้วย

พลตรีกิตติศักดิ์  แม้นเหมือน ผบ.มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่เดินทางไปตรวจสอบและเยี่ยมชมการช่วยเหลือเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนา ในเบื้องต้นยังพบปัญหาและอุปสรรคหลายอย่าง แต่ก็ดีใจที่ผู้ประกอบการโรงสีข้าวในจังหวัดลำปางหลายแห่ง ได้ร่วมใจกันช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่ประสบปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำเป็นอย่างวดี และจะได้ประสานไปยังโรงสีในพื้นที่ต่างๆเพื่อให้การช่วยเหลือชาวนาให้ทั่วถึง และจะนำปัญหารายละเอียดต่างๆที่ได้รับมาส่งไปยังรัฐบาลเพื่อให้การพิจารณาช่วยเหลืออย่างทั่วถึงต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1103 วันที่  4 - 10 พฤศจิกายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์