วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2560

น้ำป่าทะลัก13อ.'เถิน'ระทมสุด

จำนวนผู้เข้าชม my widget for counting

ลำปางเจอน้ำป่าหลากทั้ง 13 อำเภอ กระทบเกือบ 3 พันครัวเรือน หนักสุด อ.เถิน น้ำท่วมขังนาน 3 วัน ปภ.เขต 10 ต้องใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกลระบายออกจากพื้นที่  ขณะที่สองเขื่อนใหญ่แจ้งเตือนการระบายน้ำ เพื่อรองรับพายุฝนรอบใหม่ ยันไม่ท่วมเขตเมือง

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560 เวลา 08.00 น. นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง   เป็นประธานประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดลำปาง (Warroom อุทกภัย) ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำปาง  โดยในที่ประชุมได้มีการสรุปสถานการณ์สาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดลำปาง ตั้งแต่วันที่ 3-11 ต.ค. 60 มีพื้นที่ประสบภัยรวม 13 อำเภอ 77 ตำบล 128 หมู่บ้าน 2,968 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่ อ.งาว คือนายทอน มามี อายุ 49 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บ้านหวด  และ อ.เถิน คือนายบุญเลย ยอดกันทา อายุ 62 ปี  ราษฎร ต.แม่ปะ อ.เถิน  สาเหตุถูกน้ำพัดจมน้ำเสียชีวิต

**เถิน-แม่พริกยังท่วมขัง
สถานการณ์ปัจจุบัน เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 11 อำเภอ สำหรับ 2 อำเภอ คือ อ.เถิน และ อ.แม่พริก ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประสานหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย  โดยที่ บ้านวังมน ต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ กรณีสะพานทรุด แขวงทางหลวงจะเริ่มติดตั้งสะพานแบลี่ย์ ในวันที่ 17 ต.ค.60  ส่วนที่ อ.แม่พริก สำนักงานชลประทานที่ 2 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง สูบน้ำออกจากนาข้าวเข้าอ่างเก็บน้ำหนองกระทุ่มโปง เพื่อแก้ไขปัญหานาข้าวเสียหาย คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว   ขณะที่  อ.เถิน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยสูบน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ยังคงมีน้ำท่วมขังเล็กน้อยในพื้นที่บ้านเรือน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะด้านการเกษตร เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป และให้ท้องถิ่นจังหวัดประสาน อปท. ในพื้นที่ ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรให้ช่วยสูบน้ำออกโดยเร็ว

**ย้อนเหตุการณ์ท่วมเถิน
สำหรับเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากพื้นที่หนักสุด คือ อ.เถิน ได้เกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร 4 ตำบลคือ  ต.แม่วะ ต.เถินบุรี ต.ล้อมแรด ต.แม่ปะ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.60 ที่ผ่านมา ให้ต้องปิดสะพานข้ามแม่น้ำวังถึง 2 แห่ง คือ  สะพานข้ามแม่วังระหว่างบ้านล้อมแรด หมู่ 4 ไปยังบ้านหนองบัวหมู่ 6 ต.ล้อมแรด อ.เถิน   โดยฝั่งบ้านหนองบัว ไม่สามารถสัญจรข้ามไปมาได้ เพราะแม่น้ำวังได้เอ่อเข้าท่วมคอสะพานระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร  แม่น้ำวังไหลเชี่ยวกราด เจ้าหน้าที่ต้องนำแผงเหล็กมากั้น ตรงสะพานห้ามสัญจรอย่างเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย  เช่นเดียวกันกับสะพานข้ามแม่น้ำวังอีกแห่ง คือสะพานเมืองเถิน  100 ปี ที่อยู่ถัดทางทิศเหนือของแม่น้ำวัง ไป อีกประมาณ 2 กิโลเมตร การสัญจรเส้นทางดังกล่าว ไม่สามารถผ่านเข้าออกได้เช่นกัน เพราะระดับน้ำในแม่น้ำวังเอ่อท่วมถนนโดยรอบ ชุมชนใกล้สะพาน สูงกว่า 1 เมตร ต้องอ้อมไปใช้สะพานอีกแห่งที่อยู่ถัดไป

**โรงเรียน-ถนนหลวงจม
โดยเฉพาะโรงเรียนล้อมแรดวิทยา ต.ล้อมแรด อ.เถิน ที่ถูกน้ำท่วมทั่วทั้งโรงเรียนความสูงของน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร บางแห่งได้ทะลักเข้าไปยังห้องเรียนห้องเก็บอุปกรณ์ต่างๆของโรงเรียนเสียหายไปแล้ว ซึ่งขณะนี้โรงเรียนได้ปิดเทอม ทำให้ครูและนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่มาช่วยเหลือในการขนย้ายทรัพย์สินหนีย้ำไม่ทันจนเสียหายไปหลายส่วน 

นอกจากนั้นน้ำยังหลากเข้าท่วม ถ.พหลโยธิน สายลำปาง-ตาก บ้านหนองเชียงราน ต.ล้อมแรด อ.เถินทั้ง 2 ฝั่งขาขึ้นและขาล่อง รถที่สัญจรไปมาต้องระมัดระวังอย่างมาก แต่เพียงวันเดียวน้ำก็ลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติ

ต่อมาวันที่ 8 ต.ค. 60  ปริมาณน้ำยังคงตัวอยู่ในระดับสูงประมาณ 1 เมตร ท่วมขังบ้านเรือนราษฎร โดยเฉพาะหมู่บ้านเด่นแก้ว หมู่ 11 ต.ล้อมแรด อ.เถิน  ทั้งนี้ ทางเทศบาลเมืองล้อมแรด กำนัน ต.ล้อมแรด  ขอสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ. 32  นำเรือบรรจุอาหารและน้ำดื่มเข้าแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ส่วนบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำวัง 2 แห่ง ที่ต้องปิดสะพานไป สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติแล้ว เนื่องจากน้ำในแม่น้ำวังลดระดับลงแล้ว

**วังเหนือน้ำหลาก 
และในวันเดียวกันช่วงเวลา 12.20 น. ที่ อ.วังเหนือ ได้เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนัก น้ำในลำห้วยได้เพิ่มปริมาณขึ้น และไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ในเขต บ้านใหม่  หมู่ 6 และบ้านแม่เฮียว หมู่ 7 ต.วังเหนือ  อ.วังเหนือ ชาวบ้านได้ช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นบริเวณช่องสะพาน เพื่อไม่ให้น้ำไหลผ่านเข้ามาได้ด้วยความทุลักทุเล แต่น้ำบางส่วนก็ทะลักเข้าท่วมในบ้านเรือนแล้ว จึงทำได้แค่เพียงขนของมีค่าขึ้นไว้ในที่สูงก่อน   ซึ่งนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ปภ.สาขา และอปท.พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยวังเหนือ อาสาสมัครภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยการมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย  

**เกาะคา ห้างฉัตร โดนด้วย
วันที่ 9 ต.ค.60   หลังจากได้เกิดฝนตกในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร และ อ.เกาะคา จ.ลำปาง น้ำในลำห้วยแม่ตานได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้น จนเอ่อทะลักล้นออกจากลำห้วย รวมทั้งผุดออกจากทางท่อระบายน้ำ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในเขตบ้านม้ากลาง หมู่ 13   ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านแห่งนี้ได้รับผลกระทบกว่า 60 ครัวเรือน สาเหตุหลักมาจากจุดดังกล่าว เป็นคอขวด ทำให้น้ำเอ่อทะลักเข้าท่วมทุกครั้ง หากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากมากับลำน้ำแม่ตาน

นายทรงพล  สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบชาวบ้านในพื้นที่ได้กล่าวให้ข้อมูลว่า ในจุดบริเวณที่น้ำเอ่อล้นไหลทะลักนี้ แต่เดิมเป็นพื้นที่ร่องน้ำของลำน้ำแม่ตาน ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักที่ไหลผ่านชุมชนหมู่บ้าน โดยรอบบริเวณจะไม่มีบ้านเรือนปลูกสร้างและไม่มีถนนตัดผ่าน ต่อมาเมื่อชุมชนเกิดการขยายตัวมีบ้านเรือนหนาแน่นแต่เส้นทางถนนคับแคบ ชาวบ้านจึงมีความต้องการถนนเพื่อจะใช้เป็นเส้นทางสัญจรในการเข้า-ออก จากนั้นจึงได้มีการดำเนินการจัดวางท่อน้ำซีเมนต์ขนาดใหญ่ให้น้ำในลำน้ำแม่ตานไหลผ่านลงไปสู่แม่น้ำวัง และได้ทำการถมพื้นที่ด้านบนทั้งหมดทำเป็นถนนหมู่บ้านให้รถวิ่งสัญจรผ่านไปมาได้ เริ่มแรกที่ได้ทำการสร้างแล้วเสร็จใหม่ๆ ไม่มีปัญหาน้ำเอ่อล้นทะลัก แต่ต่อมาในช่วงระยะหลังกลับพบว่าน้ำมักจะเอ่อล้นและทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในชุมชนหมู่บ้านทุกครั้งที่มีฝนตกหนักจนกลายเป็นปัญหาซ้ำซาก  ซึ่งในส่วนนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ประสานหน่วยงานเขตท้องที่ที่เกี่ยวข้องให้ได้เร่งทำการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ชาวบ้านผู้ประสบภัยแล้ว

สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว ได้มอบหมายให้หน่วยงานเทศบาลและที่ว่าการอำเภอเขตท้องที่ ร่วมหารือกับสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สำนักงานชลประทานที่ 2 และหน่วยงานส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดทำแผนงานโครงการเร่งด่วน เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณสำหรับใช้ดำเนินการในการแก้ไขปัญหาต่อไป

**ป่าไม้แจกถุงยังชีพ
เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง โดยนายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง สั่งการให้ นายสุเทพ พุทชา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) พร้อมด้วยนายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.37 แม่ยาว พร้อมด้วยถุงยังชีพประกอบด้วย บะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง เดินลุยน้ำไปแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากท่วมขัง ที่บริเวณชุมชนบ้านม้าเหนือ หมู่ 6  ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยถุงยังชีพที่นำมาแจกจ่ายครั้งนี้ นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง ได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมขังซึ่งบางรายไม่สามรถไปประกอบอาชีพตามปกติได้ และบางรายไม่สามารถ ช่วยเหลือตัวเองได้ จึงได้จัดงบประมาณไปจัดซื้อข้าวสารอาหารแห้งน้ำดื่มพร้อมบรรจุในถุง นำไปแจกจ่ายประชาชนเพื่อลดความเดือนร้อนชั่วคราวไปก่อน

**ผบ.มทบ.นำกำลังทหารช่วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.สุรคล ท้วมเสน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้นำกำลังทหาร ไปช่วยเหลือชาวบ้านในการขนย้ายทรัพย์สินและสิ่งของชาวบ้านไว้ในที่ปลอดภัย และกำลังพลบางส่วนยังได้ร่วมกันบรรจุทรายลงกระสอบแล้วนำไปทำแนวกั้นน้ำไม่ให้ทะลักเข้าบ้านเรือนชาวบ้าน

ด้าน พร้อมด้วย พ.อ.ณัฐนนท์ ภุกุกะ ผอ.โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้นำทหารเสนารักษ์ฯ เข้าไปตรวจสุขภาพและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกทางหนึ่ง  ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้คาดว่าอีกวันหรือสองวันน่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติหากฝนไม่ตกและน้ำป่าไม่ไหลหลากเพิ่มเติม

            **ผู้ว่าฯลงพื้นที่เถินอีกครั้ง
จากนั้น  นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นางศิรินุช สวาสดิ์ธรรม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง นายสุรพล บุรินทร์ทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ พันโท ไกรพินิช วาเล๊กบุตร ผบ.ร.17 พัน.2  นายเชาว์ทวีพัฒน์ ดนัยนันท์ ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอเถิน  ออกตรวจเยี่ยมเยือนราษฎรในพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก เขต ต.ล้อมแรด อ.เถิน   พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มให้แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 60 ชุด โดย อำเภอเถิน สนับสนุนน้ำดื่ม 500 ชุด เทศบาลเมืองล้อมแรด แจกข้าวกล่อง จำนวน 1,100 กล่องพร้อมน้ำดื่ม ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10จังหวัดลำปาง สนับสนุนเจ้าหน้าที่ ERT 3 นาย เรือ 2 ลำ น้ำดื่ม 500 ขวด ส่วนโรงพยาบาลเถิน และสาธารณสุขอำเภอเถิน จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนในพื้นที่ โดยสรุปปัจจุบันอำเภอเถิน ยังคงมีน้ำท่วมขัง 1 ตำบล  ประกอบด้วย ม.3 บ้านท่านาง ม.4 บ้านล้อมแรด ม.5 บ้านเหล่า ม.10 บ้านสบคือ ม.11 บ้านเด่นแก้ว และ ม.14 บ้านแพะหลวง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 540 ครัวเรือน

            **ปภ.เขต 10 ส่งเครื่องสูบน้ำช่วย
 พร้อมกันนี้ นายคมสัน สุวรรณอัมพา  ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมสนับสนุนรถสูบส่งระยะไกล สูบน้ำจากเขตที่ลุ่มน้ำท่วมขังบริเวณหน้าโรงเรียนล้อมแรดวิทยา  ต.ล้อมแรด  อ.เถิน จังหวัดลำปางผ่านระบบท่อสายอ่อนอัตราการสูบระบายน้ำ 5,000 ลิตร/นาที ปล่อยลงสู่แม่น้ำวัง ระยะทางประมาณ 1 ก.ม.  ซึ่งบ้านล้อมแรด หมู่ 4 แห่งนี้ เป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติผ่านเขตชุมชนเมือง  คาดหลังจากสูบน้ำแล้วไม่มีฝนตกซ้ำ น้ำที่ท่วมขังจะแห้งทั้งหมด

            **กิ่วลม-กิ่วคอหมาเตือนปล่อยน้ำ
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.60 เวลา 15.00น. นายฤทัย พัชรานุรักษ์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ได้มีประกาศเตือนประชานที่มีบ้านเรือนอยู่สองฝากฝั่งน้ำวังให้เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งโดยให้เร่งเก็บทรัพย์สินของมีค่าไว้ในที่สูง เนื่องจากในขณะนี้ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งมาว่า ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค.นี้ ประเทศไทยยังจะมีฝนตกชุกและหนาแน่นกับมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ และมีลมกรรโชคแรงในบริเวณภาคเหนือ ซึ่งลักษณะดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดมีน้ำป่าไหลหลากได้ในบางพื้นที่ ซึ่งในส่วนของเขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมาจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง เพื่อรักษาความสมดุลของน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนทั้งสองแห่ง ให้สามารถควบคุมป้องกันบรรเทาอุทกภัยให้มีความปลอดภัยกับตัวเขื่อน และเตรียมวามพร้อมของพื้นที่ว่างในการรองรับปริมาณน้ำ ที่จะเกิดจากฝนตกหนักตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งเตือนมา

ส่วนสภาพความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยของตัวเขื่อนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการตรวจสอบมาเป็นระยะๆ พบว่ามาความเป็นปกติ แต่เพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์หากเกิดน้ำหลากจากลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังด้านท้ายเขื่อน ที่อาจจะส่งผลกระทบให้เกิดมีน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ต่ำริมตลิ่งของแม่น้ำ ทางเขื่อนกิ่วคอหมาจึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวังในอัตรา 50-70 ลบ.ม.ต่อวินาที ตามความจำเป็นและความเหมาะสม ส่วนเขื่อนกิ่วลมก็มีการเพิ่มการระบายน้ำ ให้อยู่ในอัตรา 100-150 ลบ.ม.ต่อวินาที  ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.เป็นต้นไป

            **ยันไม่กระทบ
นายฤทัย  กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 11 ต.ค.60 เขื่อนกิ่วลมได้มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย จาก 100 ลบ.ม.ต่อ วินาที เป็น 117 ลบ.ม.ต่อ วินาที เพื่อลดระดับน้ำเหนือเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม แต่ไม่มีผลกระทบท้ายน้ำ เพิ่มจากเดิมเพียง 17 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำแม่น้ำวังจะเพิ่มจากเดิมเพียง 7  ซ.ม.เท่านั้น  สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง เขื่อนทั้งสองรับมือได้  ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะมีสองเขื่อน สามารถรองรับน้ำเข้าได้อีก ตามแผนบริหารจัดการน้ำทั้งสองเขื่อนใหญ่ เชื่อมั่นว่าปลอดภัย ขอให้ประชาชนคอยติดตามข่าวสาร และสถานการณ์ที่แจ้งเตือน

**ให้ตั้งรับทุกเมื่อ
ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลาดเชิงเขาที่ลุ่มต่ำ รวมทั้งบริเวณที่เคยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ให้เตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย กำชับหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสารของทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นให้ทราบทันทีเมื่อเกิดเหตุ ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง โทร 054-265-074 สายด่วนนิรภัย 1784

 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1150 วันที่ 13 - 19 ตุลาคม 2560)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์