วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ปลอมลายเซ็นเบิกเงินล้าน แบงค์กรุงเทพ พ่วงใบโพธิ์ เมียใหม่ฉ้อฉล

จำนวนผู้เข้าชม url and counting visits

ตะครุบตัวสาวแสบ นำบัญชีธนาคารเมียเก่าของสามี มาปลอมลายเซ็นและใช้ใบขับขี่หมดอายุ ไปเบิกเงินสดได้ไปกว่า 1 ล้านบาท เจ้าตัวทำงานอยู่ต่างประเทศไม่ทราบเรื่อง  กระทั่งกลับมาหาลูกที่ลำปาง จึงไปกดเอทีเอ็มเช็คยอมในบัญชี ช็อคเหลือเงินแค่ 2.8 แสน  รุดเข้าแจ้งความ  เตรียมไล่บี้ธนาคารให้เบิกได้อย่างไร

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 61 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดลำปาง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุคนร้ายนำสมุดธนาคารของผู้อื่นไปถอนเงิน ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาห้างบิ๊กซีลำปาง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้าง และของธนาคาร สามารถไล่จับตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นหญิงเอาไว้ได้ 1 ราย ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวรงานป้องกันและปราบปราม (ร้อยเวร 20) จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุสบทมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจห้างบิ๊กซี และ รปภ.  ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ น.ส.จารียา  คงใจดี อายุ 32  ปี  ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนพักอยู่เลขที่ 87 หมู่ 7 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง  จึงได้ยึดสมุดบัญชี และเอกสารต่างๆนำตัวไปทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองลำปาง

ต่อมาได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าว ทราบชื่อคือ น.ส.เปมิกา ใจบ่อแป้น อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 หมู่ 7 ต.บ้านค่า อ.เมือง จ.ลำปาง  เดินทางมาที่ สภ.เมืองลำปาง เพื่อแจ้งความกับ  ร.ต.อ.หญิง นิติยา ขัดแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง  ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.จารียา ผู้ก่อเหตุ

 

น.ส.เปมิกา ใจบ่อแป้น  เปิดเผยว่า ตนเองได้เลิกรากับอดีตสามีได้ 5 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คนปัจจุบันอายุ 8 ปี ซึ่งลูกอยู่กับอดีตสามี จึงได้เปิดบัญชีธนาคารไว้ 2 บัญชี คือ ธนาคารกรุงเทพ สาขาบิ๊กซี เป็นบัญชีชื่อของตน  และธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานาก่วม เป็นบัญชีชื่อของลูกชาย  และโอนเงินเก็บไว้ในบัญชีทั้งสองเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูก ซึ่งจะฝากสมุดบัญชีไว้ที่อดีตสามี จะไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้   หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างไปมีครอบครัวใหม่เป็นของตนเอง  ตนเองได้แต่งงานใหม่ และเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีกับสามีได้ประมาณ 1 ปี 7 เดือนแล้ว ระหว่างนั้นก็ได้โอนเงินเก็บเข้าบัญชีมาเรื่อยๆ โดยยอดเงินในบัญชีธนาคารกรุงเทพจะมีอยู่ประมาณ 1.2 ล้านบาท ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์มีอยู่ 1.5 แสนบาท  กระทั่งประมาณกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทราบข่าวว่าอดีตสามีได้ถูกจับกุมคดียาเสพติด  ตนจึงเป็นห่วงลูกได้บินจากเกาหลีกลับมาบ้านที่ลำปาง เมื่อวันที่ 25 ก.ค.61 ที่ผ่านมา เพื่อรับลูกไปดูแล  จากนั้นวันที่ 30 ก.ค.61 จึงได้ไปกดเอทีเอ็มเพื่อเช็คยอดเงินในบัญชีของธนาคารกรุงเทพ แต่ปรากฏว่าตกใจมากยอดเงินในบัญชีเหลือเพียง 2.8 แสนบาท ทั้งที่ตนโอนเงินเข้ามาในบัญชีเดือนละหลายหมื่นบาท  จึงได้ไปสอบถามที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบิ๊กซีลำปาง ซึ่งเป็นสาขาที่ไปเปิดบัญชี ทางพนักงานก็แจ้งว่ามีคนมาถอนเงินออกไป  เมื่อตรวจสอบสเตทเม้นย้อนหลังพบว่ามีการถอนเงินออกจากบัญชีหลายครั้ง ครั้งละ 5-6 หมื่นบาท  ตนจึงได้ไปตรวจสอบยอดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ของลูกด้วย ก็พบว่าเหลือเงินในบัญชีเพียง 5,000 บาทเท่านั้น เนื่องจากตอนนั้นยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนถอนเงินออกไป ตนจึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานไว้ก่อน

น.ส.เปมิกา กล่าวว่า  ในวันเกิดเหตุนี้ ทางธนาคารกรุงเทพจากสำนักงานใหญ่ ได้โทรศัพท์มาแจ้งตนว่ามีคนไปถอนเงินในบัญชีที่สาขาบิ๊กซีลำปาง  ตนจึงรีบเดินทางไปที่ธนาคารทันที และพบว่าคนที่มาถอนเงินคือ แฟนใหม่ของอดีตสามีของตน  โดยทราบว่ามีการนำใบขับขี่รถยนต์ใบเก่าของตนเองที่หมดอายุแล้ว และปลอมลายเซ็นของตนมาถอนเงินออกไป ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมธนาคารถึงยินยอมให้ถอนออกไปได้ ทั้งที่บัตรหมดอายุและคนมาถอนก็ไม่ใช่เจ้าของบัญชี และจะต้องตรวจสอบยอดเงินที่แท้จริงที่ถูกถอนออกไป ซึ่งรอเอกสารจากธนาคารอยู่ แต่เบื้องต้นเงินของตนได้หายไปกว่า 1 ล้านบาท ในเรื่องนี้ตนได้มีการประสานงานกับทางทนายความเพื่อจะดำเนินการต่อไปว่ามีข้อผิดพลาดอย่างไร ถึงมีการให้ถอนเงินในบัญชีออกไปหลายครั้ง ต้องมีคนรับผิดชอบในเรื่องนี้


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1191 วันที่ 10 - 16 สิงหาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์