วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

ปรากฏการณ์สีเหลือง

จำนวนผู้เข้าชม http://www.hitwebcounter.com/

เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน สิ่งหนึ่งที่เป็นความเบิกบานเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราชาวลำปางก็คือเหล่าดอกไม้ริมทางที่แบ่งบานเป็นสีสันในวันอบอ้าว ขี่รถไปทางไหน เห็นทีไรก็ชื่นใจเมื่อนั้น

ไม่ว่าจะเป็นเหลืองปรีดิยาธร เหลืองอินเดีย เหลืองเชียงราย สุพรรณิการ์ หรือฝ้ายคำ ราชพฤกษ์ หรือคูน ดอกไม้เหล่านี้พอออกดอกจะเป็นสีเหลืองฟูเต็มต้น ดูสดใสตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าฤดูร้อน

ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองลำปางของเราก็มีปรากฏการณ์ชมดอกเหลืองอินเดียบานสะพรั่งที่โรงเรียนพงษ์สวัสดิ์วิทยานุเคราะห์ (เก่า) ซึ่งมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น ที่จะเปิดประตูให้คนภายนอกเข้าไปชมความงามของดอกเหลืองอินเดียอย่างใกล้ชิด ที่นี่ตลอดเส้นทางเดินไปยังอนุสาวรีย์พ่อเลี้ยงพงษ์สวัสดิ์จะมีต้นเหลืองอินเดียเรียงรายตลอดแนว ยามออกดอกพร้อมกันจึงเหลืองอร่ามไปทั่วบริเวณจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต รถจอดกันริมถนนยาวเหยียด ผู้คนพากันลงมาเดินชมดอกไม้บานราวกับมหกรรมย่อย ๆ ถ่ายรูป แล้วแชร์กันสะพัดในโลกออนไลน์

แม้เป็นปรากฏการณ์เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ทว่าผลพลอยได้หลังจากนั้น คือทำให้ยอดขายต้นเหลืองอินเดียพุ่งสูงขึ้น บางคนไม่ได้กลับมาปลูกแค่ต้นสองต้น แต่สั่งมาปลูกทีเดียว 20-30 ต้นเพื่อที่จะรอชมดอกเหลืองอร่ามในฤดูกาลถัดไป
เหลืองอินเดีย (Golden Tree) มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโกตอนเหนือถึงเวเนซุเอลา จากนั้นก็มีคนนำพันธุ์ไปปลูกในเขตร้อนทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่ถูกนำเข้ามาเป็นไม้ประดับเมื่อนานมาแล้ว ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 5-9 เมตร ออกดอกได้ตั้งแต่เป็นพุ่มเล็ก ๆ ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ ซึ่งประกอบด้วยใบย่อย 5 ใบ ผิวใบไม่เรียบ เป็นขนกำมะหยี่เล็กน้อยสีเขียวอมเหลือง เวลาออกดอกจะออกเป็นช่อเป็นกระจุก แตกดอกตามตารอบ ๆ สีเหลืองสดติดกันเป็นหลอดรูปแตรยาว 4-7 เซนติเมตร ปลายแฉกมี 5 กลีบ ดอกบานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้ 4 อัน สั้น 2 อัน ยาว 2 อัน โคนก้านเกสรมีขน ปลูกได้ในดินทั่วไป ทนแล้งได้ดี เวลาออกดอกใบจะร่วงหมด ออกดอกในฤดูแล้ง ดอกจะบานเต็มต้นเพียงระยะสั้น ๆ ประมาณ 2-3 วันก็จะร่วงหล่นโคนต้นเหลืองไปหมดเหมือนปูพรมสีเหลืองสด เรียกได้ว่า สวยตั้งแต่พื้นจดเรือนยอดเลยทีเดียว

ฟุ้ง ๆ ฝัน ๆ อยากให้ลำปางของเรามีเทศกาลชมดอกไม้บานแบบเป็นเรื่องเป็นราว นึกไปถึงการนั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระแบบชาวญี่ปุ่น นึกถึงดนตรีบรรเลงในสวน ผู้คนปูเสื่อนั่งกับพื้นรื่นรมย์ ไม่ใช่ลานเบียร์อึกทึกครึกโครม
เสียดายเราไม่ได้ปลูกต้นเหลืองอินเดียในลักษณะลานดอกไม้ แต่ปลูกรายทางริมถนนมากกว่า ส่วนใหญ่จึงได้แค่เพียงขับขี่รถชมความงามกันไป ไม่ว่าจะเป็นถนนท่ามะโอ ถนนสุเรนทร์ จะมีหยุดชื่นชมได้หน่อยก็ตรงโรงเรียนพงษ์สวัสดิ์ฯ เก่า หรือไม่ก็หน้าสวนสาธารณะเขลางค์นคร


เมืองเรายังดีมีดอกไม้บานให้ชุ่มชื่นหัวใจได้บ้าง และอย่าลืมชื่นชมกัลปพฤกษ์ หางนกยูง ทองกวาว ประดู่ และวงศ์ไม้ตะแบก ได้แก่ ตะแบก อินทนิลน้ำ อินทนิลบก และเสลา ดอกไม้พวกนี้มีอยู่ประปรายทั่วเมือง อวดดอกอยู่ท่ามกลางแดดร้อนร้ายอย่างเงียบ ๆ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ 1124 วันที่ 7-20 เมษายน 2560)
Share:

2 ความคิดเห็น:

  1. เข้ามาแล้วทิ่งขยะไว้เกลื่อนแย้มาก

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ08 เมษายน, 2560 22:23

    บางคนขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้ ไม่เพียงคนเดียว บางทีขึ้นไปเป็นกลุ่ม 2-5 คน ถ้าเป็นแบบนี้อีกหน่อยกิ่งไม่หักรากคงคลอนและตายไป บางคนเขย่าให้ดอกร่วง เพื่อจะได้ภาพที่ดอกกำลังร่วง..สารพัดที่จะทำร้ายต้นไม้...แย่จัง...

    ตอบลบ

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์