ผู้ค้าสลากกินแบ่งฯร้อง นอนรอสองคืนกดจองไม่ได้

จำนวนผู้เข้าชม

กลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมตัวร้องศูนย์ดำรงธรรม  เดือดร้อนกดซื้อและจองหวยจากตู้เอทีเอ็มไม่ได้  ต้องนอนเฝ้า 2 วัน 2 คืน  อีกทั้งยังถูกชายข่มขู่ห้ามนอนเฝ้า มารู้ทีหลังเป็น รปภ.  ด้านรองผู้ว่าฯเรียกผู้ค้า และธนาคารกรุงไทย เข้าทำความเข้าใจ  เสนอปัญหาไปยังกองสลากฯ

           

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 59  กลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.ลำปาง นำโดย  นางพัชรี วิชัยอริยุทธ์ หรือ เจ๊อี๊ด  พร้อมผู้ค้าสลากฯ รวมประมาณ 50 คน ได้เดินทางไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง หลังจากประสบปัญหาไม่สามารถกดซื้อและจองสลากกินแบ่งรัฐบาลจากตู้เอทีเอ็มได้มากว่า 6 งวดแล้ว  ทำให้ผู้ค้าฯ มีสลากกินแบ่งขายไม่เพียงพอ   อีกทั้งยังต้องนำหมอนและมุ้งไปกางนอนหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยที่มีกระจายอยู่ทั่ว จ.ลำปาง  เพื่อจะได้คิวแรกในการกดซื้อและจองสลากกินแบ่งฯดังกล่าว  เป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันเอง รวมทั้งถูกข่มขู่จากชายแปลกหน้า

           

นางพัชรี  วิชัยอริยุทธ์  เปิดเผยว่า  ปัญหาที่กลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.ลำปาง พบก็คือช่องทางการเปิดจองและซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลลดลง ทำให้มีสลากฯไม่เพียงพอขาย ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องรับซื้อจากยี่ปั๊วะในราคาแพง  ผู้ค้าก็ต้องขายเกินราคา 80 บาท  เมื่อถูกร้องเรียนก็ต้องโดนจับกุม และโดนตัดสิทธิ์โควตาทันที ในขณะที่นิติบุคคล หรือยี่ปั๊วะรายใหญ่หากขายเกินราคา จะตักเตือนก่อน 2 ครั้ง ไม่ถูกตัดสิทธิ์ทันทีเหมือนผู้ค้ารายย่อย  ซึ่งไม่ยุติธรรมกับผู้ค้ารายย่อยเป็นอย่างมาก

           

จากเดิมผู้ค้าสลากฯ สามารถซื้อสลากได้ 3 ช่องทาง คือ ซื้อผ่านธนาคารกรุงไทย  ผ่านเน็ตแบงค์ และผ่านทางตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย   แต่ตอนนี้ซื้อทางธนาคาร ทางเน็ตแบงค์ก็ไม่ได้  มา 3 เดือนแล้ว รวม 6 งวด  จึงเหลือช่องทางเดียวคือซื้อทางตู้เอทีเอ็ม ทุกคนต้องไปนอนเฝ้าหน้าตู้เอทีเอ็ม เพื่อจะเอาบัตรซื้อและบัตรจอง   เดิมที่กดกันได้ 500 คน  ตอนนี้กดได้ไม่ถึง 100 คน  ไม่ต้องพูดถึงคนพิการ เฉพาะคนปกติดียังกดจองไม่ได้เลย  คนที่ตกลงกันไม่ได้ก็ทำให้เกิดการทะเลาะกัน  สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ค้าสลากฯอย่างมาก    เมื่อไปซื้อที่ยี่ปั๊วะขายใบละ 77 บาท มาขาย 80 บาทก็ไม่พอกิน จึงต้องขายเกินราคา  และก็ประสบปัญหาอีกคือโดนจับกุม  ผู้ค้าสลากรายย่อยจึงโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง  แต่ถ้าทุกคนกดซื้อได้เหมือนเดิมที่ผ่านมา  สามารถขายได้ใบละ 80 บาท

           

นอกจากนี้ยังมีผู้ค้าสลากฯ รายหนึ่งใน อ.ห้างฉัตร   ไปนอนเฝ้าที่หน้าตู้เอทีเอ็มในเขต อ.ห้างฉัตร เพื่อจะรอกดซื้อสลากฯ แต่ได้มีชายแปลกหน้าเข้ามาพูดจาข่มขู่บอกว่าไม่ให้มานอนเฝ้าตรงนี้  ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร  เรื่องนี้ก็ได้รายงานให้ทางจังหวัดทราบไปแล้ว   ถ้าหากธนาคารกรุงไทย ไม่สามารถดำเนินการได้ ก็เปิดให้ธนาคารอื่นทำก็ได้ ทางผู้ค้ายอมเสียค่าธรรมเนียมไปกดซื้อ  เหมือนเวลากดเงินยังสามารถกดได้ทุกธนาคาร  นางพัชรี กล่าว

           

ทั้งนี้ นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  ได้เข้าพูดคุยรับทราบปัญหาของกลุ่มผู้ค้าสลากฯ พร้อมกับสั่งการให้เรียกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนกลุ่มผู้ค้าฯ  ธนาคารกรุงไทย  เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร  เข้าประชุมร่วมกันในวันที่ 7 พ.ย.59  เพื่อหาทางออกร่วมกัน   เมื่อทางกลุ่มผู้ค้าฯทราบบางคนถึงกับดีใจจนน้ำตาไหล  ขอบคุณผู้ว่าฯที่ให้ความสำคัญและช่วยเหลือดังกล่าว

           

ต่อมาวันที่ 7 พ.ย.59 นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  เป็นประธานประชุมหาทางออกให้กับกลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีตัวแทนจากเสมียนตราจังหวัด  ธนาคารกรุงไทย สาขาลำปาง  เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ  และผู้ค้าสลากฯเข้าร่วมรับฟัง

           

ในการประชุมสรุปได้ว่าปัญหาคือ ธนาคารกรุงไทยเปลี่ยนเวลาจากการเปิดซื้อและเปิดจองในวันเดียว เป็น 2 วัน  และให้เวลาการกดคิวน้อยมาก  ทำให้ผู้ค้าสลากฯต้องไปนอนเฝ้าหน้าตู้เอทีเอ็ม และเกิดปัญหาการทะเลาะวิวาทกันเอง  ส่วนกรณีที่ถูกชายข่มขู่นั้น สอบถามจนทราบว่า ชายคนดังกล่าวเป็น รปภ.ที่ดูแลความปลอดภัยของหน่วยงาน เมื่อมีบุคคลภายนอกเข้าไปนอนเฝ้าหน้าตู้เอทีเอ็ม จึงเกิดความเข้าใจผิดขึ้น   ดังนั้นหากผู้ค้าสลากฯต้องการที่จะมารอคิวกด ขอให้แจ้งทำความเข้าใจกับ รปภ.ก่อน  เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะ รปภ.ก็ทำตามหน้าที่

นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด  ได้สรุปการประชุมว่า ทางจังหวัดจะได้ออกหนังสือเสนอเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย  กองสลากฯ และธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่  ให้รับทราบถึงปัญหาในพื้นที่ จ.ลำปาง พร้อมเสนอการแก้ไขปัญหา  3 ข้อด้วยกัน คือ ขอให้เปิดซื้อและรับจองสลากฯ ในวันเดียวกัน    ขอให้เปิดจองเวลา 08.30 น. พร้อมกันทั้งเคาท์เตอร์ธนาคาร และตู้เอทีเอ็ม  จากเดิมที่เคาร์เตอร์เปิดเวลา 08.00 น. และตู้เอทีเอ็มเปิด 08.30 น. ทำให้เกิดช่องว่างให้กับคนที่รับจ้างกดซื้อสลากฯ  ทำให้ผู้ค้าสลากฯจริงไม่สามารถกดคิวได้  และขอให้เปิดรายชื่อของผู้ซื้อและผู้จอง เพื่อจะได้ทราบว่า เป็นผู้ค้าสลากฯจริงหรือไม่  เนื่องจากมีอาชีพรับจ้างกดคิวเข้ามาแทรกแซง

รองผู้ว่าราชการฯ ยังได้ขอให้ผู้ค้าสลากฯ ตกลงจัดคิวการกดตู้เอทีเอ็มกัน เพื่อลดปัญหา หากเกิดการทะเลาะวิวาทให้จดชื่อไว้เป็นแบล็คลิส  และหากมีปัญหาหรือเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ให้ส่งตัวแทนไม่เกิน 5 คน เข้ามาเจรจากัน ไม่ต้องยกกันมาเป็นกลุ่มจำนวนมาก หรือหากไม่สะดวก ให้แจ้งมาทางรองผู้ว่าฯ จะลงพื้นที่หาผู้ค้าฯด้วยตัวเอง  ซึ่งทางกลุ่มผู้ค้าฯ ได้ตกลงตามข้อเสนอดังกล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1104 วันที่ 11-17 พฤศจิกายน 2559)