วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561

พระเทพฯ เสด็จ ตามรอยพ่อ งานเกษตรลำปาง

จำนวนผู้เข้าชม

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ ค่ายสุรศักดิ์มนตรี อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

เมื่อเวลา 09.26 น. วันที่ 22 ส.ค.61  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังค่ายสุรศักดิ์มนตรี อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ทอดพระเนตรโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งมณฑลทหารบกที่ 32 ได้ขยายพื้นที่โครงการฯ เพื่อสร้างความยั่งยืนและขยายแนวคิดไปสู่หน่วยทหารอื่น ๆ ในค่ายสุรศักดิ์มนตรี โดยมุ่งหวังให้กำลังพลเป็นแกนนำในการทำเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจ จึงได้ปรับพื้นที่บริเวณโครงการแก้มลิงให้เป็นพื้นที่กสิกรรมแบบครบวงจร มีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์กบนา ได้ทดลองเลี้ยงกบนา 3 รูปแบบ คือ เลี้ยงในบ่อกระชัง, บ่อซีเมนต์ และเลี้ยงแบบรีสอร์ตธรรมชาติ ซึ่งการเลี้ยงแบบรีสอร์ตธรรมชาติได้ผลดีทำให้กบโตเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการผสมพันธุ์ เพื่อช่วยให้กบขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีรายได้จากการจำหน่ายเดือนละ 3,000-5,000 บาท, กิจกรรมปลูกผักตามวิถีศรีเขลางค์นคร ปลูกผัก พื้นเมืองที่มีมากในพื้นที่ โดยเฉพาะผักที่เป็นเครื่องเคียงรับประทานกับลาบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดลำปาง แบ่งการปลูกเป็น 7 โซน มีผัก 54 ชนิด อาทิ ผักแปม ดีปลากั้ง ตะไคร้ และผักไผ่ ผลผลิตที่ได้จะนำไปส่งให้กับโรงเลี้ยง และร้านลาบในพื้นที่โดยรอบค่ายฯ และใกล้เคียง เพื่อสร้างรายได้ให้กับกำลังพล, ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อฝึกอบรมให้ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์แก่กำลังพลในพื้นที่โครงการฯ ตลอดจนประชาชนและหน่วยงานที่สนใจ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การทำเตาเผาถ่านจากถัง 200 ลิตร, การเพาะเห็ดลมจากขอนไม้, การเลี้ยงไส้เดือน, การเพาะเห็ดโคนน้อย และการทำน้ำหมักกำจัดและไล่แมลง

จากนั้น ทอดพระเนตรกิจกรรมของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 17 ซึ่งเริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีสมาชิก 20 นาย โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ โครงการเลี้ยงจิ้งหรีดพันธุ์ทองดำ ที่สร้างรายได้ 1,200-1,600 บาทต่อการเลี้ยง 1 บ่อ, โครงการแปลงผักสวนครัว 4,000 แปลง มีพันธุ์ผักกว่า 30 ชนิด อาทิ ถั่วฝักยาวสีม่วงสิรินธร, ฟักทองราชมงคล, และมันเทศญี่ปุ่น ผลผลิตนำไปประกอบอาหารในโรงประกอบเลี้ยงของหน่วยได้อย่างเพียงพอ, โครงการเลี้ยงปลานิลจิตรลดา 4 มีลักษณะเด่น คือ ส่วนหัวเล็ก ลำตัวกว้าง สันหนา เนื้อมาก เจริญเติบโตเร็วกว่าปลานิลทั่วไป, โครงการเลี้ยงไก่กระดูกดำพันธุ์ชี้ฟ้า 13 ตัว และพันธุ์ฟ้าหลวง 37 ตัว ซึ่งเป็นไก่พื้นเมือง เพื่อเพาะขยายพันธุ์จำหน่ายในชุมชน, โครงการเลี้ยงไก่ไข่พันธุ์ลูกผสม จากพ่อพันธุ์โร๊ดไอแลนด์เรด กับแม่พันธุ์บาร์พลีมัทร๊อค สามารถแยกเพศได้ตั้งแต่แรกเกิด และให้ผลผลิตดี และโครงการเลี้ยงเป็ดไข่พันธุ์กากีแคมป์เบลล์ที่ให้ผลผลิตไข่มาก มีอัตราไข่เฉลี่ย 100 ตัว อยู่ที่ 65 ฟองต่อวัน

ด้านกองร้อยฝึกการรบพิเศษที่ 3 มีกิจกรรม 4 โครงการ เพื่อลดต้นทุนการผลิต เกิดการหมุนเวียนวัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้แก่ การเลี้ยงปลาช่อนเชิงนิเวศน์ร่วมกับปลานิล โดยให้อาหารจากสิ่งที่หาได้ในพื้นที่ คือ หญ้าเนเปียร์เสริมโปรตีนจากปลวกและไส้เดือน พบว่า ปลาช่อนมีน้ำหนักและความยาวเพิ่มขึ้น, กิจกรรมสวนเกษตรลดรายจ่าย, เห็ดฟางเพิ่มรายได้, และเรือนเพาะชำทำกำไร ภายใต้แนวคิดปลูกพืชผักกินได้ กินทุกอย่างที่ปลูก ส่วนที่เหลือแบ่งปันจำหน่ายเสริมรายได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยมีรายรับในห้วง 3 เดือนที่ผ่านมารวม 5,256 บาท นอกจากนี้ ยังมีการปลูกกระเจี๊ยบเขียว พริกชี้ฟ้า บวบงู น้ำเต้า และพริกพันธุ์จินดา ที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และเบาหวาน คาดว่าจะให้ผลผลิต 200 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ 1 งาน จำหน่ายกิโลกรัมละ 40 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วสามารถทำกำไรได้ 7,212 บาทต่อไร่

โอกาสนี้ ทรงปล่อยปลานิลจิตรลดาพระราชทาน 50,000 ตัว ลงในบ่อเลี้ยงปลา เพื่อขยายพันธุ์ตามธรรมชาติและเป็นแหล่งโปรตีนแก่กำลังพล จากนั้น ประทับรถรางพระที่นั่งไปทอดพระเนตรแปลงสมุนไพร เพื่อการอนุรักษ์พันธุ์สมุนไพรหายาก รวมทั้งเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ และเป็นผักสวนครัวให้แก่กำลังพล พร้อมกับทอดพระเนตรการสาธิตทำลูกประคบสมุนไพร เพื่อลดรายจ่ายในงานแพทย์แผนไทยของโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี

การดำเนินงานโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ ค่ายสุรศักดิ์มนตรี นอกจากจะช่วยลดรายจ่ายในชีวิตประจำวันของกำลังพลและครอบครัว รวมทั้งได้ผลผลิตส่งให้โรงประกอบเลี้ยง และจำหน่ายส่วนที่เหลือเป็นรายได้เสริม ยังเป็นการสร้างทหารพันธุ์ดีที่มีความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ เพื่อขยายผลสู่ท้องถิ่นหลังปลดประจำการ ตลอดจนเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านการเกษตรอินทรีย์ของประชาชน 

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1193 วันที่ 24 - 30 สิงหาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์